1 ก.พ.ของทุกปีคือเส้นตายสุดท้ายที่คณะกรรมการคัดเลือกรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ (The Norwegian Nobel Committee) จะเปิดรับรายชื่อผู้เข้าชิงรางวัลดังกล่าว โดยรายชื่อส่วนหนึ่งของผู้เข้าชิงปีนี้เปิดออกมาแล้ว
BLM ไม่ใช่แค่เรื่องของแอฟริกัน-อเมริกัน
การเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องสิทธิของชาวแอฟริกันอเมริกันภายใต้ชื่อ Black Lives Matter (คนดำมีค่า) คือหนึ่งในผู้เข้าชิงสำคัญสำหรับปี 2564 นี้ จากความพยายามผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบในมิติของการเหยียดเชื้อชาติ-สีผิว
ในจดหมายที่ 'เพตเตอร์ ไอด์' สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรชาวนอร์เวย์เขียนเพื่อเสนอให้ BLM เข้าชิงนั้น เขาระบุว่า ความท้าทายที่สังคมต้องเผชิญจากการเหยียดเชื้อชาติซึ่งเป็นรากฐานนำไปสู่ความเหลื่อมล้ำไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในสหรัฐฯ เท่านั้น แต่ยังพบเห็นได้ในยุโรปไปจนถึงเอเชีย
"Black Lives Matter กลายเป็นการเคลื่อนไหวเพื่อต่อสู้กับความอยุติธรรมทางเชื้อชาติที่มีความสำคัญระดับโลก...พวกเขาประสบความสำเร็จในการสร้างความตื่นรู้ให้กับผู้คนทั่วโลกกับประเด็นความอยุติธรรมทางเชื้อชาติ"
- ผู้ร่วมประท้วง Black Lives Matter ถือป้ายที่มีใจความว่า "หยุดฆ่าเรา"
เท่านั้นยังไม่พอ เพตเตอร์ อธิบายเหตุผลที่เขาเลือกเสนอชื่อ BLM เพิ่มว่า "พวกเขาไม่เพียงขับเคลื่อนให้ชาวแอฟริกัน-อเมริกันออกมาเคลื่อนไหว แต่เป็นทุกภาคส่วนจากทุกกลุ่มสังคม ไม่ใช่แค่กลุ่มคนที่ถูกกดทับ สิ่งนี้กลายเป็นการเคลื่อนไหวขนาดใหญ่ในมิติที่แตกต่างจากสิ่งที่บรรพบุรุษของพวกเขาเคยทำ"
กลุ่มก้อนการเคลื่อนไหวภายใต้ชื่อ Black Lives Matter ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 2556 ด้วยความร่วมมือของ อลิเซีย การ์ซา, พาทริซส์ คูลลอรส์ และ โอปอล โทเมติ หลังศาลตัดสินปล่อยตัว 'จอร์จ ซิมเมอร์แมน' ผู้ต้องหาฆาตกรรม 'เทรวอน มาร์ติน' เด็กหนุ่มที่ถูกยิงเสียชีวิตในวัย 17 ปี
BLM ได้รับความสนใจมากขึ้นหนึ่งปีต่อมาจากกาประท้วงเรียกร้องความเป็นธรรมกรณีการเสียชีวิตของ 'อีริก การ์เนอร์' ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ล็อกคอจากด้านหลังก่อนกดตัวเขาลงกับพื้น จนเขาต้องตะโกนออกมาว่า 'หายใจไม่ออก' ทว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้ปล่อยให้เขามีอิสระในการหายใจจนนำไปสู่การเสียชีวิตในเดือน ก.ค. 2557
เช่นเดียวกับคดีของ 'ไมเคิล บราวน์' วัยรุ่นอายุ 18 ปี ที่ถูกตำรวจยิงเสียชีวิตเมื่อเดือน ส.ค. 2557 หลังจากที่เขาถูกสั่งให้หยุดเพื่อค้นตัวขณะออกจากร้านขายของชำและบราวน์ขัดขืนต่อสู้
การเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิคนแอฟริกัน-อเมริกัน มาได้รับความสนใจอย่างมากอีกครั้งจากการประท้วงเรียกร้องความยุติธรรมในกับ 'จอร์จ ฟลอยด์' ชายอีกหนึ่งคนที่เสียชีวิตจากการ 'หายใจไม่ออก' ซึ่งเกิดจากน้ำมือของเจ้าหน้าที่รัฐ เมื่อปี 2563 ที่ผ่านมา
'สเตซีย์ อับรามส์' ผู้ไม่แพ้
'สเตซีย์ อับรามส์' คือนักการเมืองจากพรรคเดโมแครตผู้ปราชัยในการเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐจอร์เจียด้วยผลต่างเพียง 55,000 คะแนน ในปี 2561 แต่หากมองให้ลึกไปกว่านั้น สตรีวัย 46 ปี ที่พ่วงอาชีพต่อท้ายอีกหลายอาทิ ทนายความ, นักธุรกิจ ไปจนถึงนักเขียนนิยายโรแมนซ์ คือหนึ่งในจุดแข็งสำคัญที่นำมาซึ่งชัยชนะของ 'โจ ไบเดน' ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนปัจจุบัน
หลังพ่ายแพ้การชิงเก้าอี้ผู้ว่าการรัฐฯ สเตซีย์มุ่งความทุ่มเทมาที่การรณรงค์ให้สตรีเชื้อสาย แอฟริกัน-อเมริกันเข้าถึงการลงคะแนนเลือกตั้งในรัฐจอร์เจียอย่างเข้มข้น เพื่อป้องกันไม่ให้คะแนนเสียงของอเมริกันชนถูกบิดเบือน
- 'สเตซีย์ อับรามส์' คือนักการเมืองจากพรรคเดโมแครต
มีรายงานว่าระหว่างปี 2553-2561 ไบรอัน เคมป์ ผู้ว่าการรัฐจอร์เจียในช่วงเวลาดังกล่าวพยายามกวาดล้างคะแนนเสียงของประชาชนมากถึง 1.4 ล้านคะแนนจากการนับผลการเลือกตั้ง ส่วนหนึ่งผ่านการปฏิเสธการลงทะเบียนเพื่อเลือกตั้งของประชาชนที่ไม่ได้เลือกตั้งครั้งก่อน
เท่านั้นยังไม่พอ ในปี 2561 คำร้องเพื่อลงทะเบียนเลือกตั้งของพลเมืองราว 53,000 คน ยังถูกจัดไปไว้ในสถานะ "รอดำเนินการ" เนื่องจากกฎหมายของรัฐที่ "ประจวบเหมาะ" ระบุว่าในการยื่นคำร้องเพื่อเลือกตั้งที่ต้องเขียนด้วยมือนั้นต้องมีลายมือที่เหมือนกับเอกสารส่วนบุคคล
The Atlantic รายงานเพิ่มว่า จากทั้งหมด 53,000 คนนั้น กว่า 80% เป็นชาวแอฟริกัน-อเมริกัน ที่มีแนวโน้มจะเลือกนักการเมืองจากพรรคเดโมแครตเป็นหลัก
ด้วยความพยายามผลักดันการรณรงค์การเลือกตั้งในรัฐจอร์เจียอย่างต่อเนื่องและทั่วถึง ส่งผลให้ โจ ไบเดน พลิกขึ้นมามีคะแนนนำโดนัลด์ ทรัมป์ ราว 12,000 เสียง จากผู้ลงคะแนนรวมทั้งหมดกว่า 5 ล้านคน
เท่านั้นยังไม่พอ ในสนามการเลือกตั้งวุฒิสภาของรัฐจอร์เจียที่เปรียบได้กับหนังโกงตายดีๆ เรื่องหนึ่ง ท้ายสุดแล้ว บาทหลวงราฟาเอล วาร์น็อค จากโบสถ์ในนครแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย เอาชนะวุฒิสมาชิกเคลลี เลฟเฟลอร์ จากพรรครีพับลิกันไปได้ ส่งผลให้วาร์น็อคกลายเป็นสมาชิกพรรคเดโมแครตผิวสีคนแรกที่ชนะการเลือกตั้งวุฒิสมาชิกในรัฐที่เคยเป็นของรีพิบลิกัน เอื้อในการผ่านกฎหมายให้กับเดโมแครตเพิ่มขึ้น
ขั้นตอน-วิธีการคัดเลือก
แท้จริงแล้วรายชื่อของผู้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพโลกประจำปี 2564 ยังมีอีกมาก อาทิ 'อเล็กซี นาวัลนี' นักเคลื่อนไหวผู้เบิกเนตรราษฎรรัสเซียและลุกขึ้นท้าทายอำนาจปูติน, องคืการอนามัยโลก (WHO), เกรตา ธันเบิร์ก ที่เคยได้รับการเสนอชื่ออย่างต่อเนื่องมาตั้งปี 2562 เช่นเดียวกับ 'แดเนียล เอลสเบิร์ก' ผู้เปิดเผย 'เอกสารลับเพนตากอน' ที่เกี่ยวข้องกับสงครามเวียดนาม
อย่างไรก็ดี ตามกฎเกณฑ์ของคณะกรรมการรางวัลโนเบล จะไม่มีการประกาศรายชื่อของผู้ถูกเสนอชื่อทั้งหมดอย่างเป็นทางการเป็นเวลา 50 ปี นับตั้งแต่มีการส่งจดหมายนำเสนอรายชื่อเหล่านั้น
ตามปกตินั้น คณะกรรมการรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ จะเริ่มเตรียมตัวเพื่อรับจดหมายนำเสนอผู้เข้าชิงรางวัลตั้งแต่ช่วงเดือน ก.ย. เรื่อยมาจนถึงวันกำหนดปิดรับรายชื่อดังกล่าวในวันที่ 1 ก.พ.ของทุกปี
จากนั้นช่วงเดือน มี.ค.คณะกรรมการฯ จะทำการคัดเลือกรายชื่อผู้ถูกนำเสนอจำนวนหนึ่ง ก่อนจะใช้เวลาตั้งแต่เดือน เม.ย.-ก.ค. ในการพิจารณาให้ถี่ถ้วนอีกครั้ง หลังจากการลงคะแนนคัดเลือกครั้งใหญ่ จะมีการประกาศในเดือน ต.ค. ก่อนจัดงานมอบรางวัลจริงๆ ในเดือน ธ.ค.
ตามเกณฑ์ทั่วไปนั้นผู้ใดก็สามารถถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลดังกล่าวได้อย่างไม่มีเงื่อนไขพิเศษนอกจากผลงานอันเป็นที่ประจักษ์ อย่างไรก็ดี กฎเกณฑ์หลายอย่างไปตกอยู่กับฝั่งผู้เสนอชื่อซึ่งต้องตรงตามเงื่อนไขใดเงื่อนไขหนึ่งต่อไปนี้ อาทิ เป็นอดีตที่ปรึกษาของคณะกรรมการรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ หรือเคยได้รับรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพเป็นต้น
อ้างอิง; Nobelprize.org, CNN(1), CNN(2), CNN(3), CNBC(1), CNBC(2), The Guardian(1), The Guardian(2), Reuters(1), Reuters(2), The Atlantic
ข่าวที่เกี่ยวข้อง;
