นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือน พ.ค. 2562 อยู่ที่ 77.7 ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 อยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 19 เดือน นับตั้งแต่เดือน พ.ย. 2560 โดยเป็นการปรับตัวลดลงทุกรายการ ทั้งดัชนีเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสหางานทำโดยรวม และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต ขณะที่ดัชนีทางการเมืองต่ำที่สุดในรอบ 59-60 เดือน สะท้อนว่าผู้บริโภคยังคงมีความกังวลและระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย ซึ่งยังไม่เห็นสัญญาณการฟื้นตัว
โดยปัจจัยสำคัญ เป็นผลมาจากความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพทางการเมืองในอนาคต นอกจากนี้ผู้บริโภคยังมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจไทยที่ยังฟื้นตัวช้าและกำลังซื้อของประชาชน ประกอบกับสถานการณ์ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกเนื่องจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่มีความรุนแรงมากขึ้น
นายธนวรรธน์ ระบุว่า หากสามารถจัดตั้งคณะรัฐมนตรีได้ภายในเดือนกรกฎาคม และดำเนินนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจ จะช่วยให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น ภายใต้สถานการณ์สงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐไม่แย่ลงไปกว่ามากกว่านี้ โดยประเมินว่าในไตรมาส 2 เศรษฐกิจไทยน่าจะเติบโตในระดับร้อยละ 2.8-3.2 ส่งผลให้ครึ่งปีแรกโตร้อยละ 2.9 ได้ และหากมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมอัดฉีดงบประมาณเข้าระบบอีก 3-5 หมื่นล้านบาท จะผลักดันให้เศรษฐกิจครึ่งปีหลังโตได้ร้อยละ 4 หรือทำให้ทั้งปีจีดีพีโตเฉลี่ยร้อยละ 3.5
ทั้งนี้ นายธนวรรธน์ ยังได้ประเมินว่า หากเกิดการเมืองวุ่นวาย มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชน จนต้องใช้กำลังเจ้าหน้าที่ แม้จะกระทบต่อการท่องเที่ยวโดยตรง แต่จะกระทบกับเศรษฐกิจไทยไม่มาก หรือลดลงไม่เกินร้อยละ 0.25 โดยจากสถิติในรอบ 60 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยจะติดลบจากปัจจัยภายนอกทั้งสิ้น
“ธนวรรธน์” เชื่อ “สมคิด” ยังนำทีม ครม.เศรษฐกิจชุดใหม่
ด้านนายธนวรรธน์ พลวิชัย แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมว่า การจัดตั้งคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. ชุดใหม่ภายใต้รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ จะเป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่วางไว้ คือ ไม่เกินเดือน ก.ค.นี้ ซึ่งยังมองว่าทีม ครม.เศรษฐกิจชุดใหม่ พล.อ.ประยุทธ์ จะยังคงนำทีมโดยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และนายอุตตม สาวนายน
ส่วนประเด็นที่มีกระแสข่าวว่าฝั่งพรรคร่วมรัฐบาลยังไม่สามารถตกลงเก้าอี้รัฐมนตรีได้นั้น รวมถึงการเรียกคืนเก้าอี้รัฐมนตรีบางส่วน นายธนวรรธน์ ระบุว่า เป็นเรื่องปกติในทางการเมือง เชื่อว่าจะไม่ส่งผลให้การจัดตั้ง ครม.ใหม่ล่าช้าออกไป แม้จะเป็นรัฐบาลผสมและมีหลายพรรคการเมือง โดยยังมองว่าเป็นเชิงกึ่งบวกต่อเศรษฐกิจไทย เนื่องจากการวิเคราะห์จากหลายฝ่ายระบุว่ารัฐบาลชุดใหม่จะไม่มีเสถียรภาพจากคะแนนเสียงที่ค่อนข้างปริ่มน้ำ หรืออาจจะอยู่ได้เพียง 6 เดือนถึง 1 ปี ไม่ครบตามวระ จะเป็นแรงขับเคลื่อนให้ผู้ที่จะเข้ามาทำงานต้องทำงานให้ในเชิงประจักษ์มากขึ้น เนื่องจากจะส่งผลต่อคะแนนเสียงในการเลือกตั้งครั้งหน้าโดยตรง