ไม่พบผลการค้นหา
บริษัทด้านไอทียักษ์ใหญ่ของจีนกลับมาฟื้นความสัมพันธ์กับ NBA ของสหรัฐฯ อีกครั้ง หลังเกิดดราม่า ผู้จัดการทีมฮุสตันร็อกเก็ตส์ทวีตรูปภาพ 'สนับสนุนฮ่องกง'

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สมาคมบาสเกตบอลแห่งชาติสหรัฐฯ หรือ NBA ต้องรับมือกับสถานการร์ความวุ่นวายระดับนานาชาติ หลังจากที่ดาริล มอเรย์ ผู้จัดการทีมฮุสตันร็อกเก็ตส์ (Houston Rockets) ได้ทวีตรูปภาพที่แสดงข้อความว่า'สู้เพื่อเสรีภาพ ยืนหยัดข้างฮ่องกง' ในวันที่ 4 ตุลาคม ซึ่งเป็นการกระทำที่สร้างความไม่พอใจอย่างมากให้กับแฟนบาสเก็ตบอลชาวจีน เนื่องจากฮุสตันเป็นทีมที่ชาวจีนนิยมมากที่สุด เพราะ เหยาหมิง ประธานสมาคมบาสเกตบอลจีน หรือ CBA และอดีตนักบาสฯ ชาวจีนเคยเล่นอยู่ในทีมนี้ตั้งแต่ปี 2002 กระทั่งเกษียณตัวเองออกมาในปี 2011


000_1LG1GF.jpg

ซึ่งเหตุการรุนแรงขึ้นไปอีกขั้นเมื่อกลุ่มธุรกิจต่างๆ ที่เกี่ยวข้องก็พากันแบน NBA โดยสถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน หรือ CCTV ได้ระงับการถ่ายทอดการแข่งขันพรีซีซันของ NBA ทั้งหมด บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่างเทนเซนต์ ผู้ถ่ายทอดออนไลน์การแข่งขันเอ็นบีเอ และบริษัทสมาร์ตโฟนวีโว่ ก็ประกาศตัดขาดความสัมพันธ์กับ NBA และเหตุการณ์ลุกลามกระทั่งกระทบกับหุ้นของ Nike แบรนด์อุปกรณ์กีฬาที่เป็นผู้สนับสนุนหลักของเอ็นบีเอ ทำให้เกิดการเทขายหุ้นอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม CNN รายงานว่าเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาดูเหมือนสถานการณ์จะเริ่มคลี่คลาย เมื่อบริษัทเทรเซนต์ของจีน ได้กลับมาถ่ายทอดสดการแข่งขันผ่านช่องทางออนไลน์ของสมาคมบาสเกตบอลจีน หรือ CBA อย่างเงียบๆอีกครั้ง โดยเป็นแมตช์การแข่งขันบาสเก็ตบอล 2 แมตช์ระหว่าง 'โตรอนโต แรปเตอร์ส' และ 'ชิคาโก บูลส์' จัดขึ้นในเมืองโตรอนโตของแคนาดา และแมตช์ระหว่าง 'มัคคาบี ไฮฟา' จากอิสราเอล 'มินนิโซตา ทิมเบอร์วูล์ฟ' โดยคู่นี้แข่งขันกันที่เมืองมินนิอาโปลิสของรัฐมินนิโซตาในสหรัฐฯ 


063_1176120474.jpg

หลังมีความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้น ผู้สื่อข่าว CNN ได้ติดต่อสอบถามไปยังโฆษกของบริษัทเทนเซนต์ ซึ่งได้รับการยืนยันกลับมาว่าทางเทนเซนต์ยังคงยึดหลักตามที่ได้แถลงไปแล้วเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าจะแบนการถ่ายทอดการแข่งขันที่มีทีมของจีนร่วมอยู่ด้วย 

อย่างไรก็ตามการที่บริษัทเทนเซนต์กลับมาถ่ายทอดสดผ่านช่องทางออนไลน์ หรือ 'ไลฟ์สตรีม' อีกครั้งนั้น ได้รับความสนใจอย่างมากจากผู้คนบนแพลทฟอร์มโซเชียลมีเดียของจีนอย่าง 'เว่ยป๋อ' โดยชาวจีนต่างกล่าวหาว่าบริษัทเทนเซนต์นั้นใช้ช่องโหว่ของเหตุการณ์นี้ เพื่อเชื่อมสัมพันธ์กับ NBA ของสหรัฐฯอีกครั้ง โดยไม่สนใจว่าจะถูกวิจารณ์ในภายหลัง

หนึ่งในผู้ใช้งานเว่ยป๋อแสดงความคิดเห็นว่า "ฉันเพิ่งมาเห็นชัดๆอีกครั้งว่าเทนเซนต์สปอร์ตใช้คำว่า (China games) ในแถลงการณ์ที่ประกาศออกมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มันเป็นเหมือนการเล่นกับคำและทำให้ผู้คนเข้าใจไปอีกทางหนึ่งว่าจะแบนการถ่ายทอดสดทั้งหมด"

ขณะที่ผู้ใช้งานเว่ยป๋ออีกคนกล่าวว่า "มันน่าอายมาก นี่ยังไม่ถึง 6 เดือนด้วยซ้ำ แต่ชาวจีนกลับลืมไปหมดแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น"

ซึ่งความเห็นนี้สอดคล้องกับที่ ริค เวลต์ส ประธานและ COO ของทีมบาสเก็ตบอลโกลเดนสเตทวอร์ริเออร์ส (Golden State Warriors) จากแคลิฟอร์เนียได้กล่าวไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า สถานการณ์การที่ NBA ถูกแบนจากบรรดาบริษัทของจีนและแฟนๆชาวจีน น่าจะต้องใช้เวลาประมาณ 6 เดือนในการฟื้นฟูการยอมรับและความเชื่อมันให้กลับมาอีกครั้ง


000_1LD124.jpg

ทั้งนี้ประเทศจีนเป็นตลาดที่ใหญ่มาสำหรับ NBA โดยนิตยสารฟอร์บส์ชี้ว่า NBA China ซึ่งดำเนินธุรกิจของเอ็นบีเอในจีนนั้น มีมูลค่ากว่า 122,000 ล้านบาท และเมื่อซีซั่นที่ผ่านมาเพียงซีซั่นเดียวมีแฟนๆชาวจีนรับชมการแข่งขันของ NBA ผ่านแพลทฟอร์มของเทนเซนต์อย่างเดียวมากกว่า 500 ล้านคน และมากไปกว่านั้น NBA ยังได้เข้ามาลงทุนเป็นจำนวนเงินมหาศาลเพื่อสร้างสนามบาสเก็ตบอลทั่วประเทศจีนไปแล้วด้วย