เมื่อวันที่ 6 ต.ค. ที่พรรคอนาคตใหม่ ชั้น 5 อาคารไทยซัมมิท จัดกิจกรรมครบรอบ 1 ปีสมัครสมาชิกพรรค โดยงานนี้มีชื่อว่า “มาสิครับผมจะเล่าให้ฟัง” ซึ่ง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ บอกเล่าเรื่องราวในรอบปีที่ผ่านมา โดยมี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ น.ส.กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ และ นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ร่วมดำเนินรายการ
โดยนายธนาธร ให้สัมภาษณ์ว่า งานในวันนี้จัดขึ้นเพื่อครบรอบ 1 ปีของการรับสมัครสมาชิก พรรคอนาคตใหม่ได้รับการอนุมัติให้เป็นพรรคการเมืองอย่างเป็นทางการ จากคณะกรรมการการเลือกตั้ง ตั้งแต่วันที่ 3 ต.ค.ปีที่แล้ว ดังนั้นวันที่ 6 ต.ค.ปีที่แล้วจึงเริ่มการสมัครสมาชิกพรรคเกิดขึ้นที่นี่ และสมาชิกรายปีของเราที่หมดลงได้ต่อสมาชิกพรรค และอีกเหตุผล เพราะตรงกับวันสำคัญทางประวัติศาสตร์การเมืองในประเทศไทยอีกวันหนึ่ง นั่นก็คือ 6 ต.ค. 2519 ซึ่งวันนี้ครบรอบ 43 ปี หวังว่าสังคมไทยจะไม่ลืมเหตุการณ์นี้ เพราะถ้าเราลืมเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 มันก็จะเกิดขึ้นซ้ำอีก
"ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา เราต้องเรียนรู้จากความผิดพลาด แล้วก็สร้างพรรคที่แข็งแกร่ง พรรคที่ยึดโยงกับสมาชิก พรรคที่ยึดโยงกับมวลชน ให้ก้าวไกลมากขึ้น ตัวผมเองก็ต้องเรียนรู้อีกเยอะ และอยากจะเรียนสมาชิกชาวอนาคตใหม่ทุกคนให้ก้าวต่อไปด้วยกัน ส่วนก้าวต่อไปของอนาคตใหม่นั้น งานสภาผู้แทนราษฏรจะต้องทำให้ดีที่สุด ให้สมกับพี่น้องประชาชนให้ความไว้วางใจพวกเรา จะผลักดันกฏหมายให้ก้าวหน้าที่เป็นนโยบายของพรรคให้ได้ในสภาผู้แทนราษฏร ในส่วนต่อมาคือการสร้างพรรคให้เข้มแข็ง เผยแพร่แนวคิด อุดมการณ์ และนโยบายของพรรค สร้างฐานสมาชิกให้กว้างขึ้น สร้างฐานของเงินทุนที่ใช้ในการทำพรรคให้กว้างขึ้น และในส่วนสุดท้ายคือการเมืองท้องถิ่น พรรคอนาคตใหม่ได้ประกาศไปแล้วว่าเราจะทำการเมืองท้องถิ่นด้วย จะต้องให้ความสำคัญ แบ่งเวลาและทรัพยากรไปให้กับการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่จะเกิดขึ้น" นายธนาธร กล่าว
จากนั้น นายธนาธรได้อธิบายถึง 10 รูปภาพ จากเหตุการณ์ต่างๆที่ออกไปสู่สังคมออนไลน์ โดยมีรูปหนึ่งเป็นรูปปิดตาซ้าย ขณะที่ร่วมงานเสวนารณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งนายธนาธร เล่าว่า วันนั้นได้พาครอบครัวไปทำงาน รวมถึงลูกชายคนเล็กด้วย ระหว่างที่นั่งอยู่ในรถช่วงหัวค่ำ ลูกชายคนเล็กได้เอานิ้วจิ้มตาโดยที่ตนไม่ทันระหว่างเนื่องจากในรถค่อนข้างมืด ทำให้ตาอักเสบต้องใช้ผ้าปิดตา ซึ่งมีความเจ็บและปวดมาก คืนนั้นถึงกับนอนไม่ได้เลย จึงเป็นที่มาของภาพที่ตนปิดตาซ้ายที่ขอนแก่น
ทั้งนี้ในช่วงหนึ่ง นายธนาธร ได้กล่าวถึง นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ว่า ในคนรุ่นราวคราวเดียวกัน นักกฎหมายระดับมหาชนในประเทศไทย ตนยังไม่เคยเห็นใครที่มีความรู้ความสามารถเท่ากับนายปิยบุตรมาก่อน ต้องบอกว่าเป็นโชคดีของพรรคอนาคตใหม่ ที่มี อาจารย์ปิยบุตร เป็นเลขาธิการพรรค เสียสละหน้าที่การงานทางวิชาการที่มั่นคง มาเล่นการเมืองที่มีความไม่มั่นคงอย่างนี้ และอยากขอบคุณที่มาร่วมกันสร้างพรรค และร่วมต่อสู้เปลี่ยนแปลงสังคมให้ก้าวหน้าและเท่าเทียม
ชี้ชนชั้นนำไทยหวังลบภาพ 6 ต.ค. วอนประชาชนอย่าเพิ่งหมดหวัง
นายธนาธร กล่าวต่อว่า นอกจากวันนี้จะเป็นวันครบรอบสมัครสมาชิกพรรคครบ 1 ปี แล้ว สิ่งที่สำคัญกว่าคือ เมื่อ 43 ปีที่แล้ว เป็นวันที่คนไทยสูญเสียความรัก ความเมตตาให้กับการยุยงปลุกปั่นให้เกิดความเกลียดชัง จนกลายเป็นประวัติศาสตร์ที่ศาสตราจารย์ธงชัย วินิจจกูล ผู้อยู่ร่วมในเหตุการณ์ในวันนั้น ได้ให้นิยามไว้ว่า 'ลืมไม่ได้ จำไม่ลง' ขอให้ทุกท่านระลึกถึงพวกเขา ทั้งผู้ที่จากไปแล้ว และผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่ไม่เคยลืมความโหดร้าย ที่เพื่อนมนุษย์มอบให้กัน
"ชนชั้นนำในสังคมไทย พยายามลบเหตุการณ์ 6 ต.ค. 2519 ออกจากหน้าประวัติศาสตร์ มีประชาชนมากมายถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยม เจ้าหน้าที่รัฐปราบปรามประชาชน บีบคั้นนักศึกษาและคนรุ่นใหม่ให้ต้องเข้าร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย จับปืนต่อสู้กับรัฐไทยที่กดขี่ข่มเหงรังแกประชาชน นี่คือสิ่งที่ไม่มีในหนังสือเรียน มีการใช้สื่อโจมตีการทำงานของนักศึกษา ใช้สื่อทำลายความน่าเชื่อถือของฝ่ายตรงข้าม 43 ปีที่แล้วกับวันนี้แทบไม่ต่างอะไรกันเลย ไม่ว่าจะเป็นการตั้งข้อหากับฝ่ายตรงข้ามอย่างไม่เป็นธรรม ชนชั้นนำไม่ได้ยื่นเสรีภาพมาให้เรา สิทธิเสรีภาพที่เรามีในวันนี้ไม่ได้เกิดจากการร้องขอ แต่เกิดจากการต่อสู้ของคนรุ่นก่อน ที่ต่อสู้เพื่อความเป็นธรรม ต่อสู่กับการกดขี่ข่มเหงจากรัฐไทย จนเสียเลือดเนื้อและสละชีวิตเพื่อประชาธิปไตย ส่วนในตอนนี้ไม่ว่ากำลังจะเจอกับอะไรก็ตาม ผมก็ยังเป็นห่วงในสภาวะความเป็นไปของประเทศ เศรษฐกิจที่กำลังส่งสัญญาณอันตราย และนั่นทำให้ผมพร้อมที่จะสู้ต่อไป ไม่เคยหมดหวัง และอยากขอเรียกร้องให้พี่น้องประชาชนอย่าได้สิ้นหวัง ประเทศไทยต้องดีกว่านี้" นายธนาธร กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างกิจกรรม พรรคอนาคตใหม่ได้เปิดคลิปรวมอุปสรรคต่างๆ ที่พรรคและแกนนำเจอตลอดมาช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นคดีความ ข้อกล่าวหา และเรื่องราวดราม่าต่างๆ และในช่วงสุดท้ายนายธนาธรได้ขอให้ผู้ร่วมงาน ยืนระลึกถึงวีรชน 6 ตุลา ทั้งผู้ที่จากไปแล้วและยังมีชีวิตอยู่