วันที่ 26 ก.ค. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท. 1 ) กล่าวถึงผลการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ได้คะแนนมากที่สุด ว่า ต้องเคารพเสียงคนโหวต เขาจะโหวตอย่างไรเป็นสิทธิอันชอบธรรม เราก็ต้องรับฟัง
เมื่อถามถึงกระแสกดดันที่ต้องการให้พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ปรับครม.ในส่วนของรมว.มหาดไทย พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ถือเป็นการพิจารณาของนายกรัฐมนตรี ที่จะปรับครม.หรือไม่อย่างไร ก็เป็นเรื่องของนายกฯ
เมื่อถามต่อว่า จะไปพูดคุยกับ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชารัฐ ที่ต้องการให้ รมว.มหาดไทยเข้าไปดูแลพื้นที่มากขึ้นหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ไม่รู้จะคุยเรื่องอะไร ส่วนการดูแลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นเรื่องซับซ้อน ที่ตนอธิบายได้ง่ายๆว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ของบประมาณผ่านกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น และทางจังหวัดก็จะเป็นเฉพาะ อบต.กับเทศบาลตำบลเท่านั้น ส่วนเทศบาลเมือง และเทศบาลนครของทาง อบจ.เขาขอตรงกับสำนักงบประมาณ ดังนั้นเทศบาลกับ อบจ.ปีหนึ่งที่ขอมาในส่วนงบอุดหนุนแสนกว่าล้านบาท ซึ่งงบปี 66 ที่สำนักงบประมาณกำลังพิจารณาให้ประมาณ 3 หมื่นกว่าล้านบาท ซึ่งถ้าคิดสัดส่วนก็ถูกตัดไป2ใน3 ซึ่งเกณฑ์การตัดก็เป็นเกณฑ์ของสำนักงบประมาณ ในส่วนของจังหวัดสมุทรปราการ ปกติไม่ค่อยของบประมาณ เพราะมีงบประมาณมากอยู่แล้ว ปีนี้ขอมา40 ล้านบาท ก็ผ่านการพิจารณาของสำนักงบประมาณไปบ้างแล้ว ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับกมธ.งบฯ จะแปรญัตติหรือจะตัดอย่างไร ตรงนี้ก็ต้องพูดให้เกิดความเข้าใจ
"เราก็ดูแลโดยกว้างๆ ทั่วๆไปทั้งหมด แต่โดยเกณฑ์ของสำนักงบฯ จะให้โครงการประเภทใดอย่างไร"
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อเกิดเรื่องเช่นนี้จะต้องพูดคุยกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ หัวหน้าพรรค พปชร.เพื่อพูดคุยกับ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพปชร.หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า คงไม่เพราะตนไม่มีหน้าที่ไปคุย เพราะก็น้อมรับอยู่แล้ว เพราะ ส.ส.ต้องการทำงานในพื้นที่ ต้องการได้โครงการ แต่ก็อย่างที่ตนชี้แจงงบประมาณมีจำกัด ต้องพิจารณาตามขั้นตอน ซึ่งเราก็มีหน้าที่ชี้แจงทำความเข้าใจเขา
เมื่อถามว่า จะต้องคุยกับ พล.อ.ประวิตร กรณีที่มีกระแสข่าวจะปรับ ครม.ที่จะไปนั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยแทน เพื่อเตรียมพร้อมเลือกตั้งหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า "ไม่มี" แต่สื่อถามไปถึงเรื่องเลือกตั้งเลย ผมไม่เกี่ยว ถ้าจะมีการปรับอะไรอยู่ที่นายกฯ
"และก็ไม่ต้องกลัว ไม่ว่าจะปรับอย่างไร 3 ป. ไม่มีแตก ผมไม่ได้ยึดติดกับเรื่องที่จะต้องแตกหรืออะไร 3 ป.ก็อยู่กันมาค่อนชีวิตแล้ว 50 กว่าปีที่อยู่กันมา ก็รู็ดี รองนายกฯ(พล.อ.ประวิตร) เป็นทั้งเจ้านายเก่า เป็นทั้งพี่เลี้ยงที่สอนผมมา เพราะฉะนั้นไม่มีปัญหา ถ้านายกฯจะปรับอย่างไร ท่านก็ปรับได้เต็มที่เลย ผมก็ไม่มีอะไร แต่ไม่แตกกันแน่นอน"
ผู้สื่อข่าวถามว่า น้อยใจหรือไม่ที่นักการเมืองไม่เข้าใจสไตล์การทำงาน พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ไม่น้อยใจ มันเป็นเรื่องการเมือง เราก็ทำไปตามกฎเกณฑ์ แต่ถ้าจะพูดในอีกมุมหนึ่ง ถ้าตนทำอย่างนี้พรรคฝ่ายค้านทั้งหมดก็ต้องนับถือตนถ้าจะมองกันในมุมนั้น แต่อย่างที่ตนได้เรียนไปแล้วว่าเราต้องเข้าใจการเมืองเพราะ ทาง ส.ส.ก็ต้องการโครงการไปดูแลพี่น้องประชาชนถือเป็นเรื่องปกติ ตนก็น้อมรับในส่วนนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากที่ฟังการอภิปรายแล้วมีส่วนไหนที่จะนำมาปรับการทำงานบ้าง พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ในการอภิปรายตนก็ชี้แจงได้ ตนไม่มีเรื่องทุจริตประพฤติมิชอบ แต่เป็นเรื่องที่ส.ส. คิดว่าเราจะต้องดูแลให้ดีกว่านี้เท่านั้นเอง ไม่ได้มีปัญหาอะไร