นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือ "อดีตพระพุทธะอิสระ" อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย อ.สามพราน จ.นครปฐม โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก "หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara)" โพสต์ความคืบหน้าคดีการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนางสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อปี 2557 ด้วยข้อหากบฏอั้งยี่ ว่า ทนายความส่งคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน เป็นผู้ร้องแก่ผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐสภา ในกรณีว่าอัยการมีอำนาจในการฟ้องต่อศาลอาญาในคดีการชุมนุมหรือไม่ ด้วยข้อหากบฏอั้งยี่ ทั้งที่ศาลรัฐธรรมนูญได้เคยมีคำสั่งที่ 11/2557 และคำสั่งที่ 12/2557 โดยศาลมีคำวินิฉัยเอาไว้แล้วว่า
“การชุมนุมดังกล่าว เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพในการชุมนุมตามรัฐธรรมนูญเพื่อแสดงออกซึ่งความคิดเห็นทางการเมือง การกล่าวอ้างว่าผู้ถูกร้องทั้งหมดในคดีดังกล่าวรวมทั้งกลุ่มผู้ชุมนุมมีพฤติกรรมกระทำผิดกฎหมาย โดยการขัดขวางการสมัครรับเลือกตั้งของบุคคลในคดีดังกล่าวนี้ เป็นเรื่องที่จะต้องดำเนินการตามกฎหมายในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยการกระทำของผู้ถูกร้องทั้งหมดและผู้เข้าร่วมชุมนุม เป็นเพียงการแสดงเจตนารมณ์ต่อรัฐบาลโดยการเรียกร้องและมุ่งหวังที่จะให้รัฐบาลลาออก เพื่อนำไปสู่การปฎิรูปและแก้ไขปัญหาของประเทศก่อน หลังจากนั้นจึงจัดให้มีการเลือกตั้ง จึงไม่มีมูลกรณีเข้าลักษณะเป็นการล้มล้างการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเป็นการกระทำเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ โดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 68 วรรคหนึ่ง”
สรุปคือ ศาลรัฐธรรมนูญรับรองการชุมนุมของประชาชนคนรักชาติ ว่าเป็นไปตามสิทธิที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ และคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญมีผลผูกพันไปทุกองค์กรไม่เว้นแม้แต่อัยการ และศาลอาญาการฟ้องของอัยการในคดีนี้ จึงเป็นการฟ้องโดยมิชอบส่วนผลกระทบที่เกิดจากการชุมนุม หากกระทำการใดๆ เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่หน่วยงานของรัฐและเอกชน อันนี้ศาลรัฐธรรมนูญมิได้รับรอง ด้วยผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าว พุทธะอิสระจึงแต่งทนายให้นำเอาผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไปยื่นให้แก่อัยการสูงสุด เพื่อดำเนินการคดีนี้ให้เป็นไปตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญต่อไป
"งานนี้ต้องให้เครดิตแก่คุณไพบูลย์ ที่กรุณาไปยื่นเรื่องแก่ผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐสภา เพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยจนมีผลดังที่ปรากฏ ขอบคุณ ขอบคุณมากๆ ทีนี้พุทธะอิสระจักได้กลับไปห่มผ้าเหลืองเสียที"