เวลา 17.30 น. วันที่ 25 ก.พ. 2566 ที่โรงเรียนปล้องวิทยาคม อ.เทิง จ.เชียงราย พรรคเพื่อไทย เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ ‘เชียงราย คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน’ ท่ามกลางประชาชนสวมเสื้อสีแดงครอบครัวเพื่อไทยรับฟังการปราศรัยแน่นขนัดกว่า 10,000 คน เพื่อช่วยหาเสียงให้กับ เทอดชาติ ชัยพงษ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย และหาเสียงให้กับพรรคเพื่อไทย

โดยมีแกนนำพรรคร่วมขึ้นเวทีปราศรัย นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรคเพื่อไทย แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทย ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พานทองแท้ ชินวัตร สมาชิกพรรคเพื่อไทย และคณะพร้อมด้วย ส.ส.เชียงราย และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย 8 เขต ประกอบด้วย วิสาร เตชะธีราวัฒน์ ,วิสิษฐ์ เตชะธีราวัฒน์ , ร.ต.อ.ดร.ธนรัช จงสุทธานามณี , วิกรม เตชะธีราวัฒน์ , วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ , เทอดชาติ ชัยพงษ์ , พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน , อิทธิเดช แก้วหลวง , ละออง ติยะไพรัช และ ปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวปราศรัย ขอบคุณพี่น้องชาวเชียงรายทุกคนที่มาฟังการปราศรัย  วันนี้เป็นโอกาสที่ดี จึงขอประกาศในเบื้องต้นว่า แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย คือ แพทองธารชินวัตร ดังนั้นในวันที่ 7 พ.ค.นี้ ต้องเอา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ออกไป   เพราะในอดีตเอารถถังมายึดอำนาจ แล้วบอกมาจากการเลือกตั้ง กลับคิดกติกาพิเศษ การคำนวณพิเศษ หากสิ่งนั้นทำให้พี่น้องเจ็บช้ำใจ ครั้งนี้ขอให้เข้าคูหากาพรรคเพื่อไทยทั้งสองใบ เราคิดใหญ่และทำเป็น เพราะคนของเพื่อไทยเป็นคนมีความรู้ความสามารถ โดยเฉพาะผู้ประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เชียงราย 8 คน มั่นใจว่าจะได้เป็น ส.ส.เชียงรายทุกคน

สำหรับเขตเลือกตั้งที่ 5 ตาม กกต.จะกำหนด ในอำเภอเทิง เดิมเป็นเขตเลือกตั้งที่ 4 พรรคเพื่อไทย เรามี ส.ส.ที่มีคะแนนมากที่สุด กว่า 60,000 คะแนน เมื่อเทียบกับทั่วประเทศ จึงหมายมั่นให้มาลงเป็นผู้ประสงค์สมัครรับเลือกตั้งส.ส.อีกครั้ง มั่นใจว่าได้เป็น ส.ส. แน่นอน ปรากฎว่าเราจัดงานครอบครัวเพื่อไทยครั้งใหญ่ ที่เชียงราย-เชียงใหม่ เราเชิญขึ้นเวทีแต่เขาไม่ไป สุดท้ายบอกว่าขออนุญาตที่จะไม่อยู่ด้วย อาจจะไม่เล่นการเมืองอีก แต่ตอนนี้ออกไปอยู่พรรคอื่น  พรรคเพื่อไทยขอเสนอนายเทอดชาติ ชัยพงษ์  ผู้มีความรู้ความสามารถ  อดีตข้าราชการระดับสูงกระทรวงศึกษาธิการ  และผู้สมัครทั้ง 8 เขตคือความหวังของพรรคเพื่อไทย 

“ในฐานะที่เป็นแพทย์  บัตรประชาชนคนไทยจะเป็นกรมธรรม์ประกันสุขภาพให้กับพี่น้องประชาชนรักษาพยาบาลได้ทุกที่ คลินิก โรงพยาบาล ร้านขายยา คนสูงวัยที่ไม่มีลูกหลานดูแล เราจะมีศูนย์ชีวาภิบาล เชียงรายจะเป็นประตูรายได้เปิดกว้างเรื่องการค้าชายแดน ช่วงโควิด-19 ทำรายได้ 7 หมื่นล้านบาท จากปกติ 1.5 แสนล้านบาท รายได้ค้าชายแดนทั้งประเทศ 1.8 ล้านล้านบาท ถ้าเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล มากกว่า 3 ล้านล้านบาทแน่นอน ภาคท่องเที่ยว 3 ล้านล้านบาท เกษตรกรรายได้ขึ้น 3 เท่า ถ้าเอาเข้าคูหากาเพื่อไทย แลนด์สไลด์ยกจังหวัดทั้งประเทศ” นพ.ชลน่านกล่าว

นพ.ชลน่าน กล่าวตอนหนึ่งว่า ไปฟังเสียงประชาชนมา ภาคใต้ ภาคอีสาน ยังไม่ประกาศแคนดิเดตนายกฯ หลังจากผ่านมาทุกที่ที่ตนไป มีเสียงเรียกร้องให้ตนเองประกาศ ให้ประกาศว่าที่แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย

”ขอถือฤกษ์วันนี้ข่มโคราช คุณอิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร (ว่าที่แคนดิเดตนายกฯ)”

ทันทีที่ นพ.ชลน่าน กล่าวชื่อ แพทองธาร เป็นว่าที่แคนดิเดตนายกฯ ทำให้ แพทองธาร ลุกขึ้นยกมือไหว้ต่อหน้าประชาชนที่มารอฟังการปราศรัย

ด้าน แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ปราศรัยว่า เลือกเพื่อไทยจะเปลี่ยนชีวิตของพี่น้องเชียงรายได้อย่างถาวร เปลี่ยนคนจนให้เป็นคนรวย พร้อมนำเสนอ 3 นโยบายที่จะแก้ปัญหาให้กับพี่น้องเชียงราย ได้แก่ ที่ดินทำกิน สิทธิ์ของพี่น้องชาติพันธุ์ และการค้าชายแดน  

สำหรับการแก้ปัญหาที่ดินทำกินมี 4 ขั้นตอน 1.ใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาพิสูจน์สิทธิ์ที่ดินให้แก่พี่น้อง เพื่อให้ความเป็นธรรม ต้องชัดเจนและสร้างความเท่าเทียม

2.ใครไม่มีที่ดินทำกิน ต้องจัดสรรให้อย่างเท่าเทียม  

3.แก้กฎหมาย ขจัดอุปสรรคทั้งหลายให้เข้าข้างพี่น้องประชาชนอย่างยุติธรรมและเท่าเทียม 

4.ที่ดินของภาครัฐ ถ้าไม่ได้ใช้เราจะนำมาจัดสรร แบ่งปันให้พี่น้อง ให้ทุกคนมีที่ดินทำกิน 

นอกจากปัญหาที่ดินทำกินแล้ว ยังมีปัญหาชาติพันธุ์ ที่ตอนนี้มีกว่า 30 ชาติพันธุ์ที่อยู่ในเชียงราย พี่น้องบางคนยังไม่ได้สิทธิ์ ไม่มีบัตรประชาชน ยังไม่มีโอกาสเป็นประชาชนไทย ทำให้เข้าไม่ถึงสวัสดิการ ทั้งการศึกษาและการรักษาพยาบาล 

“พรรคเพื่อไทยจะลดขั้นตอนความยุ่งยากให้น้อยลง เพื่อให้มีบัตรประชาชนได้ง่ายขึ้น ให้สมกับเป็นคนไทยคนหนึ่งค่ะ” แพทองธารกล่าว  

แพทองธาร ปราศรัยตอนหนึ่งว่า พรรคเพื่อไทยเล็งเห็นปัญหาหนี้สินเมื่อเราช่วยชาวเชียงรายแล้วจะทำให้ประชาชนกินดีอยู่ดีมีเศรษฐกิจที่ดีขึ้นในภาพรวมเชียงรายสำคัญทำให้ประเทศกินดีอยู่ดี โดยจะใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพื่อให้ชาวนามีทุน โดยจะลงทุนทั้งไทยและต่างชาติเพื่อให้มาสนับสนุนชาวนา ถ้าพรรคเพื่อไทยเข้ามาทำงานรับใช้พี่น้องจะทำให้ประชาชนไม่มีหนี้สิน ถ้าแบ่งใจไปให้พรรคอื่นจะได้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม อีกรอบขอให้เลือกพรรคเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรคให้แลนด์สไลด์ทั้ง จ.เชียงราย

จากนั้น จาตุรนต์ ฉายแสง กรรมการยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย ปราศรัยว่า การมาปราศรัยครั้งนี้ยืนยันว่าภาคเหนือไม่แพ้ภาคอีสาน สมัยที่ ดร.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี มาปราศรัยขึ้นมายืนบนเวทีก็เจอบรรยากาศแบบนี้ ปี2544 พรรคไทยรักไทยเคยชนะยกจังหวัดมาแล้ว ได้สร้างนายกฯ มาแก้ปัญหาให้ประชาชน มีชื่อเสียงทั่วโลก มาจากภาคเหนือมาจากจังหวัดเชียงรายสนับสนุนให้เป็นนายกฯ 

“การเลือกตั้งครั้งนี้พี่น้องจังหวัดเชียงรายต้องทำภารกิจสำคัญเอาพรรคเพื่อไทยไปเป็นรัฐบาลแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนทั้งประเทศ พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่าจะพลิกโฉมประเทศไทยอยู่มา 8 ปี ประเทศไทยเสียหายลงไปเรื่อยๆ แล้วคนคนเดิมจะมาพลิกโฉมประเทศไทยจับพลิกโฉมได้ยังไง ดังนั้นต้องเปลี่ยนคนใหม่ แพทองธารพลิกโฉมได้” จาตุรนต์ ระบุ

จาตุรนต์ ระบุว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยไปรัฐบาลการค้าและชายแดนจะมีรายได้เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ประชาชนจังหวัดเชียงรายเจอปัญหายาเสพติดมากที่สุดใน 8 ปี ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ทำให้เกิดยาเสพติดและมีผลงานเรื่องกัญชา รัฐบาลพรรคไทยรักไทยเคยจัดการยาเสพติดมาแล้ว ตนเคยมาดูการบำบัดยาเสพติดที่ จ.เชียงรายตอนตนเป็นรองนายกฯ พรรคเพื่อไทยจะนโยบายจัดการจริงจังกับปัญหายาเสพติดเพื่อให้ปัญหายาเสพติดหมดไป ดังนั้น ขอให้พรรคเพื่อไทยเริ่มที่อำเภอเทิง ให้เลือกพรรคเพื่อไทยยกจังหวัดเชียงราย เพื่อตั้งรัฐบาล

ด้าน ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทยปราศรัยว่า ขนาดนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กำลังปราศรัยที่จังหวัดนครราชสีมาโดยเวทีของ พล.อ.ประยุทธ์ใช้เวทมนต์ดำเห็นเก้าอี้ว่างเต็มไปหมดที่เวทีจังหวัดนครราชสีมา พรรคเพื่อไทยไม่มีมนต์บางตาแต่มีประชาชนเต็มตาอยู่ตรงนี้ รวมทั้งมีแพทองธาร ด้วย

ณัฐวุฒิ ปราศรัยว่า แพทองธาร อุ้มครรภ์ 7 เดือนเต็มกับอีกหนึ่งวันจะเดินหน้ามาพบกับพี่น้องบอกกับประชาชนว่าเธอจะเดินให้ถึงที่สุดในสนามเลือกตั้ง ถ้านี่เป็นการครบ 7 เดือนก็หมายความว่าการเลือกตั้งต้นเดือนพฤษภาคมก็ใกล้เคียงกับกำหนดคลอดของแพทองธารซึ่งเป็นนิมิตหมายดีชีวิตใหม่กำลังสดใสออกมาลืมตาดูโลก แต่อีกชีวิตหนึ่งอยู่ในอำนาจมา 8 ปีประชาชนนับวันรอให้ออกไปๆ ถ้า 8 ปีที่ผ่านมาพี่น้องกินดีมีสุขก็จะปล่อยให้พี่น้องเดินจูงมือไปกับเขาแต่ 4 ปีผ่านมา 4 ปีหลังการยึดอำนาจเจ็บปวด ถ้าพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลพรรคเล็กพักต้นพักดอก 3 ปี

ณัฐวุฒิ ปราศรัยอีกว่า ปัญหาฝุ่น PM 2.5 โดยในวันพรุ่งนี้ (26 ก.พ. 2566) พรรคเพื่อไทยจะลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เพื่อรับฟังปัญหาฝุ่นเพื่อนำมาแก้ปัญหาให้อากาศและชีวิตดีขึ้น

“เขาล้มสมัคร สุนทรเวช โค่นสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เขายึดอำนาจยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แต่บางโครงการในอดีตพรรคเพื่อไทยจะไม่ยกเลิก ยืนยันพรรคเพื่อไทยจะนำโครงการเก่ากลับมาและต่อยอดเป็นนโยบายใหม่ยุบสภาและช่องทางจะขึ้นประกาศนโยบายสำคัญและนโยบายนี้เป็นนโยบายมั่นใจที่จะแก้ปัญหาให้กับคนไทยครบถ้วนได้ เขตนี้ มี ส.ส.เพื่อไทย สภายังไม่ยุบ แต่ไม่มี ส.ส. แต่พรรคเพื่อไทยยังอยู่แต่ ส.ส.คนเดิมไม่อยู่ ส.ส.คนเดิม (รังสรรค์ วันไชยธนวงศ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงราย พรรคภูมิใจไทย) จากไปเท่านั้นเอง พี่น้องจะแบ่งใจไม่ได้แต่เขตนี้ให้อีกคนไม่ได้ถ้าไม่กล้าเพื่อไทยทั้งสองใบ พล.อ.ประยุทธ์ไปกินแน่นอน” ณัฐวุฒิ ระบุ