กูเตอร์เรสวิจารณ์คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติว่าเป็น “แหล่งของความผิดหวัง สิ้นหวัง และความโกรธแค้นอย่างยิ่งใหญ่” ก่อนกล่าวว่า “ขอผมพูดให้ชัดๆ (คณะมนตรี) ล้มเหลวในการทำทุกอย่างภายใต้อำนาจของพวกเขาในการยับยั้งและหยุดสงครามนี้ลง”
อย่างไรก็ดี ขณะการเยือนเมืองหลวงของยูเครนโดยเลขาธิการสหประชาชาติ รัสเซียได้ทำการยิงขีปนาวุธของตนเองเข้าถล่มกรุงเคียฟ จนส่งผลให้เกิดการระเบิดขึ้น 2 ครั้งบริเวณกลางเขตเชฟเชนโก ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 3 ราย
โวโลดีเมอร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครนเผยว่า การยิงขีปนาวุธในครั้งนี้จากทางรัสเซียเกิดขึ้น “ทันทีหลังจาก” การพูดคุยระหว่างตนกับเลขาธิการสหประชาชาติ “และมันบอกอะไรได้มากเกี่ยวกับทัศนคติที่แท้จริงของรัสเซียต่อองค์กรระดับนานาชาติ เกี่ยวกับความพยายามของผู้นำรัสเซียในการฉีกหน้าสหประชาชาติ และทุกอย่างที่องค์กรนี้เป็นภาพแทนอยู่”
นอกจากนี้ การยิงขีปนาวุธถล่มเคียฟในครั้งนี้เองเกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศมอบความช่วยเหลือด้านการทหารและเศรษฐกิจแก่ยูเครนเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว โดยไบเดนเพิ่งขอให้รัฐสภาสหรัฐฯ อนุมัติงบช่วยเหลือด้านการทหารแก่ยูเครนเพิ่มอีก 3.3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1.1 ล้านล้านบาท) ตั้งแต่การมอบปืนใหญ่หนัก และรถหุ้มเกราะไปจนถึงการแบ่งปันข้อมูลข่าวกรอง สงครามไซเบอร์ ขีปนาวุธต่อต้านรถถังและจรวดรบ
สหรัฐฯ ยังได้มอบเงินช่วยเหลือทางเศรษฐกิจแก่ยูเครน 8.5 พ้นล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 3 แสนล้านบาท) และเงินช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอีก 3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1 แสนล้านบาท) โดยในวันเดียวกันนั้น รัฐสภาสหรัฐฯ ได้แก้ไขกฎหมายให้ยืม-เช่า ตั้งแต่ยุคสมัยของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ แฟรงคลิน ดี โรสเวลต์ เมื่อปี 2484 เพื่อให้สหรัฐฯ สามารถมอบความช่วยเหลือด้านการทหารแก่ยูเครนได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
ในทางตรงกันข้าม การเยือนยูเครนครั้งนี้ของกูเตอร์เรสเกิดขึ้นหลังจากการเยือนรัสเซียโดยเลาขาธิการสหประชาชาติเมื่อ 2 วันก่อน ส่งผลให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ อย่างไรก็ดี กูเตอร์เรสพยายามพูดปกป้ององค์กรสหประชาชาติว่าถูกถ่วงโดยคณะมนตรีความมั่นคงที่มีสมาชิก 15 ชาติ ซึ่งมีรัสเซียเป็นสมาชิกถาวร และล้มเหลวในการหยุดยั้งสงครามในครั้งนี้ลง ซึ่งไม่ต่างอะไรไปจาก “ปรสิต”
“ผมมาอยู่ในที่นี่เพื่อพูดกับท่านประธานาธิบดี และกับประชาชานชาวยูเครน เราจะไม่ยอมแพ้” กูเตอร์เรสระบุ พร้อมกล่าวเสริมว่า “สหประชาชาติเป็นองค์กรที่มีเจ้าหน้าที่ 1,400 คนในยูเครนที่กำลังทำงานเพื่อมอบความช่วยเหลือ อาหาร เงิน (และ) ความช่วยเหลือด้านอื่นๆ” กูเตอร์เรสยังได้เดินทางเยือนสถานที่ในยูเครนที่รัสเซียถูกกล่าวหาว่าก่ออาชญากรรมสงครามในประเทศเพื่อนบ้านของตน อย่างไรก็ดี รัสเซียปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาดังกล่าว
ก่อนหน้านี้ กลุ่มของอดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงขององค์การสหประชาชาติจำนวน 200 คน ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงกูเตอร์เรสเพื่อเตือนว่าหากเลขาธิการขององค์การโลกบาลแห่งนี้ไม่ลงมามีบทบาทนำในการแสวงหาสันติภาพบนวิกฤตยูเครน องค์การสหประชาชาติอาจไม่ได้เสี่ยงต่อการถูกมองว่าไร้ความจำเป็น แต่อาจส่งผลถึงการมีอยู่ขององค์การดังกล่าว โดยมีการขอร้องให้เลขาธิการสหประชาชาติลงพื้นที่ในยูเครน ก่อนที่กูเตอร์เรสจะลงพื้นที่เยือนยูเครนเมื่อวานนี้ (28 เม.ย.)
ที่มา: