วันที่ 11 ต.ค. ที่อาคารรัฐสภา กมลศักดิ์ ลีวาเมาะ สส.พรรคประชาชาติ กล่าวถึงการพิจารณาญัตติเพื่อให้สภาฯ ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญส่งเสริมการสร้างสันติสุขในจังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งในวันนี้ เมื่อเวลา 11.00 น. สมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ได้เชิญ สส.ในพื้นที่ 5 จังหวัดภาคใต้ คือ จ.นราธิวาส จ.ยะลา จ.ปัตตานี จ.สงขลา และ จ.สตูล สะท้อนรับฟังประเด็นปัญหา โดยเฉพาะการต่ออายุพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน(พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) ที่เพิ่งต่ออายุไปเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2566 และจะครบกำหนดในวันที่ 20 ต.ค. 2566
โดยพรรคประชาชาติเสนอให้ไม่ต่ออายุกฎหมายพิเศษที่ใช้บังคับใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่ว่าจะเป็นกฎอัยการศึกหรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แล้วเปลี่ยนมาใช้กฎหมายปกติเมื่อครบเวลากำหนด แต่วิธีการจะยกเลิกในคราวเดียว หรือทยอยยกเลิกบางอำเภอ หรือทีละอำเภอ ก็สุดแล้วแต่ สมศักดิ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน (กบฉ.) จะเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.)
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเป็นนิมิตหมายในทางบวก เพราะถือเป็นครั้งแรกที่ประธาน กบฉ. มาพบ สส. ซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชนเพื่อหารือ เพราะปกติจะเชิญเพียงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่มาพูดคุยเท่านั้น ทั้งนี้ กมลศักดิ์ ยังเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ลดจำนวนด่านตรวจให้น้อยลง เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีและทำให้เห็นความเปลี่ยนแปลงว่าเปลี่ยนรัฐบาลใหม่แล้ว บรรยากาศน่าจะดีขึ้น
กมลศักดิ์ ยังได้เน้นย้ำว่า ในการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ครั้งนี้ สภาฯ จะต้องศึกษาเรื่องกระบวนการพูดคุยเพิ่อสันติภาพ ซึ่งก่อนหน้านี้ยังไม่เคยมีมาก่อนในสภาฯ พร้อมย้ำว่าปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้มีความยืดเยื้อ และเป็นปัญหาของคนทั้งประเทศ ต้องทำให้เกิดการรับทราบและเข้าใจมากกว่าเดิม และนำบทเรียนจากการเจรจา 3 ครั้งที่ผ่านมาให้สภาฯ ศึกษา
ขณะเดียวกัน สส.พรรคประชาชน ได้ร่วมกันออกแถลงการณ์พรรคประชาชาติ เรื่อง เหตุการณ์ความรุนแรงระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ โดยระบุว่า พรรคประชาชาติ ขอแสดงความเสียใจต่อกรณีการเสียชีวิตของชาวไทยที่เกิดขึ้นจากการปะทะกันระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์และขอให้รัฐบาลไทยดำเนินมาตรการในการปกป้องให้ความช่วยเหลือต่อประชาชนชาวไทยที่ถูกจับกุมตัวและบางส่วนที่ยังอยู่ในพื้นที่การปะทะ อย่างเร่งด่วน
พรรคประชาชาติขอเป็นกำลังใจในการทำงานช่วยเหลือประชาชนชาวไทยให้รอดพ้นภัยอันตรายจากสถานการณ์เฉพาะหน้าที่กำลังเกิดขึ้น และพรรคประชาชาติขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวที่สูญเสียญาติพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ทั้งสองฝ่ายจากความรุนแรง และขอเรียกร้องให้คู่ขัดแย้งทั้งสองฝ่ายยุติความรุนแรงและการสู้รบกันและมีความจำเป็นที่จะต้องหันหน้าเข้ามาเจรจากันเพื่อคืนความสงบให้กับประชาชนผู้บริสุทธิ์
พรรคประชาชาติ ขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยรักษาความเป็นกลางทางการเมืองร่วมกับประชาคมระหว่างประเทศต่อกรณีความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์เพราะความขัดแย้งนี้มีความซับซ้อนมีรากเหง้าทางประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน และกระทบต่อวิถีชีวิตของชุมชนชาวยิวคริสต์และมุสลิมทั่วภูมิภาค
ทั้งนี้ พรรคประชาชาติสนับสนุนการแสดงจุดยืนที่ชัดเจนต่อความจำเป็นในการช่วยเหลือ แรงงาน และนักศึกษา รวมตลอดถึงประชาชนชาวไทยที่ได้รับผลกระทบให้มีความปลอดภัยและให้ได้รับการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ในสถานการณ์เฉพาะหน้าในครั้งนี้อย่างเร่งด่วนที่สุดพรรคประชาชาติ มีความกังวล และห่วงใยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างยิ่ง
พรรคประชาชาติ ขอวิงวอนให้ความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้นได้ยุติลงโดยเร็วและนำสันติภาพและความสงบสุขมาสู่ประชาชนผู้บริสุทธิ์ ในเร็ววันต่อไป