รัฐบาลตุรกีออกคำสั่งภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉิน ให้ปลดเจ้าหน้าที่รัฐทั้งหมด 18,632 คนด้วยข้อหามีส่วนเกี่ยวข้องกับองค์กรก่อการร้าย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการปราบปรามผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพยายามรัฐประหารแต่ไม่สำเร็จ เมื่อ 2 ปีก่อน
พนักงานรัฐที่ถูกปลดประกอบด้วยตำรวจ 8,998 นาย ทหารบก 3,077 นาย ทหารอากาศ 1,949 นาย ทหารเรืออีก 1,126 นาย พนักงานหน่วยงานรัฐอื่นๆ อีกหลานพันคน และนักวิชาการ 199 คน นอกจากนี้ยังมีการปิดหนังสือพิมพ์ 3 แห่ง สถานีโทรทัศน์ 1 แห่ง และองค์กรต่างๆอีก 12 แห่ง
สื่อท้องถิ่นของตุรกีรายงานว่า คำสั่งภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉินฉบับบนี้อาจเป็นฉบับสุดท้ายแล้ว และทางการตุรกีน่าจะยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในวันจันทร์นี้ (9 ก.ค.) อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา รัฐบาลตุรกียืดเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินมาแล้ว 7 ครั้ง โดยครั้งล่าสุดมีกำหนดสิ้นสุดในวันที่ 19 ก.ค.นี้
ตุรกีอยู่ภายในประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินมาตั้งแต่เดือน ก.ค. 2559 หลังมีความพยายามจะรัฐประหารโค่นล้มรัฐบาลของนายเรเจป ทายยิป เออร์โดกัน ประธานาธิบดีตุรกี โดยช่วง 2 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลได้สั่งปลดพนักงานรัฐไปมากกว่า 100,000 คน รวมถึงมีการจับกุม คุมขังเจ้าหน้าที่จำนวนมาก
การสั่งปลดเจ้าหน้าที่รัฐจำนวนมากทำให้นายเออร์โดกันถูกวิจารณ์ว่า ฉวยโอกาสจากการรัฐประหารที่ล้มเหลว เพื่อกำจัดศัตรูทางการเมืองของตัวเอง โดยมุ่งเป้าปราบปรามผู้สนับสนุนนายโมฮัมเหม็ด เฟธุลลาห์ ยูเลน ผู้ลี้ภัยชาวตุรกีในสหรัฐฯ แม้นายยูเลนจะปฏิเสธว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับการรัฐประหารครั้งนั้นที่มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 230 ราย
ที่มา: Al Jazeera
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
• ตุรกี 'ล่าแม่มด' หลังรัฐประหารล้มเหลว