ไม่พบผลการค้นหา
"ผมตัดสินใจเด็ดเดี่ยวเด็ดขาด ไม่มีวันหวนคืนกลับเดินไปข้างหน้า" เป็นคำประกาศล่าสุดของ 'นคร มาฉิม' อดีต ส.ส.พิษณุโลก ที่วันนี้เขาตัดสินใจทิ้งพรรคการเมืองเก่าแก่ที่สุดอย่าง 'ประชาธิปัตย์' หันมาร่วมอุดมการณ์เตรียมเข้าสังกัดกับพรรคเพื่อไทย พร้อมเพื่อนอดีต ส.ส.ในเดือน ต.ค.นี้

เหตุผลหลัก หรือฟางเส้นสุดท้ายที่ 'นคร' ต้องโบกมืออำลาจากพรรคการเมืองเก่าที่เข้าเป็น ส.ส.มาถึง 5 สมัย คือ การบอยคอตเลือกตั้งเมื่อปี 2557 

"ตัดสินใจฟางเส้นสุดท้ายคือการบอยคอตการเลือกตั้ง เพราะเท่ากับว่าการบอยคอตการเลือกตั้งไม่มีเหตุผลอธิบายกับประชาชนได้เลยว่าเราเป็นประชาธิปไตย ผมจึงขออนุญาตมาตายเอาดาบหน้าดีกว่า"

ปลายเดือน ก.ค. 2561 'นคร มาฉิม' โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ขอโทษ 'ทักษิณ - ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร' สองพี่น้องอดีตนายกรัฐมนตรี ที่เคยร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์เพื่อโค่นล้มรัฐบาลพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย

"สุดท้ายพวกเราจึงปรึกษากันว่าคงจะต้องให้ทหารยึดอำนาจอีก และเพื่อตอกฝาโลง ก็ใช้กระบวนการยุติธรรมในมือตัดสินเอาผิดอีก ท่านกับน้องสาวจะต้องไม่อยู่ในประเทศ" เฟซบุ๊กของ 'นคร' เผยถึงเบื้องหลังของการวางแผนตามทฤษฎีสมคบคิด โดยต้องกำจัดรัฐบาลพรรคเพื่อไทยออกจากกระดานทางการเมือง เพื่อเปิดทางให้ทหารออกมายึดอำนาจ


นคร มาฉิม เพื่อไทย ประชาธิปัตย์

'นคร มาฉิม' อดีต ส.ส.พิษณุโลก และอดีตประธานกรรมาธิการพัฒนาการเมือง สภาผู้แทนราษฎร เปิดใจกับ 'วอยซ์ ออนไลน์' ว่า "ผมสำนึกบุญคุณส่วนตัว ผมยกไว้เหนือหัวผมหมด แต่ที่มากกว่าบุญคุณของบุคคล มากกว่าบุญคุณของพรรค คือบุญคุณของประเทศชาติและประชาชนยิ่งใหญ่มากกว่า"

"ใครจะว่าใครจะกล่าวประณามหยามเหยียดอย่างไรผมไม่ว่า ผมถือว่าประเทศและประชาชนสูงที่สุด ระบอบประชาธิปไตยคือสิ่งที่ประเทศควรที่จะเดินไป สูงกว่าบุญคุณของพรรค ตัวบุคคล และส่วนตัว"

เขาบอกด้วยว่า "ผมตัดสินใจเด็ดเดี่ยวเด็ดขาด ไม่มีวันหวนคืนกลับเดินไปข้างหน้า"

นับจากนี้ไปการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในปี 2562 หลัง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2561 จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 11 ธ.ค. 2561 และสัญญาณการเลือกตั้งจะต้องเกิดขึ้นใน 150 วัน

'นคร' บอกว่า กระบวนการต่อสู้ครั้งนี้ในการเลือกตั้ง เดิมพันการต่อสู้ของ 2 ระบอบ ระหว่างเผด็จการและประชาธิปไตย

"ทัพหลวงหรือทัพใหญ่ฝั่งประชาธิปไตยคือ พรรคเพื่อไทย ถ้าเกิดพรรคเพื่อไทยถูกฝ่ายเผด็จการใช้กลไกทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นกระบวนการยุติธรรม หรือองค์กรอิสระ กลไกใดๆ ที่ใช้เป็นเครื่องมือในการทำลาย พวกเราจะไปอยู่พรรคเพื่อธรรม หรือพรรคเพื่อชาติ เป้าหมายต้องให้พรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อธรรม หรือพรรคเพื่อชาติเป็นทัพหลวงของฝั่งประชาธิปไตยที่ถือธงนำได้รับชัยชนะ"

ถามว่า ตัดสินใจอยู่นานหรือไม่ที่จะเข้าสังกัดพรรคเพื่อไทย เขาบอกว่า ไม่สงสัยพรรคเพื่อไทยในเรื่องการต่อสู้กับระบอบเผด็จการ โดยเฉพาะจุดเด่นของพรรคเพื่อไทยคือด้านเศรษฐกิจและการสร้างความอยู่ดีมีสุข 

นคร มาฉิม เพื่อไทย MG_7921.JPG

โดยเฉพาะเป้าหมายหลังจากพรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อชาติหรือพรรคเพื่อธรรมได้รับโอกาสจากประชาชน ชนะอย่างถล่มทลาย สิ่งที่ต้องทำหลังจากนั้น คือ ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เผด็จการสร้างขึ้นมา เพื่อให้ระบอบเผด็จการเข้มแข็งสืบทอดอำนาจ เราจะมาร่วมชำระล้างเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง ให้กลับมาเป็นรัฐธรรมนูญของประชาชน และปรับเปลี่ยนระบอบเผด็จการมาเป็นระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง 

ถามว่า หลังเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย มีโอกาสจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์เพื่อต่อสู้เผด็จการได้หรือไม่ 'นคร' ยอมรับ ส่วนตัวเคยเสนอแนวคิดแนวทางนี้มาตั้งแต่ร่วมเป็นกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทาการสร้างความปรองดองแห่งชาติ สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมี พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เป็นประธาน 

"ถ้าเกิดพรรคประชาธิปัตย์ยืนหยัดอยู่ในวิถีประชาธิปไตยจริง จะต้องต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ จะต้องมาร่วมมือกับฝั่งประชาธิปไตย ต้องสร้างกำแพงให้กับประชาชนไม่ให้เผด็จการอาศัยช่องว่างเข้ามา แต่ก็น่าเสียใจที่มีการเมือง บางกลุ่ม บางคน บางพรรคกลับไปสมคบไปร่วมกับระบอบเผด็จการเสียเอง เป็นสิ่งที่น่าเสียใจ"

ประยุทธ์ ทหาร กองทัพ over Template.jpg

'นคร' ยังเสนอแนวทางเพื่อโค่นล้มระบอบเผด็จการหลังการเลือกตั้งว่า จะต้องขอฉันทามติจากประชาชนด้วยการทำประชามติ เพื่อล้างระบอบเผด็จการที่อยู่ในรัฐสภาก่อน โดยเฉพาะการโละทิ้ง ส.ว.แต่งตั้ง 250 คนที่มาจาก คสช.

แม้รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 จะแก้ไขได้ยากกว่ารัฐธรรมนูญทุกฉบับ เพราะได้กำหนดเงื่อนไขที่จะต้องได้มีเสียงจาก ส.ว.ไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของสมาชิกเท่าที่มีอยู่หรือต้องไม่น้อยกว่า 84 เสียงมาร่วมโหวตเห็นชอบในขั้นรับหลักการวาระที่ 1 ด้วย 

แค่บันไดขั้นแรกในการโหวตรับรองก็ยากแล้ว แต่ 'นคร' ย้ำว่านี่คือหนทางเดียวเท่านั้น เพราะรัฐธรรมนูญเป็นของพวกที่ปล้นอำนาจ ในทางกฎหมายอาญาคือเป็นกฎของโจร เขาไม่ให้แก้ไขอยู่แล้ว เพื่อใช้เป็นกติกายึดครองอำนาจ สืบทอดอำนาจ และใช้เป็นกฎกติกาที่พวกเขาจะแสวงหาผลประโยชน์เพื่อระบอบเผด็จการ ในเมื่อเสียงส่วนใหญ่ของประชาชนเห็นว่ากฎอันนี้ไม่มีความชอบธรรมในที่มา ไม่เกื้อหนุนต่อการพัฒนาประเทศ ทำไมประชาชนจึงไม่มีความชอบธรรมจะสร้างกฎกติกาเป็นของประชาชน

เขาบอกว่าส่วนตัวอยากให้ทำประชามติยกเลิก ส.ว.แต่งตั้งทั้งหมดไปตอนเลือกตั้งด้วยซ้ำ โดยให้พรรคการเมืองที่เป็นทัพหลักถือธงนำทวงคืนประชาธิปไตยกลับคืนมา ทั้ง 'เพื่อไทย - เพื่อชาติ - เพื่อธรรม - อนาคตใหม่' ถ้า 4 พรรคการเมืองให้ชนะเลือกตั้ง


"ถ้าชนะอย่างถล่มทลายเราจะประกาศจุดยืนกัน เราจะมาเป็นรัฐบาลอาจจะไม่ครบเทอม แต่ธงหลักคือล้างมรดกบาปของเผด็จการให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด เอารัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย เอากฎ กติกาที่เป็นสากล"


'นคร' ชี้ว่า "พรรคที่มีแนวร่วมอย่างฝั่งที่เป็นประชาธิปไตยอย่างพรรคอนาคตใหม่ จะต้องได้รับฉันทานุมัติ โดยการลงคะแนนให้พรรคเพื่อไทย อนาคตใหม่ เพื่อชาติ หรือเพื่อธรรม ต้องถล่มทลาย เพราะฝ่ายเผด็จการเขาตุนไว้แล้ว ส.ว. 250 เสียง โดยที่ประชาชนคนไทย 70 ล้านคนไม่มีสิทธิแม้แต่คนเดียว เขาตุนไว้แล้ว พวกนี้ก็มีสิทธิโหวตนายกฯด้วย"

"เมื่อเขามีตุนไว้ 250 เสียงฐานคะแนนฝั่งเผด็จการ ขณะที่ ส.ส.มี 500 เสียง ถ้าเกิดพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศเห็นพ้องด้วยกันกับผม เพื่อไทย เพื่อธรรม เพื่อชาติ อนาคตใหม่ เราจะต้องเทคะแนนอย่างถล่มทลาย และต้องมี ส.ส.ในฝ่ายประชาธิปไตยต้องไม่น้อยกว่า 376 เสียง"


สภานิติบัญญัติแห่งชาติ สนช สภา รัฐสภา 0_Hkg10087413.jpg

แม้ในความเป็นจริงการมีพรรคการเมืองร่วมตัวกันจัดตั้งรัฐบาลเกิน 376 เสียง หรือเกินกึ่งหนึ่งของสมาชิกรัฐสภาจะเป็นเรื่องยากตามกติกาที่ถูกวางไว้ในรัฐธรรมนูญให้สลายขั้วพรรคการเมืองขนาดใหญ่ และยังไม่เพียงพอที่จะล้างมรดกของเผด็จการที่ได้วางกลไกผ่านรัฐธรรมนูญ ฉบับปราบโกง


"เราอาจเสนอขอประชามติจากประชาชนอีกครั้งหนึ่งว่า รัฐธรรมนูญที่สร้างโดยเผด็จการ ของเผด็จการ เพื่อเผด็จการ จำเป็นที่จะต้องขอประชามติอีกครั้งว่าขอให้ประชาชนคนไทยเลือก ส.ส. และ ส.ว.เลือกทั้งหมดเอาไหม"

"แทนที่จะให้คณะรัฐประหารแต่งตั้งกันมาเองเป็นฐานรองรับเผด็จการ และให้ ส.ว.ไม่มีสิทธิมาเลือกนายกฯ ให้ทำหน้าที่กลั่นกรองกฎหมาย คัดสรรองค์กรอิสระ" 

อดีต ส.ส. 5 สมัยจากพรรคการเมืองเก่าแก่ที่สุดในประเทศ ไม่กังวลถึงอนาคตทางการเมืองข้างหน้านี้ที่เขาเลือกแล้วว่า "ขอไปตายเอาดาบหน้า" ดีกว่าที่จะเห็นระบอบเผด็จการอยู่ยาวสืบทอดอำนาจอย่าง 'มั่งคั่ง มั่นคง ยั่งยืน' วนเวียนอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดไม่รู้จบ!

ข่าวที่เกี่ยวข้อง