การเมือง
‘ประวิตร’ เว้นที่นั่งนายกฯ ลั่นไม่ปรับ ครม. - ครม.ให้อำนาจเต็ม 'ประวิตร' แต่งตั้งโยกย้าย-เคาะงบฯ
วันที่ 30 ส.ค. 2565 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาราชการการแทนนายกรัฐมนตรี ระบุถึงบรรยากาศการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันเดียวกันนี้ ว่า ไม่มีอะไร เรียบร้อยดี เมื่อถามถึงกระแสข่าวการเมืองที่วุ่นวายในขณะนี้ พล.อ.ประวิตร กล่าวย้ำว่า ไม่มีอะไร เมื่อถามว่า จะมีการปรับ ครม.ในช่วงเป็นที่เป็นรักษาการนายกฯ หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวยืนยันว่า ไม่มีการปรับครม.
เมื่อถามถึงกรณี ส.ส.ประชาธิปัตย์ ขู่ถอนตัวจากกระแสข่าว ส.ส.ภาคใต้ของพรรคพลังประชารัฐ เสนอให้ปรับ ครม. โดยให้ริบโคว้ต้ากระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงพาณิชย์ นั้น พล.อ.ประวิตร ย้อนกลับว่า "ไปถาม ส.ส.ใต้ดู เพราะผมไม่ได้พูด"
เมื่อถามย้ำว่า จะปรับ ครม.ช่วงนี้หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวย้ำว่า ปรับทำไม ยังทำงานได้
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า พล.อ.ประวิตร มีสีหน้ายิ้มแย้มโดยได้หยุดตอบคำถามสื่อมวลชนโดยไม่มีท่าทีฉุนเฉียวแต่อย่างใด โดยมี สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ อธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม เดินมาส่งขึ้นรถ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี สำนักโฆษกประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้เผยแพร่ภาพบรรยากาศการประชุมคณะรัฐมนตรี ที่มีพล.อ.ประวิตร เป็นประธาน ซึ่งปรากฎภาพชัดเจนว่าพล.อ.ประวิตร ไม่ได้นั่งเก้าอี้นายกฯ โดยปล่อยเก้าอี้นายกฯ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เคยนั่งเป็นประธานการประชุมทุกครั้ง ให้ว่างไว้ โดยพล.อ.ประวิตร ได้นั่งเก้าอี้รองนายกฯ ด้านขวามือ และสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน นั่งเก้าอี้รองนายกฯในด้านซ้าย ทั้งนี้ในส่วนของที่นั่ง รมว.กลาโหม มีรายงานแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ได้จัดเก้าอี้ของ รมว.กลาโหม ไว้ แต่วันเดียวกันนี้มีเพียง พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ทำให้เก้าอี้ รมว.กลาโหม ว่างไว้
'อนุทิน'ยันไม่จริง 'สันติ' ชิ่งหนี พปชร.
ด้าน อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ปฏิเสธกระแสข่าว สันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ จะย้ายมาภูมิใจไทย ว่า ไม่มีๆ ท่านเป็นเลขาธิการ พปชร. และตนมองตาท่านก็ยกมือไหว้ก่อนทุกครั้ง ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ พร้อมย้ำว่าไม่เคยคุยกัน เพราะมารยาทระดับหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค เขาไม่คุยกันเรื่องนี้ และยืนยันว่าไม่เชื่อว่าจะเกิดเหตุนั้น โดยไม่มีเหตุผลอะไรพร้อมยืนยันว่าตนไม่รู้เรื่องนี้และพึ่งทราบจากผู้สื่อข่าววันนี้
อนุทิน แสดงความเห็นกรณีที่ทุกพรรคพยายามตอกเสาเห็นการเมืองในแต่ละพื้นที่ ว่า ถูกต้องแล้วซึ่งต้องต่อสู้กันด้วยนโยบาย ความตั้งใจที่จะทำงานรับใช้บ้านเมือง
เมื่อถามย้ำว่า กระแสย้ายพรรคของ สันติ อาจเกิดจากกระแส ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย จะกลับมานั้น อนุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องถามหัวหน้าพรรค พปชร.และสถานการณ์ในพรรคร่วมก็ยังดี
'สันติ' ลั่นยังอยู่ พปชร. ไม่รู้กระแส บิ๊ก พ.เสียบเลขาฯ พปชร. โยนผู้ใหญ่ปรับ ครม.
ด้าน สันติ กล่าวถึงกระแสข่าวดังกล่าวว่า ตนยังไม่ได้ยินเลย เป็นไปไม่ได้ และไม่ได้อยู่ในสมอง ไม่ได้คิด ก็คงเป็นเพียงแค่กระแสข่าว ซึ่งตนไม่เคยได้ยิน
เมื่อถามวว่า ยืนยันว่าการเลือกตั้งครั้งหน้ายังอยู่พรรค พปชร.ใช่หรือไม่ สันติ กล่าวว่า พรรค พปชร. เป็นพรรค ที่พี่น้องประชาชนให้ความหวังไว้มาก เพราะฉะนั้นจึงไม่ย้ายไปไหน อยู่ พชปร.แน่นอน
เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่า “บิ๊ก พ” จะเข้ามาเป็นเลขาธิการพรรค พปชร. แทน สันติ กล่าวว่า ไม่รู้ไม่ทราบ ใครที่ทำให้พรรคแข็งแรง มันไม่มีปัญหาตรงนั้น
ส่วนการประชุม ครม.ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน นั้น ในส่วนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ประชุมทางออนไลน์ ก็ไม่ได้มีอะไร ก็ดี ท่านมีกำลังใจดีมากอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า ในส่วนของพรรค พปชร.ได้ให้กำลังใจ พล.อ.ประยุทธ์ ในการต่อสู้คดีอย่างไรบ้าง สันติ กล่าวว่า เป็นเรื่องของผู้ใหญ่
ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวเรียกร้อง ให้มีการปรับคณะรัฐมนตรี สันติ กล่าวว่า เป็นเรื่องของผู้ใหญ่
'สาธิต' ไม่รู้ 'ชัยชนะ' บี้ ปชป.ถอนตัวพรรคร่วม
ขณะที่ สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ ชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช และรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เสนอให้พรรคประชาธิปัตย์ถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล หลัง ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เสนอให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะรักษาราชการแทนนายกฯ ดึงกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพาณิชย์ไปอยู่ในความดูแลของพรรคพลังประชารัฐ ว่า ตนยังไม่ทราบเรื่องนี้ แต่วันนี้จะมีการประชุมพรรค ไม่แน่ใจว่าเป็นข้อเรียกร้องส่วนตัวหรือไม่ ซึ่งหากเป็นข้อเรียกร้องส่วนตัว และเป็นความต้องการของ ส.ส. ก็ต้องนำเข้าสู่ที่ประชุมพรรค ส่วนข้อสรุปสุดท้ายขึ้นอยู่กับกรรมการบริหารพรรค
สาธิต ยังระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์ ยังไม่ได้มีการพูดคุยถึง กรณีของ นิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ หากหลุดตำแหน่งหลังศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัยสถานะความเป็นรัฐมนตรีในวันที่ 14 ก.ย. โดยระบุว่ายังไม่ทราบ ยังไม่ได้คุยกัน ต้องรอวันที่ 14 ก.ย. พร้อมปฏิเสธตอบคำถามหากนายนิพนธ์ พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยไปนั้น จะเป็นโควต้าของภาคใดในพรรคประชาธิปัตย์
ครม.แก้คำสั่งสำนักนายกฯ ให้อำนาจ 'ประวิตร' แต่งตั้ง-ใช้งบ ไม่ต้องปรึกษานายกฯ
วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงบรรยากาศการประชุม ครม. ว่า รัฐมนตรีบางคนประชุมผ่านออนไลน์ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ทุกสัปดาห์มีเช่นนี้
เมื่อถามว่า จากคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญอาจทำให้บางคนรู้สึกว่าขณะนี้มีสุญญากาศในการบริหารประเทศ วิษณุ กล่าวว่า ไม่มีสุญญากาศ วันนี้ตนชี้แจงต่อที่ประชุม ครม.ว่าไม่มีสุญญากาศ ครม. คือ ครม.อำนาจเต็ม ไม่ใช่ ครม.รักษาการ คนรักษาการนายกรัฐมนตรีมีคนเดียวคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรักษาราชการแทนนายกฯ ตามมาตรา 41 ของ พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ที่ระบุว่าถ้านายกฯ ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้รองนายกฯคนหนึ่งเป็นผู้รักษาราชการแทน ตามที่ ครม.มีมติมอบหมาย หากมีรองนายกฯหลายคน ให้ ครม.เป็นจัดลำดับ หากไม่มีให้ ครม.เลือกรัฐมนตรีขึ้นมา วันนี้ไม่ไปไกลถึงขั้นนั้น เพราะมีการออกคำสั่งสำนักนายกฯไว้เมื่อปี 2563 จัดลำดับไว้ แต่คำสั่งสำนักนายกฯที่จัดลำดับไว้ มีการระบุว่าเวลารักษาราชการนั้นสามารถจัดการอะไรได้หมดทุกอย่าง ยกเว้นการแต่งตั้งและเรื่องงบประมาณจะต้องปรึกษานายกฯเสียก่อน
วิษณุ ระบุว่า วันเดียวกันนี้มีการเสนอคำสั่งสำนักนายกฯปรับปรุงคำสั่งดังกล่าว เพราะเป็นไปไม่ได้ที่ พล.อ.ประวิตร เมื่อรักษาการแล้ว หากมีการแต่งตั้งโยกย้ายหรือมีเรื่องงบประมาณจะต้องไปปรึกษา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ที่อยู่ระหว่างหยุดปฏิบัติหน้าที่ จึงต้องแก้คำสั่งตัดประโยคนี้ออกไปเพื่อให้มีอำนาจเต็ม และมีผลย้อนหลังไปถึงวันที่ 24 ส.ค.
เมื่อถามว่า ในฐานะนักกฎหมายประเมินไว้หรือไม่ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะใช้เวลาพิจารณาประเด็นระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง 8 ปีไว้นานเท่าใด วิษณุ กล่าวว่า ตอบไม่ถูก ต้องให้เวลาสำหรับให้ พล.อ.ประยุทธ์ชี้แจง 15 วัน และทราบว่าศาลรัฐธรรมนูญให้คนอื่นชี้แจงด้วยเช่นกัน เมื่อครบ 15 วันแล้ว เมื่อผู้ชี้แจงๆ กันหมดแล้ว จะเริ่มมองเห็นแล้วว่าจะใช้เวลานานเท่าใด ซึ่งไม่ควรจะนาน เพราะไม่มีการสืบพยานในเรื่องนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
