ไม่พบผลการค้นหา
'เรืองไกร' เตรียมร้อง ป.ป.ช. สอบนายกฯ อาจมีพฤติการณ์เข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เอื้อประโยชน์ผู้เสนอราคาลงทุนในโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เปิดเผยว่า ตามที่จะมีการยื่นอภิปรายไม่วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล โดยมีนายกรัฐมนตรีรวมอยู่ด้วยนั้นกรณีของนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งบริหารราชการแผ่นดินต่อเนื่องมาเข้าปีที่หกนับตั้งแต่ยึดอำนาจการปกครองเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 นั้น อาจจะถูกกล่าวหาและอภิปรายไม่ไว้วางใจกรณีการสืบทอดอำนาจและ/หรือมีพฤติการณ์บริหารราชการแผ่นดินที่ส่อไปในทางเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนขนาดใหญ่รวมอยู่ด้วย

นายเรืองไกร กล่าวต่อว่า โครงการ EEC เป็นกรณีหนึ่งที่จำเป็นต้องเพ่งเล็งตรวจสอบ เพราะเป็นโครงการที่ใช้อำนาจตามมาตรา 44 และต่อมา สนช. ออก พรบ. เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. 2561 มารองรับ และครม. ก็มีมติมารองรับด้วยเช่นกัน

โครงการ EEC ซึ่งมีมูลค่าการลงทุนและผลประโยชน์หลายแสนล้านบาท มีกฎหมายและมติ ครม. บังคับให้ต้องดำเนินการอย่างโปร่งใส เป็นธรรม เพื่อป้องกันการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ที่จะเข้ามาดำเนินการในโครงการ EEC ดังนั้น จึงต้องมีการตรวจสอบเจาะลึกตามมาด้วย

จากการตรวจสอบพบว่า โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 (ทลฉ. เฟส 3) เป็นโครงการหนึ่งของ EEC ที่มีมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท แต่จากข่าวที่ปรากฏตลอดมา เมื่อนำไปพิจารณากับกฎหมายและมติ ครม. ที่เกี่ยวข้อง พบข้อมูลเบื้องต้นว่า อาจมีลักษณะที่จะส่อไปในทางไม่โปร่งใส ไม่เป็นธรรม และอาจเข้าข่ายปล่อยปละละเลยเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง อาจส่อไปในทางทุจริตเชิงนโยบายด้วย

นายเรืองไกร กล่าวว่า จากข่าวล่าสุดที่การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) จะรีบดำเนินการต่อไปโดยไม่รอฟังคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดให้ถึงที่สุดก่อนนั้น ประกอบกับมติของผู้ตรวจการแผ่นดินที่ผ่านมาก็ชี้ข้อพิรุธของการพิจารณาโครงการดังกล่าว กรณีจึงส่อให้เห็นว่า นายกรัฐมนตรีในฐานะที่มีหน้าที่และอำนาจโดยตรงในโครงการ EEC อาจมีพฤติการณ์เข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือปล่อยปละละเลยเพื่อเอื้อประโยชน์ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่เสนอราคาเพื่อเข้าร่วมลงทุนในโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง (ทลฉ.) ระยะที่ 3 ของการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) โดยไม่โปร่งใส ไม่เป็นธรรม ตามมาได้

"ด้วยเหตุตามที่กล่าวมา ในวันที่ 27 มกราคม ศกนี้ เวลา 10.00 น. ตนจึงต้องไปร้องขอให้ ป.ป.ช. รีบดำเนินการตรวจสอบนายกรัฐมนตรีต่อไปโดยเร็วว่า นายกรัฐมนตรีจะมีพฤติการณ์ตามความในหนังสือที่ร้อง หรือไม่ อีกทั้งเมื่อยื่นคำร้องเสร็จแล้ว ก็จะนำข้อมูลเชิงลึกเรื่องนี้เสนอให้ฝ่ายค้านนำไปพิจารณาประกอบการอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย" นายเรืองไกร กล่าว