ไม่พบผลการค้นหา
ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกเพิ่มขึ้นมากกว่า 1 ล้านคน ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตมีมากกว่า 50,000 ราย มีรัฐบาลกว่า 90 ประเทศทั่วโลกออกคำสั่งปิดเมือง จำกัดเวลาออกจากบ้าน ทำเคอร์ฟิว ชะลอการแพร่ระบาด

3 เม.ย. ข้อมูลสถิติจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากเวบไซต์ worldometers ระบุว่าจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกสะสมเพิ่มขึ้นถึง 1,014,499 ราย ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตทั่วโลกเพิ่มเป็น 53,159 รายทั่วโลก โดยผู้ติดเชื้อมากกว่าครึ่งอยู่ในยุโรปและสหรัฐฯ

ในสหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มขึ้นถึง 236,339 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 5,648 ราย ซึ่งสหรัฐฯ เป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเร็วที่สุดในโลก ณ ปัจจุบัน โดยมลรัฐนิวยอร์กยังคงเป็นรัฐที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อสะสม 50,000 ราย 

วานนี้ (2 เม.ย.) นายบิล เดอ ลาซิโอ นายกเทศมนตรีเมืองนิวยอร์กออกข้อปฏิบัติให้ประชาชนชาวนิวยอร์กสวมผ้าคลุมปิดหน้า หรือ สวมเครื่องป้องกันใบหน้าขณะที่ออกมาในที่สาธารณะ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทางสหรัฐฯ ออกมากล่าวว่า การสวมหน้ากากอนามัยนั้นเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นสำหรับคนที่ไม่มีอาการป่วย

สเปน ยอดผู้เสียชีวิตรายวันสูงสุดในยุโรป

ขณะที่ประเทศสเปนยังเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตรายวันจากการติดเชื้อโควิด-19 สูงสุด โดยวานนี้มีผู้เสียชีวิต 950 ราย ภายใน 24 ชม. ทำให้สเปนมีผู้เสียชีวิตสะสมแล้ว 10,003 รายขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อในสเปนนั้นเพิ่มขึ้นมากกว่า 110,000 ราย

อย่างไรก็ตาม ทางการสเปนได้กล่าวว่า 'ข้อมูลผู้ติดเชื้อรายใหม่ในสเปนนั้นเริ่มมีอัตราการเพิ่มขึ้นคงที่และสเปนกำลังเข้าสู่ระยะที่อัตราการระบาดเริ่มลดลง'

ทางด้านประเทศอังกฤษผู้เสียชีวิตรายใหม่เพิ่มขึ้นมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยมีผู้เสียชีวิตรายวันมากกว่า 500 รายเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่มีการระบาด นายบอร์ริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีของอังกฤษกล่าวว่า อังกฤษจะเพิ่มการตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อให้มากขึ้น โดยตั้งเป้าไว้จะตรวจให้ได้มากถึง 100,000 รายต่อวันภายในสัปดาห์นี้

อย่างไรก็ตาม ในทวีปยุโรป อิตาลียังคงเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อมากที่สุดโดยมีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 13,915 ราย และมีผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 115,000 ราย

มีคำสั่งล็อกดาวน์/เคอร์ฟิวแล้วกว่า 90 เขตปกครองทั่วโลก

ปัจจุบันรัฐบาลกว่า 90 เขตปกครองทั่วโลกมีคำสั่งประกาศปิดเมือง หรือมีการร้องขอให้ประชาชนอยู่ภายในที่อยู่อาศัยของตนเองเพื่อชะลอการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาในพื้นที่ต่างๆ ทำให้มีประชากรกว่า 3.9 พันล้านคนทั่วโลกต่างๆ ตกอยู่ในสถานการณ์ล็อกดาวน์ หรือ การใช้มาตรการเคอร์ฟิวจำกัดการออกจากพื้นที่ต่างๆ

วานนี้รัฐบาลไทยมีประกาศจำกัดเวลาออกจากเคหสถานของประชาชน ทำให้อัตราส่วนของประชากรทั่วโลกที่ถูกจำกัดบริเวณหรือถูกกักตัวเพิ่มเป็น 50 เปอร์เซ็นต์ของประชากรโลกทั้งหมด

ขณะที่ในสหรัฐฯ ประชากรประมาณ 85 เปอร์เซ็นต์ต่างตกอยู่ภายใต้มาตรการกักบริเวณให้อยู่อาศัยในบ้าน แต่ทั้งนี้อัตราผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตในสหรัฐฯ ก็ยังคงมีแนวโน้มที่สูงขึ้นเรื่อยๆ

ที่มา Euronews / CNN /CNA

ข่าวที่เกี่ยวข้อง