นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เปิดเผยว่า มีนักท่องเที่ยวต่างชาติร้องเรียนมายังสมาคมว่าพบเห็นการนำซากสัตว์ป่ามาค้าขายกันมากในพื้นที่บริเวณหลังตลาดทุ่งเกวียน อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ซึ่งเมื่อเดินทางไปตรวจสอบก็พบว่ามีการค้าขายจริง ซึ่งมีผู้ค้ามากเกือบสิบร้าน โดยแต่ละร้านจะมีการร้องเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวที่เดินผ่านซื้อ โดยอ้างว่าเป็นเนื้อเก้ง เนื้อกวาง กระจง หมูป่า กระต่ายป่า ตุ่น กระรอก รังผึ้งป่า ฯลฯ
ซึ่งซากสัตว์ป่าเหล่านี้ ล้วนเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 19 มาตรา 20 และมาตา 21 คือ ห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้ในครอบครอง หรือค้าสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง ซากของสัตว์ป่าสงวน ซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าดังกล่าว..." และหากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ตลาดทุ่งเกวียน หรือกาดทุ่งเกวียน ขึ้นชื่อมานานว่าเป็นแหล่งค้าซากสัตว์ป่า ตั้งอยู่ริมถนนหมายเลข 11 ลำปาง-เชียงใหม่ อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของ อบต.เวียงตาล นายอำเภอห้างฉัตร ทสจ.ลำปาง ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ และ รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งควรจะมีการกวดขันห้ามค้าขายซากสัตว์ป่าให้หมดไปนานแล้ว แต่กลับยังปล่อยให้มีค้าขายกันแบบโจ่งครึ่ม ไม่เกรงกลัวกฎหมาย
ที่สำคัญไม่มีพนักงานเจ้าหน้าที่รัฐคนใด ลงพื้นที่ไปตรวจตรา สั่งห้าม หรือดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดตามกฎหมายเลยหรืออย่างไร หรือกฎหมายมีข้อยกเว้นให้สำหรับคนบางกลุ่ม บางพวก บางพื้นที่ได้ และกรณีดังกล่าว รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ควรตื่นขึ้นมาทำงานโดยสั่งการให้มีการกวาดล้างการค้าขายซากสัตว์ป่าในตลาดท้องถิ่นทั่วประเทศ โดยเฉพาะตลาดที่อยู่ใกล้เขตอุทยานฯ ใกล้ป่าสงวน หรือใกล้เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และตลาดค้าขายใกล้ชายแดนทั่วประเทศ
กรณีตัวอย่างที่เกิดขึ้นในตลาดทุ่งเกวียนนี้ หาก หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ไม่เร่งรีบดำเนินการป้องปรามตามกฎหมาย สมาคมฯจะต้องนำความร้อง ป.ป.ช. และฟ้องศาลปกครองต่อไปแน่นอน นายศรีสุวรรณกล่าวในที่สุด
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 13 พ.ค. ที่ผ่านมา โลกออนไลน์มีการแชร์ภาพจากนักท่องเที่ยวรายหนึ่งที่จอดรถซื้อของฝากและพบกับการวางขายซากสัตว์ป่าของพ่อค้าแม่ค้าภายในตลาดทุ่งเกวียน โดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย โดยผู้โพสต์แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่อุทยานฯ หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจสายปราบปรามกระทำความผิดทรัพยากร และอธิบดีที่มีหน้าที่ อยากให้มาช่วยดูแลปัญหาการค้าซากสัตว์ป่าที่ตลาดทุ่งเกวียนแห่งนี้ อีกทั้งแม่ค้าบางรายยังบอกด้วยว่า หากต้องการเนื้อของสัตว์ชนิดไหนให้บอกได้ ราคาขายเริ่มที่กิโลกรัมละ 150 บาท
ขณะที่คณะเจ้าหน้าที่ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยผาเมือง นำโดย ว่าที่ร้อยตรีฐนพงษ์ ปุรินทราภิบาล เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน ทำหน้าที่หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยผาเมือง เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจากอำเภอห้างฉัตร นำโดย นางกิตติยา นิ้วยะวงศ์ ปลัดอำเภอ หัวหน้าฝ่ายความมั่นคงอำเภอห้างฉัตร เจ้าหน้าที่จาก นปพ.กก.สส.ภ.จว.ลำปาง นำโดย ร.ต.อ.ประจญ ดวงไชย ตำแหน่ง รอง สว.กก.สส.ภ.จว.ลำปาง คณะเจ้าหน้าที่จาก ตำรวจภูธรภาค5 (ศปทส.ภ.5) นำโดย ร.ต.ท.ทนงศักดิ์ ไกลถิ่น และ ร.ต.ชัยนรงค์ สีดี ตำแหน่งหัวหน้าชุดมวลชน มทบ.32 อำเภอห้างฉัตร พร้อมพวก ดังมีรายนามตามท้ายบันทึกฉบับนี้ ได้ร่วมกันตรวจสอบข้อเท็จจริงการค้าสัตว์ป่าบริเวณตลาดทุ่งเกวียน หมู่ที่ 6 ตำบลเวียงตาล อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง ตามที่ได้รับการร้องเรียนทางไลน์จากผู้ที่ใช้นามว่า ตุ๊ดดิ่ง ได้โพสต์ข้อความว่า “ตลาดทุ่งเกวียนที่ห้างฉัตร ลำปาง ยังมีการนำซากสัตว์ป่า มาวางขายกันอย่างโจ่งครึ่ม...เจ้าหน้าที่ป่าไม้–อุทยาน หรือตำรวจปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรฯ อธิบดี ปลัดฯ คงมีภารกิจงานล้นมือ รมว.กท.ทรัพย์ฯ คงไม่ว่าง ปัญหาการค้าซากสัตว์ป่าที่ทุ่งเกวียน จึงยังคงมีท้าทายและให้บริการกันต่อไป...สงสัยต้องทำอะไรซักอย่างแล้วเรา” เป็นการต่อเนื่องจากเมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2561 เวลา15.30 น.ปรากฎดังนี้
โดยผลการเข้าตรวจสอบและสอบถามข้อมูลจากเจ้าของฟาร์มเพาะเลี้ยงกระต่ายบ้านและหนูแฮมเตอร์พบว่าจากการเข้าตรวจสอบสถานที่เพาะเลี้ยงนางจิตรา กาใจท��าย บ้านทุ่งเกวียน หมู่ที่ 6 ตำบลเวียงตาล อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปางพบว่าไม่มีการเพาะเลี้ยงหมูป่า ตามที่ผู้ค้าสัตว์ในตลาดทุ่งเกวียนอ้างถึงและไม่ทราบว่านำมาขายจากที่ใด ซึ่งฟาร์มเพาะเลี้ยงหมูป่าได้เลิกเพาะเลี้ยงมาประมาณ 3 ปี
จากการตรวจสอบพบมีการเพาะพันธุ์หนูแฮมเตอร์ ประมาณ 100 – 150 ตัว มีการเลี้ยงกระต่ายบ้านอยู่สองตัว โดยได้อ้างว่ามีการขายซากกระต่ายจริงให้กับแม่ค้าสัตว์ในตลาดทุ่งเกวียนตามที่แม่ค้าสั่ง จากการสอบถามพบว่านำกระต่ายมาจาก จังหวัดเชียงใหม่ นำซากมาชำแหละขายให้แม่ค้าสัตว์ในตลาดทุ่งเกวียนเพื่อจำหน่ายให้กับลูกค้าที่สนใจ
ในส่วนผลการตรวจการค้าซากสัตว์ในตลาดทุ่งเกวียนพบว่าเนื้อหมูป่า เป็นเนื้อหมู่ป่าที่มาจากฟาร์มเพาะเลี้ยง มาจากดอยมูเซอ จังหวัดตาก จะขายในราคากิโลกรัมละ 140 บาท
และนกกระทา แอบอ้างเป็น นกคุ้ม คือ นกกระทาที่ไม่สามารถให้ไข่ได้แล้ว รับมาจากฟาร์มเพาะเลี้ยงจังหวัดลำพูนและจังหวัดเชียงใหม่ ขายบรรจุในถุงละ 3 ตัว ราคา 50 บาท
หมูเนื้อแดงที่แอบอ้างเป็นเนื้อฟานหรือเนื้อเก้ง คือ เนื้อหมูบ้านหมูเนื้อแดงทั่วไปที่นำมาหมักเลือดและผงชูรส หรือเนื้อวัวมาชำแหละเอ็นออกให้เหลือแต่เนื้อแดงนำมาหมักเลือดและชูรส จะขายในราคากิโลกรัมละ 200 บาท
ไก่ป่า คือ ไก่บ้านสามสายพันธุ์หรือไก่ตามบ้านทั่วไปมาใช้สีชุบตีนไก่ให้ดำแล้วนำไปวางขาย จะขายตามขนาด ตัวโต ราคา 130 บาท ตัวเล็กราคา 120 บาท
สำหรับกระจงที่อ้างในภาพถ่าย วันนี้ตรวจสอบแล้วไม่พบซึ่งเขตฯดอยผาเมืองได้เข้าตรวจสอบตลาดทุ่งเกวียนอย่างต่อเนื่องพบว่า กระจง คือ กระต่ายบ้าน ที่มีเพาะเลี้ยง ของฟาร์มนางจิตรา กาใจทราย บ้านทุ่งเกวียน หมู่ที่ 6 ตำบลเวียงตาล อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง และซื้อมาจากจังหวัดเชียงใหม่ การตรวจสอบในวันเวลาดังกล่าวไม่พบผู้ค้านำสัตว์ป่าผิดกฎหมายมาวางขายในแผงขายแต่อย่างใด คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ทำการบันทึกภาพในการตรวจสอบไว้เป็นหลักฐานแล้ว
Photo by Jake weirick on Unsplash