ไม่พบผลการค้นหา
ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคร่วมพลังประชาชาติไทย เผย 18 มีนาคม จัดปราศรัยที่สวนเบญจสิริ กรุงเทพมหานคร ชวนคนต่อต้านระบอบทักษิณเข้าร่วม ติงพรรคการเมืองงัดนโยบายประชานิยมแข่งขันช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคร่วมพลังประชาชาติไทย(รปช.) ประกาศในวันจันทร์ที่ 18 มีนาคม พรรครวมพลังประชาชาติไทยจะขึ้นปราศรัยที่สวนเบญจสิริ กรุงเทพมหานคร โดยพี่น้องมวลมหาประชาชน หรือผู้ที่เคยเข้าร่วมชุมชนในนามกลุ่มกปปส. จะพกเอานกหวีดมาด้วย

"ผมและแกนนำพรรครวมพลังประชาชาติไทยจะขึ้นปราศรัย ที่สวนเบญจสิริ ใจกลางกรุงเทพมหานคร แต่ปราศรัยครั้งนี้จะพิเศษกว่าทุกครั้งครับ เพราะมีพี่น้องมวลมหาประชาชนเขาบอกมาว่า เขาจะพกเอานกหวีดมาด้วย เขาจะพกเอามือตบมาด้วย และเขายืนยันว่าจะเอาหัวใจดวงเดิมกลับมาด้วย คือหัวใจที่เข็ดขยาดกับความเลวร้ายของระบอบทักษิณเพราะฉะนั้น ใครที่เกลียดระบอบทักษิณ ใครที่เข็ดไม่อยากให้ระบอบทักษิณกลับมา เรามาเจอกันครับ เวลา17.30 น. #คนธรรมดาสร้างชาติ" นายสุเทพระบุ 

เนื้อหาทั้งหมดในเฟซบุ๊กมีดังนี้ 

โพสต์เฟชบุ๊กล่าสุดว่า สวัสดีครับ พี่น้องมวลมหาประชาชนทุกท่าน เข้าสู่โค้งสุดท้ายแล้วสำหรับการเลือกตั้งใหญ่ของประเทศไทย ผมเห็น 2 พรรคใหญ่ ที่ต่างก็ “แจก” แพ็กเกจประชานิยมกันเรียกได้ว่า “ใครดีใครได้” แต่ฟังดูแล้วน่าหวาดหวั่นไม่น้อย

ตั้งแต่การแข่งกันอัดฉีดค่าแรงขั้นต่ำ พรรคหนึ่งบอก 400 อีกพรรคหนึ่งเกทับเป็น 425 ...ในฐานะของพี่น้องผู้ใช้แรงงานคงชอบเพราะขึ้นแบบก้าวกระโดด แต่ความเป็นจริงแล้วบอร์ดค่าแรงจะต้องพิจารณาจากทั้งความเดือดร้อนของภาคแรงงาน ดูคุณภาพของแรงงาน ดูอัตราเงินเฟ้อ ดูGDPของประเทศ ดูภาวะการแข่งขันตลาดตามความเป็นจริง

อีกเรื่องคือการเพิ่มเงินเดือนปริญญาตรี 18000 กับอีกพรรคสู้เป็น 20000 บาท ประชานิยมนี้ผู้ประกอบการต่างพากันสะดุ้งโหยงกันทั้งประเทศ โดยเฉพาะSME ว่าจะจ้างกันไหวไหม เรื่องนี้พรรครวมพลังประชาชาติไทยมีนโยบายจะปฏิรูปการบริหารจัดการระบบอาชีวศึกษาเป็นองค์กรพิเศษแบบภาคเอกชน ผลิตคนที่มีคุณภาพจริงตรงตามความต้องการของตลาดแรงงาน และเป็นคนที่ดีมีศีลธรรมมีความรับผิดชอบ เมื่อนั้นค่าจ้างก็จะเพิ่มไปตามคุณภาพคนเอง

วันนี้ผมเห็นเพียงการงัดนโยบายประชานิยมมาต่อสู้กันทางการตลาด แก่งแย่งลูกค้ากันแบบดุเดือดเลือดพล่าน ของนักการเมืองมืออาชีพเขี้ยวลากดิน ที่สามารถเสนอทุกอย่างเพื่อให้ได้คะแนนเสียง แต่เมื่อเข้าไปแล้วก็ละเลยประชาชน เป็นเช่นนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า เมื่อมองในมุมของคนธรรมดาที่อาจหาญมาทำพรรคการเมือง ก็ รู้สึกหวั่นใจไม่น้อยกับผลกระทบต่อทุกภาคส่วนธุรกิจไทย ประชาชนจะอกหักกันซะเปล่าๆ ผมได้ออกเดินคารวะแผ่นดินจนครบ 77 จังหวัด ก็เพื่อรับฟังปัญหาเหล่านี้ เราจึงมีนโยบายที่มุ่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจชาวบ้าน ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ แก้ปัญหาปากท้องที่ปฏิบัติได้จริงและมีผลในระยะยาวตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงและศาสตร์พระราชา มากกว่าการทำประชานิยม

นี่คือสาเหตุที่พรรครวมพลังประชาชาติไทย ซึ่งรวบรวมผู้ที่มีอุดมการณ์เดียวกันมาอาสาทำงานการเมือง สมาชิกส่วนใหญ่เป็นเพียงประชาชนคนธรรมดา คิดแบบคนธรรมดา รู้สึกแบบคนธรรมดา แต่เจ็บแล้วรู้จักจำจึงอยากร่วมแก้ไข เหมือนเป็น “พรรคการเมืองออร์แกนิค” เมื่อมาเห็นสงครามประชานิยมแจกเงินกันแบบนี้ ... จึงอดเป็นห่วงชาติไม่ได้

24 มีนาคมนี้ คิดกันให้ดีนะครับ อย่ายอมให้อารมณ์ของตัวเอง ตกเป็นเหยื่อของนักเลือกตั้ง อย่าให้ใครเอาขนมมาหลอกล่อ แล้วต้องมานั่งเจ็บช้ำระกำใจกันอีกในภายหลัง อย่าลืมว่าไม่มีใครเข้าใจประชาชนดีเท่ากับประชาชนด้วยกันเอง

ในวันจันทร์ที่ 18 มีนาคมนี้ ผมและแกนนำพรรครวมพลังประชาชาติไทยจะขึ้นปราศรัย ที่สวนเบญจสิริ ใจกลางกรุงเทพมหานคร แต่ปราศรัยครั้งนี้จะพิเศษกว่าทุกครั้งครับ เพราะมีพี่น้องมวลมหาประชาชนเขาบอกมาว่า เขาจะพกเอานกหวีดมาด้วย เขาจะพกเอามือตบมาด้วย และเขายืนยันว่าจะเอาหัวใจดวงเดิมกลับมาด้วย คือหัวใจที่เข็ดขยาดกับความเลวร้ายของระบอบทักษิณเพราะฉะนั้น ใครที่เกลียดระบอบทักษิณ ใครที่เข็ดไม่อยากให้ระบอบทักษิณกลับมา เรามาเจอกันครับ เวลา17.30 น. #คนธรรมดาสร้างชาติ


อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :