นางสุณี ปิยะพันธุ์พงศ์ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกโดย คพ.ได้รับมอบหมายให้เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินงานแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ได้ดำเนินการขับเคลื่อนการเลิกใช้พลาสติกหุ้มฝาขวดน้ำดื่มหรือแคปซีลในอุตสาหกรรมน้ำดื่มไทย เนื่องจากแคปซีลทำให้เกิดขยะพลาสติกมากถึง 520 ตันต่อปี ซึ่งได้กำหนดตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2561 ที่ผ่านมา
การเลิกใช้แคปซีลหุ้มฝาขวดน้ำดื่มของบริษัทผู้ผลิตน้ำดื่ม 5 รายใหญ่ ได้แก่ น้ำดื่มคาราบาว น้ำดื่มช้าง น้ำดื่มคริสตัล น้ำดื่มเนสท์เล่เพียวไลฟ์ และน้ำดื่มสิงห์ ขณะนี้การผลิตได้เลิกใช้แคปซีลไปแล้ว แต่ยังคงมีน้ำดื่มที่มีสต็อกเก่าที่มีการใช้แคปซีลตกค้างในตลาดอยู่บ้าง โดยผู้แทนสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องดื่มไทยแจ้งว่าขอเวลาอีกประมาณ 1-2 เดือน น้ำดื่มสต็อกดังกล่าวจะหมดจากท้องตลาด
นางสุณี กล่าวว่า เพื่อการขยายผลการเลิกใช้แคปซีลหุ้มฝาขวดน้ำดื่ม คพ. ได้ทำหนังสือหน่วยงานระดับกระทรวง 19 กระทรวง พร้อมทั้งเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เพื่อขอความร่วมมือแจ้งหน่วยงานในสังกัด ในการส่งเสริม สนับสนุนการใช้น้ำดื่มบรรจุขวดที่ไม่มีแคปซีลในการจัดประชุมหรือจัดงานอื่นใด รวมทั้งการจำหน่ายของร้านค้าสวัสดิการภายในหน่วยงาน
หากในหน่วยงานมีการผลิตหรือสั่งผลิตน้ำดื่มบรรจุขวด ขอความร่วมมือในการไม่ใช้แคปซีล พร้อมขอความร่วมมือประชาสัมพันธ์ สร้างความรู้ ความเข้าใจในประเด็น น้ำสะอาดไม่ต้องมีแคปซีล ให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานรวมทั้งประชาชนทั่วไป ทางช่องทางต่างๆของหน่วยงาน และได้ประสานขยายการดำเนินงานไปยังผู้ประกอบการและผู้สั่งผลิตน้ำดื่มรายย่อยตามลำดับ อาทิ ผู้ประกอบการน้ำดื่มชุมชนตามโครงการน้ำดื่มประชารัฐ ซึ่งมีมากกว่า 7,000 แห่ง รวมทั้ง โรงแรม (ประมาณ 800-900 แห่ง) ศาสนสถาน สถานศึกษา ธนาคาร สายการบินในประเทศ และค่ายมือถือต่างๆ ซึ่งจะทำสามารถลดแคปซีลได้ร้อยละ 100 ภายใน ปี 2562
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: