การประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018 รอบชุดว่ายน้ำ ผู้เข้าประกวดทั้ง 40 คนต่างอวดหุ่นสวยด้วยความมั่นใจบนรันเวย์ ‘จุ๊บจิ๊บ – พลิตา พุทธรัสสุ หมายเลข 12’ คว้ารางวัลชุดว่ายน้ำยอดเยี่ยม (Best Swim Suit) ในขณะที่การตอบคำถามบนเวทีไม่ใช่เพียงคำถามวัดทัศนคติทั่วไป แต่มีคำถามที่ชวนให้ผู้เข้าประกวดต้องแสดงความคิดในเชิงวิพากษ์วิจารณ์รูปแบบการประกวดนางงามด้วยว่า “ทำไมต้องใส่ชุดว่ายน้ำ?”
‘จุ๊บจิ๊บ พลิตา’ กล่าวว่า ผู้หญิงทุกคนมีเสรีภาพที่จะแต่งกายอย่างไรก็ได้ที่เราคิดว่าสวย ใส่แล้วมั่นใจ ไม่ว่าใครจะพูดหรือตัดสินอะไร แต่ตราบใดที่เราทำแล้วเรามีความสุข เราชอบ และไม่ทำร้ายคนอื่น เรามีสิทธิ์ที่จะทำ
‘พลอย – วาเลนตินา จาร์ดุลโล หมายเลข 11’ กล่าวว่า การใส่ชุดว่ายน้ำมันแสดงถึงความมั่นใจที่ผู้หญิงควรจะมี เราต้องภูมิในใจรูปร่างของเรา แม้จะมีหุ่นที่แตกต่างกัน แต่ทุกคนสวยในรูปแบบของตัวเอง ซึ่งสิ่งนี้ทำให้โลกเราสวยงาม ซึ่งความงามในความคิดของเธอไม่ใช่แค่หน้าตาภายนอก แต่ต้องสุขภาพดีด้วย ดังนั้นการใส่ชุดว่ายน้ำด้วยความมั่นใจ แสดงให้เห็นว่าเรารักตัวเองมากแค่ไหน เราดูแลสุขภาพตัวเองดีแค่ไหน
‘นิ้ง - โศภิดา กาญจนรินทร์ หมายเลข 20’ เผยว่า กว่าเธอจะมายืนบนรันเวย์ด้วยชุดว่ายน้ำได้ในวันนี้ เธอต้องเตรียมตัวมากกว่า 6 เดือน ทั้งการออกกำลังกาย และรับประทานอาหารคลีน โดยแบ่งเป็นควบคุมอาหาร 70 เปอร์เซ็นต์ และออกกำลังกายอีก 30 เปอร์เซ็นต์ การทำแบบนี้ต้องใช้กำลังใจเป็นอย่างมาก เราต้องคิดบวกว่าเราทำเพื่อพัฒนาตัวเอง วันนี้จึงไม่ใช่การแข่งขัน หรือเอาชนะคนอื่น แต่คือการเอาชนะตัวเอง
‘กานต์ - เมณิษา ชุมสายสกุล หมายเลข 2’ ที่เข้าประกวดปีแรก เปิดเผยว่า การเป็นนางงามจำเป็นจะต้องมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง เพราะกิจกรรมที่ต้องทำบ่อยที่สุดคือการถ่ายภาพหมู่ ที่แม้จะดูเป็นเรื่องง่ายๆ แต่การยืนแถวหน้าและต้องย่อบนส้นสูงนานหลายนาทีเพื่อให้ช่างภาพถ่ายภาพจนเสร็จ ต้องอาศัยช่วงขาที่แข็งแรง มิฉะนั้นการถ่ายภาพหมู่หลายครั้งต่อวันอาจจะทำให้ปวดขาได้ แถมยังจะทำให้ภาพเสีย ขาเราเกร็งไม่ไหว ดังนั้นเธอจึงจำเป็นต้องออกกำลังกาย ให้มีสุขภาพแข็งแรง พร้อมทรงตัวในท่ายืนย่อเข่า แต่ยิ้มอย่างสดใสเสมอ
‘ฝน - น้ำฝน ศิริกุล หมายเลข 39’ เล่าถึงประสบการณ์การเข้าประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์หลายครั้งที่ผ่านมา การเตรียมความพร้อมของร่างกายเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก เพราะจะต้องทำกิจกรรมทั้งวัน ตั้งแต่ตี 5 ถึง 5 ทุ่ม และในทุกกิจกรรมก็จะมีการถ่ายทำวีทีอาร์ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว บางกิจกรรมเป็นการถ่ายทำกลางแดด แถมยังมีประชาชนมาเฝ้ารอให้กำลังใจหรือถ่ายรูปด้วยเสมอ ดังนั้นการดูแลสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการกิน การออกกำลังกาย หรือการนอน จึงสำคัญมาก เพราะหากมีสุขภาพที่ดี ก็จะมีรอยยิ้มที่สดใสผ่านวีทีอาร์ หรือให้กับแฟนนางงามเสมอ
"การใส่ชุดว่ายน้ำเป็นการวัดใจด่านแรก ว่าคุณมีสุขภาพที่ดี และมีความมั่นใจในความสวยในแบบของตัวเอง"
หลังจากนี้สาวงามทั้ง 40 คนจะเดินทางไปเก็บตัวและถ่ายทำวีทีอาร์ที่จังหวัดกระบี่ในวันที่ 20-27 มิ.ย. และประกวดในรอบตัดสินในวันที่ 30 มิ.ย. นี้ โดยผู้ชนะจะเป็นตัวแทนประเทศไทยไปประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2018 บนเวทีโลก และรองมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ จะเป็นตัวแทนประเทศไทยไปประกวดมิสเอิร์ธ 2018
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
