เครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ จัดกิจกรรม “ปั่นทวงป่า” เพื่อคำมั่นสัญญาจากรัฐบาลในการที่จะดำเนินการตามข้อตกลงที่ได้ทำร่วมกับภาคประชาชนและชาวจังหวัดเชียงใหม่ตั้งแต่เดือน พ.ค.61 กรณีปัญหาโครงการบ้านพักข้าราชการตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5 เชิงดอยสุเทพ ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ที่จะมีการส่งมอบคืนพื้นที่ พร้อมทำการรื้อย้ายบ้านพัก 45 หลัง และอาคารชุด 9 หลัง ออกจากแนวเขตป่าดั้งเดิม แล้วทำการฟื้นฟูสภาพป่าให้กลับมาสมบูรณ์ อย่างไรก็ตามจนถึงปัจจุบันที่แม้จะมีการส่งมอบงานก่อสร้างโครงการแล้ว แต่ยังไม่ปรากฏว่ามีการส่งมอบคืนพื้นที่ให้กรมธนารักษ์
กิจกรรมครั้งนี้มีประชาชนชาวจังหวัดเชียงใหม่จำนวนมากนัดรวมตัวกันที่บริเวณหน้าศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา แล้วขี่จักรยานเคลื่อนขบวนไปที่บริเวณหน้าศาลอุทธรณ์ภาค 5 พร้อมป้ายข้อความรณรงค์
จากนั้นได้เคลื่อนขบวนพร้อมด้วยโลงศพที่ระบุชื่อ “นายป่าแหว่ง อยุติธรรม ชาตะ 19 ก.ค.2556 มรณะ 11 พ.ย.2561” ไปตั้งที่บริเวณเนินดินด้านข้างโครงการบ้านพักข้าราชการตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5 เพื่อประกอบพิธีกรรมฌาปนกิจศพ โดยมีพระสงฆ์สวดบังสุกุล , ผู้ร่วมกิจกรรมวางดอกไม้จันทน์ และเผาโลงศพ
(ภาพจากเว็บไซต์เชียงใหม่นิวส์)
ทั้งนี้มีการระบุประวัติ นายป่าแหว่ง อยุติธรรม ว่ากำเนิดจาก นายอำนาจ อยุติธรรม กับนางบารมี อยุติธรรม (นามสกุลเดิม เจ้ายศ) บิดากับมารดา ได้หมั้นหมายกันเมื่อปีพ.ศ. 2546 และสมรสเข้าห้องหอโดยสมบูรณ์เมื่อพ.ศ. 2549 จากนั้นจึงได้ถือกำเนิดนายป่าแหว่งออกมาละแวกเชิงดอยสุเทพ เขตอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่โดยไม่มีชาวบ้านได้รู้เห็น
กระทั่งเจ้าหน้าที่ อบต.ดอนแก้ว ก็ไม่ได้รับแจ้ง ซึ่งนายป่าแหว่งเติบโตขึ้น พร้อมๆ กับการกินต้นไม้เป็นอาหาร กินน้ำจากลำธารห้วยชะเยืองจนเติบใหญ่ ไล่ทำร้ายนกกาสัตว์น้อยใหญ่ที่เคยอาศัยในเชิงป่าละแวกนั้นเสียหมดสิ้น ในที่สุดจึงมีชาวบ้านไปพบเห็นเมื่อราวพ.ศ. 2558 พฤติกรรมของนายป่าแหว่ง อยุติธรรม ไม่เป็นที่สบอัธยาศัยของประชาชนชาวบ้าน แรงแช่งชักของชาวบ้านเมืองที่ก่นด่าดังก้องไปทั่ว ยิ่งนานก็ยิ่งดังขึ้น ๆ จนที่สุด นายป่าแหว่ง อยุติธรรม ไม่สามารถทานทน เป็นอันต้องจบสิ้นถึงกาลมรณะลง
นายธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ กล่าวว่า กิจกรรมครั้งนี้เพื่อการบอกกล่าวเน้นย้ำว่าคนเชียงใหม่ไม่นิ่งนอนใจเกี่ยวกับกรณีปัญหานี้และต้องการทวงสัญญาจากรัฐบาลที่จะแก้ไขปัญหาไม่ให้เกิดการยืดเยื้อมากไปกว่านี้ โดยเร่งพิจารณาตัดสินใจแก้ไขปัญหานี้ให้จบลงโดยเร็วเพียงแค่ปฏิบัติตามข้อตกลงที่ทำร่วมกันไว้เท่านั้น ซึ่งท่าทีล่าสุดของนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่บอกว่าไม่ควรรื้อ เนื่องจากโครงการนี้ดำเนินการตามกฎหมายและคนนอกพื้นที่เชียงใหม่ไม่เห็นด้วยนั้น เป็นสิ่งที่น่าผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งห่วงว่าจะกลายเป็นการสร้างบรรทัดที่ผิด ทั้งด้านจริยธรรมและคุณธรรม พร้อมย้ำว่าคนเชียงใหม่ไม่ต้องการให้สิ่งอัปมงคลเช่นนี้ยังคงอยู่ และยืนยันว่าการเคลื่อนไหวไม่ได้เป็นเพราะต้องการเอาชนะ แต่แค่ต้องการป่าดอยสุเทพกลับคืนมาเท่านั้น
นอกจากนี้ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ บอกว่า ในช่วงหลังจากนี้เมื่อพรรคการเมืองต่างๆ สามารถทำกิจกรรมทางการเมืองและหาเสียงได้แล้ว หากพรรคการเมืองใดที่มีการประกาศนโยบายชัดเจนว่าจะรื้อย้ายบ้านพัก 45 หลัง และอาคารชุด 9 หลัง ออกจากแนวเขตป่าดั้งเดิม แล้วทำการฟื้นฟูสภาพป่าให้กลับมาสมบูรณ์ ทางเครือข่ายและคนเชียงใหม่พร้อมที่จะเทคะแนนเสียงให้เลยทันทีในการเลือกตั้ง
ส่วนกรณีที่ผู้นำป้ายที่มีการเปิดเผยรายชื่อข้าราชการที่ยังคงพักอาศัยอยู่ในอาคารชุดของโครงการไปติดไว้ในตัวเมืองเชียงใหม่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านนั้น ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับทางเครือข่าย และทางเครือข่ายไม่สนับสนุนการกระทำดังกล่าว อย่างไรก็ตามยอมรับว่าเป็นไปได้ที่ผู้กระทำอาจจะเกิดความอัดอั้น ไม่พอใจท่าทีของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกรณีการแก้ไขปัญหา รวมทั้งอาจจะมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดกรณีคล้ายกันอีก หากปัญหายังยืดเยื้อ
ภาพจาก เชียงใหม่นิวส์ www.chiangmainews.co.th