เรือตรี ทรงธรรม จันทประสิทธิ์ รองผู้อำนวยการการท่าเรือฯ สายวิศวกรรม รักษาการแทน ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ 2561 กทท. ได้รับอนุมัติงบลงทุนจำนวนทั้งสิ้น 11,075.918 ล้านบาท ซึ่ง กทท. มีกรอบการเบิกจ่ายเท่ากับ 2,848.943 ล้านบาท โดยคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 26 ก.ย.60 ที่ผ่านมา เห็นชอบกรอบและงบประมาณของรัฐวิสาหกิจประจำปีงบประมาณ 2561 ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เสนอ พร้อมทั้งกำหนดกรอบการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 95 ของวงเงินอนุมัติเบิกจ่ายลงทุนคิดเป็น 2,706.496 ล้านบาท
สำหรับรายละเอียดของงบลงทุนตามแผนปฏิบัติการ ปีงบประมาณ 2561 ของ กทท. มีรายการลงทุนที่สำคัญ อาทิ ท่าเรือกรุงเทพ (ทกท.) ประเภทเครื่องจักรอุปกรณ์ ได้แก่ การจ้างเหมาสร้างปั้นจั่นยกตู้สินค้าหน้าท่าชนิดเดินบนราง (Rail Mounted Shoreside Gantry Crane) ขนาดยกน้ำหนักไม่น้อยกว่า 40 เมตริกตัน จำนวน 2 คัน ณ ท่าเทียบเรือ 20 G การจ้างเหมาต่อเรือขุดพร้อมอุปกรณ์การขุดและอุปกรณ์ประกอบ ความสามารถในการขุดได้ที่ความลึกไม่น้อยกว่า 15 เมตร จำนวน 1 ลำ (ทดแทนเรือขุด 2) พร้อมเรือลากจูงขนาดกำลังฉุดไม่น้อยกว่า 10 เมตริกตัน จำนวน 1 ลำ (ทดแทนเรือลากจูง 3) เรือบรรทุกดินประเภทขับเคลื่อนระบบใบจักร ขนาดความจุยุ้งดินไม่น้อยกว่า 300 ลูกบาศก์เมตร จำนวน 2 ลำ (ทดแทนเรือดิน 4,5,6) และประเภทสิ่งก่อสร้าง ได้แก่ งานพัฒนาพื้นที่เพิ่มประสิทธิภาพใน การให้บริการบรรจุตู้สินค้าเพื่อการส่งออก (Exported Container Freight Station) (CFS EXPORT) งานสร้าง ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยของท่าเรือกรุงเทพ (Bangkok Port Incident Command Center) งานสร้างอาคารสำนักงานกองบริการ (ปากน้ำ) และอาคารหมวดพัสดุคลังสินค้าที่ 1 งานปรับปรุงพื้นท่า 20 G พร้อมติดตั้งระบบไฟฟ้าแรงสูง ฯลฯ และที่ท่าเรือแหลมฉบัง (ทลฉ.) ได้แก่ งานก่อสร้างสถานีไฟฟ้า 115 เควี ของท่าเรือแหลมฉบัง (ทดแทน) งานสร้างศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พร้อมระบบสัญญาณควบคุมและแจ้งเหตุเพลิงไหม้อัตโนมัติ
ทั้งนี้ กทท. ได้ดำเนินการจัดซื้อ ก่อสร้างตามแผนงานให้เป็นไปตามแผนการลงทุนที่กำหนดไว้ เพื่อให้สามารถผูกพันสัญญาและเบิกจ่ายเงินได้ทันภายในปี 2561 และเพื่อให้มีการเบิกจ่ายงบลงทุนได้ตามกรอบการเบิกจ่ายที่รัฐบาลกำหนด ซึ่งคาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศตามนโยบายของรัฐบาล และเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการของ กทท. เนื่องจากเป็นการลงทุนโครงการพัฒนาต่างๆ ทั้งการพัฒนาในโครงสร้างพื้นฐานและการให้บริการ