พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ร้อนๆ หนาวๆ เมื่อกรมการค้าภายในสั่งปรับร้านค้า 26 ราย รวมเป็นเงินกว่า 87,000 บาท หลังให้ลูกค้าต้องสอบถามทางอินบอกซ์ ไม่ปิดป้ายราคาให้ชัดเจน
การจับกุมดังกล่าวเป็นไปตามประกาศฉบับที่ 49 พ.ศ. 2561 เรื่องการแสดงราคาและรายละเอียดเกี่ยวกับการจำหน่ายสินค้าและบริการผ่านระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ โดยกำหนดให้ผู้ค้าต้องแจ้งราคาสินค้าให้ชัดเจนบนร้านค้าออนไลน์ หากผู้ใดฝ่าฝืนจะมีความผิดตามมาตรา 28 และมีโทษตามมาตรา 40 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท
“การเอาจริงเอาจังกับความชัดเจนของราคาและรายละเอียดเป็นเรื่องที่สำคัญมาก” แอดมินเฟซบุ๊กเพจผู้บริโภคกล่าวกับ วอยซ์ออนไลน์
เขาบอกต่อว่า มาตรการเดินหน้าจับกุมเป็นการเริ่มต้นสร้างมาตรฐานเชิงบวกให้กับการค้าในโซเชียลมีเดีย กระตุ้นให้ผู้ค้าปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและยกระดับการขาย โดยยึดมั่นความชัดเจนต่อผู้ค้าเป็นหลัก
“ผู้ค้าก็มีเหตุผลที่อ้างว่าไม่ต้องการแสดงราคาในเบื้องต้น แต่ผมคิดว่าสิ่งสำคัญคือความชัดเจน ถ้าชัดเจนในรายละเอียด ก็เท่ากับคุณสามารถตอบโจทย์ รวมถึงสร้างความประทับใจแรกให้กับผู้บริโภคได้แล้ว ไม่ต้องรอให้เขาอินบอกซ์มา เพราะถ้าเกิดตอบช้าก็อาจเสียความรู้สึก และเสียลูกค้าได้”
ทั้งนี้ นอกเหนือจากความชัดเจน 'คุณภาพและบริการหลังการขาย' ถือเป็นเหตุผลสำคัญที่แอดมินเพจผู้บริโภคแนะนำให้ผู้ค้ารักษาเอาไว้อย่างเหนียวแน่น
ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ นายกสมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย มองว่า ประกาศดังกล่าวสร้างความยุติธรรมมากขึ้นให้กับผู้บริโภค แม้ในบางมุมจะดูฝืนธรรมชาติของการใช้สื่อในโซเชียลมีเดียอยู่บ้าง เนื่องจากผู้ค้าหลายรายให้ความสำคัญกับกลยุทธ์การเจรจาเพื่อปิดการขาย ขณะที่สินค้าบางประเภทก็มีการปรับเปลี่ยนราคาอยู่บ่อยครั้ง
“จุดอ่อนของโซเชียลมีเดียคือโพสต์ไปแล้ว มันไหลไปเลย ถ้าจะแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงอาจเป็นความซ้ำซ้อนทางด้านราคา”
คำถามที่ภาวุธคิดก็คือ กรมการค้าภายในจะสามารถเข้มงวดและดำเนินการในลักษณะดังกล่าวได้อีกนานเพียงใด เนื่องจากกำลังของเจ้าหน้าที่และการเติบโตของการค้าในโลกโซเชียลมีเดีย
กลุยทธ์ด้านการตลาดกลายเป็นเหตุผลของผู้ค้าในการปกปิดราคาเบื้องต้น
แอดมินแฟนเพจแม่ค้าออนไลน์ อธิบายว่า สินค้าบางประเภทมีคู่แข่งเป็นจำนวนมาก เกรงว่าจะถูกตัดราคาจากร้านอื่นๆ นอกจากนั้นยังมีเหตุผลเรื่องการป้องกันมิจฉาชีพอีกด้วย
“มีคนบางประเภทส่งข้อความเข้าไปทักลูกค้าตามเพจต่างๆ และเสนอราคาที่ถูกกว่า เมื่อลูกค้าเห็นแบบนั้นก็ยอมโอนเงินให้ แต่สุดท้ายกลับโดนหลอก”
เธอเห็นว่าการเอาผิดทางกฎหมายกับแม่ค้าที่ไม่เปิดเผยราคาเบื้องต้น รุนแรงเกินไป เนื่องจากวิธีการนำเสนอเป็นสิทธิและกลยุทธ์ที่ไม่ได้เอาเปรียบลูกค้า พูดง่ายๆ คือ “เป็นทางเลือกมากกว่าการบังคับ”
พ่อค้ามากประสบการณ์ทางโซเชียลมีเดียรายหนึ่ง ซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อ ให้เหตุผลการปกปิดราคาเบื้องต้นว่า
1.หลังไมค์นั้นมีโอกาสเจรจาต่อรอง เพิ่มโอกาสในการขาย และลูกค้าอาจจะได้ราคาลดพิเศษ ผู้ค้าเองไม่สามารถบอกราคาพิเศษในที่สาธารณะได้ เพราะแต่ละคนจะได้ส่วนลดแตกต่างกันตามจำนวนการสั่งซื้อ
นอกจากนั้นการพูดคุยหลังไมค์ยังเป็นการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ ซึ่งส่งผลต่อการซื้อขายในระยะยาว
2. หลายคนมีเว็บไซต์หลักคอยบอกราคาอย่างชัดเจนอยู่แล้ว ใช้โซเชียลมีเดียเพื่อการโปรโมทเท่านั้น
3. การบอกราคาที่โพสต์หรือคอมเมนต์ ราคาจะติดอยู่ตลอดไป หากเกิดการเปลี่ยนแปลงจะสร้างความสับสนให้กับลูกค้าใหม่ๆ ได้
“สำหรับคนที่สนใจและตั้งใจซื้อสินค้าตัวนั้นจริงๆ เขาจะหาทางติดต่อมาพูดคุยจนได้” เขาให้ความเห็น
วิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เผยว่า ถ้าพบเห็นการขายสินค้าโดยไม่ปิดป้ายแสดงราคา สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วน โทร. 1569 หรือเว็บไซต์ www.dit.go.th หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ
อย่างไรก็ตาม กรมการค้าภายในพบว่า การสืบหาข้อมูลผู้ประกอบการค้าออนไลน์มีกระบวนการที่ซับซ้อน เพราะไม่สามารถค้นหาที่ตั้งที่ชัดเจนได้เหมือนร้านค้าทั่วไป จึงขอให้ประชาชนแจ้งรายละเอียดอย่างชัดเจน เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการตามข้อร้องเรียนได้สะดวก
สำหรับประกาศ ฉบับที่ 49 พ.ศ. 2561 เรื่อง การแสดงราคาและรายละเอียดเกี่ยวกับการจำหน่ายสินค้าและบริการผ่านระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ กำหนดให้ผู้ค้าต้องแจ้งราคาสินค้าให้ชัดเจนบนร้านค้าออนไลน์ ซึ่งบังคับใช้กับผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการจำหน่ายสินค้า หรือบริการออนไลน์ เช่น ไลน์, เฟซบุ๊ก, เว็บไซต์, อินสตาแกรม ต้องบอกรายละเอียดของสินค้าให้ชัดเจน เช่น ประเภท ชนิด ลักษณะ ขนาด น้ำหนักของสินค้า และการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายอื่นๆ
เช่น ค่าขนส่ง ค่าประกันสินค้า และราคาที่แสดงต้องแสดงให้ตรงกับราคาจำหน่ายหรือค่าบริการที่ให้บริการ ยกเว้นกรณีจำหน่ายในราคาต่ำกว่า หากผู้ใดฝ่าฝืนจะมีความผิดตามมาตรา 28 และมีโทษตามมาตรา 40 แห่งพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ระวางโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท
Photo by Andrew Neel on Unsplash