วันที่ 19 ต.ค. 2565 ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาเพื่ออ่านคำวินิจฉัย กรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ขอศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยเพื่อมีคำสั่งให้ยุบพรรคไทรักธรรม โดยกล่าวหาว่าพรรคไทรักธรรมรับสมัครสมาชิกพรรคการเมืองระหว่างเดือน ก.ย. 2561 ถึงเดือน ม.ค. 2562 เชิญชวนชาวบ้าน ต.ป่ามะคาบ จ.พิจิตร ให้เข้าร่วมกลุ่มทำดอกไม้จันทน์ โดยกำหนดเงื่อนไขให้สมัครเป็นสมาชิกพรรคไทรักธรรมก่อน โดยไม่ต้องเสียค่าสมัครและค่าบำรุงพรรคการเมือง เนื่องจากพรรคออกค่าใช้จ่ายให้
ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงแล้วเห็นว่า วิธีการหาสมาชิกดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และมีผลผูกพันให้ยุบพรรคไทรักธรรม แม้การยุบพรรคการเมืองจะไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา เพราะอาจกระทบต่อเจตนารมณ์ของกฎหมายที่ประสงค์ให้มีการส่งเสริมพรรคการเมืองให้มีความเข้มแข็ง และอาจส่งผลกระทบต่อสมาชิกพรรคไทรักธรรมอีกจำนวนมากที่มีอุดมการณ์คล้ายคลึงกัน
“แต่การหาสมาชิกพรรคด้วยวิธีการดังกล่าวไม่อาจส่งผลให้พรรคไทรักธรรมเป็นสถาบันทางการเมืองที่เข้มแข็ง หรือผลักดันความเป็นประชาธิปไตยไปสู่การปฏิบัติได้ เพราะการสมัครเป็นสมาชิกเกิดจากการหลงเชื่อด้วยการจูงใจ ไม่ได้ศรัทธาในพรรค ไม่ได้รู้สึกเป็นเจ้าของพรรค ไม่ได้ใส่ใจเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมของพรรคอย่างแท้จริง แต่หวังจะได้เงินการทำดอกไม้จันทน์ หรือประโยชน์อื่นใดที่พรรคเสนอให้ กรณีนี้มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคไทรักธรรมกระทำการฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 92 วรรค 1 (3) ประกอบมาตรา 30”
ศาลรัฐธรรมนูญมีมติโดยเสียงข้างมาก (7 ต่อ 2) วินิจฉัยให้ยุบพรรคไทรักธรรม ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 92วรรคหนึ่ง (3) และวรรคสอง ประกอบมาตรา 30 และวินิจฉัยให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคไทรักธรรมที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในระหว่างเดือน ก.ย. 2561 ถึงเดือน ม.ค. 2562 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีการกระทำอันเป็นเหตุให้ยุบพรรค มีกำหนดเวลา 10 ปี นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคผู้ถูกร้อง รวมถึงวินิจฉัยห้ามมิให้ผู้ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารของพรรคไทรักธรรมไปจดทะเบียนพรรคการเมืองขึ้นใหม่ หรือเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองหรือมีส่วนร่วมในการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่อีก ภายในกำหนด 10 ปี นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคผู้ถูกร้องตามมาตรา 94 วรรคสอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันพรรคไทรักธรรมมี ส.ส.ในสภาฯ ทั้งหมด 1 คน คือ พีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ซึ่งดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคด้วย คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจึงมีผลให้ พีระวิทย์ ในฐานะกรรมการบริหาร ถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง และห้ามจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่เป็นเวลา 10 ปี นับแต่วันนี้ (19 ต.ค. 2565) เป็นต้นไป
สั่ง ประธาน กกต. แจงเพิ่มกฎหมายลูกเลือกตั้ง
ในวันเดียวกัน ศาลรัฐธรรมนูญยังมีคำสั่งเพิ่มเติมกรณีประธานรัฐสภาส่งความเห็นของ ส.ส. และ ส.ว. ขอให้วินิจฉัยว่า ร่าง พ.ร.ปว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มาตรา 25 และมาตรา 34 มีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ และตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ หรือไม่
โดยศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเห็นว่าเพื่อประโยชน์แห่งการพิจารณา จึงสั่งให้ประธาน กกต. ชี้แจงเพิ่มเติมตามประเด็นที่ศาลกำหนดและยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือ