ไม่พบผลการค้นหา
ยังมีเด็กที่ไม่เข้าเกณฑ์การฉีดวัคซีนจำนวนมาก อย่างไรก็ดี ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐฯ ออกมาแจ้งเตือนให้ผู้ปกครองปกป้องลูกตัวเอง หลังมีรายงานพบเด็กติดโควิด-19 จนต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลพุ่งสูงมากขึ้น

พญ.โรเชล วาเลนสกี้ ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ ออกมาเปิดเผยว่า มีรายงานพบเด็กติดโควิด-19 และต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มของเด็กที่ยังไม่อยู่ในเกณฑ์ที่สามารถฉีดวัคซีนได้ โดยคิดเป็นสถิติ 4 ใน 100,000 ของเด็กอายุน้อย จากเดิมที่มีอัตราเพียง 2.5 ใน 100,000 ราย

ทั้งนี้ อัตราดังกล่าวคำนวณจากโรงพยาบาล 250 แห่งของ 14 มลรัฐทั่วสหรัฐฯ โดยเป็นเด็กตั้งแต่อายุ 5 ถึง 17 ปีประมาณ 1 ใน 100,000 ราย อัตราการติดเชื้อจนต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลในเด็กที่พุ่งสูงขึ้นในระลอกนี้ของสหรัฐฯ เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดของเชื้อโอไมครอนที่แพร่เชื้อได้รวดเร็ว แต่เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปียังไม่สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนได้ จึงกลายเป็นกลุ่มผู้ติดเชื้อและเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลมากขึ้นเรื่อยๆ

“การรักษาตัวในโรงพยาบาลเด็กเล็กอยู่ในจุดที่มีอัตราสูงที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับจุดสูงสุดที่เคยเกิดขึ้นมาในการระบาดใหญ่” วาเลนสกี้ระบุ นอกจากนี้ ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ ชี้ว่า เกินกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของเด็กอายุระหว่าง 12 ถึง 18 ปี และ 16 เปอร์เซ็นต์ของเด็กอายุ 5 ถึง 11 ปี ที่เข้าเกณฑ์การฉีดวัคซีน ได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว ทำให้ยังมีเด็กอีกจำนวนมากที่ยังคงไม่มีภูมิคุ้มกัน และอาจติดเชื้อจนต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลได้

อัตราการติดเชื้อโดยรวมของทั้งสหรัฐฯ มีเด็กคิดเป็นสัดส่วนเพียงแค่ 5 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งคิดเป็นกลุ่มประชากรที่น้อยที่สุดที่ติดโควิด-19 ท่ามกลางการระบาดหนักนี้ เช่นเดียวกันกับอัตราผู้ป่วยใหม่รายวัน ที่เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีเพียงแค่ประมาณ 700 รายต่อวัน หรือคิดเป็น 5 เปอร์เซ็นต์เช่นกัน ทั้งนี้ ตัวเลขดังกล่าวทวีคูณขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับสองสัปดาห์ก่อนหน้า

อย่างไรก็ดี จากรายงานระบุว่า มีเด็กอายุ 12 ถึง 18 ปีจำนวน 102 ราย เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลหลังติดโควิด-19 โดยเด็กทั้งหมดไม่ได้รับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ซึ่งได้รับอนุญาตให้ใช้ฉีดเด็กในสหรัฐฯ ระหว่างอายุ 5 ถึง 18 ปี ทั้งนี้ เด็กร้อยกว่ารายดังกล่าวต้องใช้เครื่องช่วยหายใจและเครื่องพยุงชีพอื่นๆ ในทางตรงกันข้าม เด็กกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนจำเป็นจะต้องเข้ารับการรักษาในลักษณะดังกล่าว

จากข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เบื้องต้น เด็กเป็นกลุ่มประชากรที่มีอาการป่วยน้อยที่สุดหากติดโควิด-19 เมื่อเปรียบเทียบกับประชากรผู้ใหญ่ โดยเด็กที่ตรวจพบว่าติดโควิด-19 มักเกิดขึ้นจากการเดินทางมาโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการป่วยอื่นๆ ก่อนตรวจพบเชื้อโควิด-19 โดยทางการสหรัฐฯ เน้นย้ำว่า อาการของเด็กที่ติดโควิด-19 มักเกิดออกมาในรูปแบบของกลุ่มอาการอักเสบในอวัยวะหลายระบบ ซึ่งก่อให้เกิดอาการต่างๆ เช่น ไข้ต่อเนื่อง ปวดท้อง และผื่นขึ้น ทั้งนี้ เด็กส่วนใหญ่หายดีแล้ว และมีเพียงแค่ 55 รายเท่านั้นที่เสียชีวิต

ที่มา:

https://apnews.com/article/coronavirus-pandemic-science-health-pandemics-rochelle-walensky-0f9d46ab55b0f2f6951ffddd6ca8a511

https://thehill.com/policy/healthcare/588768-cdc-director-updates-isolation-guidance-in-effort-to-keep-schools-open