ไม่พบผลการค้นหา
ตำรวจไทยเผยว่าเป็นการขยายผลสอบสวนจากเหตุจับกุมผู้ลอบขนนอแรดเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ขณะที่องค์กรระหว่างประเทศย้ำว่า เครือข่ายลักลอบค้าสัตว์เชื่อมโยงในหลายประเทศแถบเอเชีย รวมไทย

องค์กรระหว่างประเทศด้านการอนุรักษ์สัตว์และต่อต้านการค้าสัตว์ 'ฟรีแลนด์' เผยแพร่แถลงการณ์ลงวันที่ 20 มกราคม ระบุว่านายบุญชัย บัช ชาวเวียดนามที่มีสัญชาติไทย ผู้ต้องสงสัยในคดีลักลอบนำเข้าและค้านอแรดที่มีเครือข่ายเชื่อมโยงระหว่างเอเชียและแอฟริกา ถูกจับกุมโดยตำรวจไทยระหว่างที่นายบุญชัยอยู่ในจังหวัดนครพนม

การจับกุมครั้งนี้ ถือเป็นความคืบหน้าครั้งสำคัญในการปราบปรามและจับกุมสมาชิกขบวนการลักลอบค้าสัตว์ข้ามชาติ เพราะนายบุญชัยถือเป็นสมาชิกคนสำคัญของตระกูลบัชในเวียดนาม ซึ่งทำงานร่วมกับ'เครือข่ายไซสะหว่าง'ใน สปป.ลาว ซึ่งลักลอบนำเข้าและค้าชิ้นส่วนหรือซากสัตว์ป่าในภูมิภาค โดยตลาดรองรับที่สำคัญ ได้แก่ สปป.ลาว เวียดนาม จีน ขณะที่ไทยเป็นจุดพักของและเส้นทางลำเลียงสินค้าเถื่อนต่อไปยังปลายทาง

ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ตั้งรางวัลถึง 1 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 33 ล้านบาท แก่ผู้แจ้งเบาะแสที่นำไปสู่การจับกุมสมาชิกเครือข่ายไซสะหว่าง

นายแมทธิว พริตเช็ตต์ ผู้อำนวยการองค์กรฟรีแลนด์ ระบุว่าการจับกุมนายบุญชัยเป็นการสืบสวนขยายผลจากกรณีที่มีการจับกุมผู้ลักลอบขนนอแรดเข้าไทย 14 กิ่งเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว แต่การติดตามเครือข่ายลักลอบสัตว์ป่าในไทยและประเทศอื่นๆ ในเอเชียมีจุดเริ่มต้นตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมา หลังจากชายสัญชาติไทยที่ใช้ชื่อในหนังสือเดินทางว่า Chumlong Lemthongthai ถูกจับกุมที่เซาท์แอฟริกาในข้อหาเกี่ยวพันการลอบค้าสัตว์ รวม 52 กระทง

ข้อมูลของฟรีแลนด์ระบุว่านายจำลอง หรือ Chumlong ได้ล่อลวงให้กลุ่มผู้หญิงที่ค้าบริการทางเพศเป็นผู้ขนซากหรือชิ้นส่วนสัตว์ป่าไปยังประเทศต่างๆ ทั้งยังล่อลวงให้ผู้หญิงเหล่านี้เซ็นลงนามในเอกสารปลอมเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เรื่องสาวถึงตัว แต่ตำรวจเซาท์แอฟริกาและเจ้าหน้าที่ขององค์กรระหว่างประเทศต่างๆ รวมถึงฟรีแลนด์ ได้ร่วมกันสืบสวนขยายผลจากการจับกุมและคำให้การของนายจำลองนับแต่นั้นเป็นต้นมา

อย่างไรก็ตาม นายพริตเช็ตต์ระบุว่านายบุญชัยเป็นเพียงสมาชิกระดับสูงคนหนึ่งของเครือข่าย แต่ยังมีตัวการสำคัญของขบวนการนี้อีกหลายคนที่ลอยนวลไปได้ โดยเฉพาะสมาชิกเครือขายไซสะหว่าง ซึ่งมีนายวิไซ เขียวสะหว่าง ชาวลาว เป็นผู้นำหลัก

ขณะที่เว็บไซต์นิวส์วีคและเอพี รายงานอ้างอิงคำให้สัมภาษณ์ของ พ.ต.อ.ชูตระกูล ยศมาดี ผู้ดูแลการจับกุมและสอบสวนนายบุญชัยและพวก ระบุว่าการจับกุมครั้งนี้มีความสำคัญหลายประเด็น เพราะเป็นการขยายผลจากการยึดนอแรดที่มีมูลค่าสูง

ส่วนผู้ถูกจับกุมล้วนเป็นคนที่จะทำให้มองเห็นภาพรวมการทำงานของเครือข่ายได้ชัดเจนขึ้น เพราะมีตั้งแต่ผู้รับหน้าที่ขนของ ผู้ประสานงาน ตัวแทนบริษัทนำเข้าและส่งออกสินค้าบริเวณชายแดนไทย-ลาว รวมถึงผู้ดูแลการเงินของเครือข่าย

นิวส์วีคระบุด้วยว่า นายบุญชัยและพวกปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ตำรวจจะต้องรวบรวมหลักฐานเพื่อการดำเนินคดี แต่ถ้าศาลตัดสินว่ามีความผิดจริง นายบุญชัญอาจถูกลงโทษจำคุกสูงสุด 4 ปี และเสียค่าปรับอีกราว 1,300 ดอลลาร์ หรือประมาณ 40,000 บาท ซึ่งทางการไทยต้องทำงานอย่างหนักในการสอบสวนและรวบรวมหลักฐานในข้อหาอื่นๆ เพิ่มเติม

แม้การจับกุมครั้งนี้จะเกี่ยวข้องกับคดียึดนอแรด 14 กิ่ง มูลค่ากว่า 55 ล้านบาท ที่ท่าอากาศสุวรรณภูมิของไทยเมื่อเดือนธันวาคม 2560 แต่ไม่มีรายงานความคืบหน้ากรณีพบหญิงไทย 2 คนที่เกี่ยวพันกับเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรม จังหวัดสระบุรี ขนนอแรดใส่กระเป๋าเดินทางเข้ามาในไทยผ่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้วแต่อย่างใด

อ่านเพิ่มเติม: