เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 5 เม.ย. 2565 ที่ห้องประชุมวายุภักษ์ 3 ชั้น 4 โรงแรมเซ็นทรา บาย เซ็นทารา และคอนเวนชันเซ็นเตอร์ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ ถนนแจ้งวัฒนะ อิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการเลือกตั้งเชิงสมานฉันท์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เพื่อให้ความรู้และให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบการเลือกตั้ง ซึ่งวันนี้มีผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.และ ส.ก. มาร่วมงาน แต่มีผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม 2 คนที่ไม่มาร่วมอบรมฟังการบรรยายจาก กกต. คือ น.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัครจากพรรคไทยสร้างไทย และ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครจากพรรคก้าวไกล ซึ่งให้เหตุผลว่าจะขอใช้เวลาในการลงพื้นที่หาเสียงโดยมอบหมายให้ผู้แทนมาร่วมงานแทน ขณะเดียวกันยังมีผู้ลมัครผู้ว่าฯ อิสระที่ไม่ได้มาร่วมอบรม 3 คน 

โดย อิทธิพร ได้ย้ำถึงการหาเสียงของผู้สมัครเลือกตั้งทั้งหมดโดยขอให้ระมัดระวังการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง พร้อมกันนี้ยังย้ำถึงความสำคัญและประโยชน์ของแอปพลิเคชันตาสับปะรดและแอปสมาร์ทโหวต ซึ่งมีสาระความรู้และรวบรวมคำวินิจฉัยของ กกต.ในทุกเรื่องเกี่ยวกับการผ่าฝืนระเบียบหาเสียง ม.66 ไว้ จึงอยากให้ผู้สมัคร ผู้ว่าฯกทม.และ ส.ก. เปิดเข้าไปอ่านเพื่อจะได้ปฏิบัติตามและจะได้รู้ว่าการหาเสียงลักษณะไหนที่เข้าข่ายกระทำผิด

จากนั้น ประธาน กกต. ได้กล่าวนำปฏิญาณตนให้ผู้สมัครฯผู้ว่าฯ กทม.และ ผู้สมัคร ส.ก. เพื่อไห้ทุกคนให้คำมั่นสัญญาว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นไปด้วยความสุจริต

'อัศวิน'ย้ำหาเสียงธรรมชาติ จะพูดเหมือนเดิมทุกครั้ง

ด้าน พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ในนามอิสระ หมายเลข 6 เปิดเผยถึงการลงพื้นที่หาเสียงว่า ที่ผ่านมาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี แต่ประชาชนจะเลือกหรือไม่คงตอบแทนไม่ได้ ซึ่งหลังจากนี้ไม่ได้มีการปรับแผน หรือกลยุทธ์หาเสียง เพราะตนก็ทำตามธรรมชาติของตนและเป็นตัวของตัวเอง จะให้พูดกี่ครั้งก็เหมือนกันทุกครั้ง

สำหรับกรณีผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.มากถึง 31 คนนั้น ตนมองว่าถือว่าเป็นเรื่องที่ดี และใช้ระบบประชาธิปไตยในการแข่งขัน ให้ประชาชนมีตัวเลือกเยอะ ดังนั้นรักใครชอบใครชอบนโยบายคนไหนคนไหนก็เลือกคนนั้น  ส่วนผลการสำรวจของหน่วยงานต่างๆนั้น ตนมองว่าผลสำรวจเป็นไปในทิศทางที่ดี ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าพอใจ แต่ท้ายที่สุดแล้วก็อยู่ที่การตัดสินใจของประชาชน 

ส่วนผู้ที่มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรก จะมีการหาเสียงเพื่อซื้อใจอย่างไรนั้น ตนก็คงต้องแจ้งให้ทราบว่าที่ผ่านมาทำอะไรไปบ้าง ตนคิดว่าคนรุ่นใหม่มีเหตุ มีผลในการตัดสินใจ ถ้าคิดว่าดีก็เลือก หรือถ้าไม่ดีก็ไม่ต้องเลือก เพราะตนมองว่าประชาชนไม่ได้มองที่หนุ่มสาว แต่มองที่ผลงานมากกว่า 

สำหรับกระแสดราม่าเรื่องป้ายหาเสียง ที่อาจจะมีการกีดขวางทางเท้านั้น ตนยอมรับว่าหลังจากที่ได้ให้ไปติดตั้งป้ายหาเสียง ก็ได้ทีทีมงานไปติดตั้งให้ แต่เมื่อป้ายไปกีดขวาง ก็บอกให้เก็บออกไป หรือย้ายที่ติดตั้ง และมีการปรับรูปแบบป้ายให้เล็กลง อย่างเช่น ป้ายของนายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ที่บอกว่าป้ายใหญ่เกะกะ เป็นเหตุผลที่ถูกต้อง ซึ่งตนเห็นด้วยกับนายชัชชาติ ก็ต้องปรับให้เล็กลงเพื่อให้ประชาชนไม่ได้รับความเดือดร้อน 

'รสนา' เน้นป้ายหาเสียงให้น้อย หาเสียงผ่านออนไลน์

ขณะที่ รสนา โตสิสกุล ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 7 ในนามอิสะ เปิดเผยว่า ตนจะเริ่มลงพื้นที่หาเสียงอย่างเป็นทางการในวันที่ 7 เม.ย.นี้ พร้อมมองว่าหลังจากผู้สมัครหลายคนเริ่มลงพื้นที่หาเสียง พบว่าประชาชนหลายคนไม่พอใจเรื่องการติดป้ายหาเสียงที่ตั้งอยู่ในจุดที่ไม่เหมาะสม บดบังทัศนวิสัย และกีดขวางทางเดิน และในอนาคตป้ายเหล่านี้จะกลายเป็นการสร้างขยะจำนวนมาก ดังนั้น จึงมองว่าจะใช้ป้ายหาเสียงให้น้อยที่สุด และเน้นหาเสียงผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ทำให้ป้ายหาเสียงอยู่ในมือทุกคนได้ ซึ่งนอกจากลดปัญหาเรื่องขยะแล้ว ยังยอมรับว่าวิธีนี้ยังเป็นการช่วยลดงบประมาณในหารหาเสียง เพราะเธอไม่ได้มีต้นทุนเยอะเหมือนใคร 

รสนา ยังบอกว่าแม้ตอนนี้ตนจะเป็นเหมือนม้านอกสายตา แต่ก็มีความสามารถ แลเะเชื่อว่าประชาชนจะเลือกคนที่ความสามารถ ไม่ใช่จำนวนป้ายหาเสียง 

'สกลธี' เน้นหาเสียงออนไลน์ ชี้เรื่องดีผู้สมัคร 31 คนชิงผู้ว่าฯ

สกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม หมายเลข 3 ในนามอิสระ กล่าวถึงการลงพื้นหลากหลายพื้นที่ จากนี้จะทำคอนเทนต์เพื่อลงสื่อออนไลน์ และโทรทัศน์ เนื่องจากการลงพื้นที่ซึ่งมีหลายพื้นที่เป็นไปด้วยความยาก และในวันนี้ก็จะได้ลงพื้นที่เพื่อเปิดตัวทีมงาน เพื่อทำงานตามนโยบายที่ได้แถลงไว้แล้ว ส่วนป้ายที่ถูกทำลาย มีคนส่งมาให้ดูจำนวนมาก แต่ไม่ได้มีการตรวจสอบ ทั้งนี้ต้องขออภัยหากป้ายหาเสียงเกะกะหรือกีดขวางการจราจร เบื้องต้นได้สั่งให้ทีมงานแก้ไขแล้ว ทั้งนี้บางคนส่งรูปมาแต่ไม่ได้ระบุสถานที่จึงทำให้แก้ไขลำบาก และป่าไม้ที่ถูกทำลายก็ไม่ได้ไปแจ้งความ เพราะต้นมองว่าเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย 

สกลธี มองว่าเป็นเรื่องที่ดีที่การสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้มีผู้สมัครถึง 31 คน ถือเป็นทางเลือกที่จะทำให้คนกรุงเทพฯ ได้ประโยชน์ ที่คนกรุงเทพจะได้เลือกผู้ที่มีความสามารถหลากหลาย

'โฆสิต' เผยรอเบอร์ 24 ชูนโยบาย กทม. 24 ชม.

โฆสิต สุวินิจจิต ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 24  ในนามอิสระ มั่นใจว่าจะได้รับการเลือกตั้ง เพราะ 9 ปีที่ผ่านมา อยู่เบื้องหลังมาตลอด ทำให้ได้รับข้อมูลและรับรู้ปัญหาและความต้องการของคน กทม. แต่ที่มาสมัครช้า เพราะรอหมายเลข 24 ตามนโยบายของตน คือ “กทม 24 ชม.” และมองปัญหาใหญ่ของคนกรุงคือเรื่องปากท้อง ดูได้จากคนกทม 10 คน เดินมาจน 9 คน  โดยเฉพาะคนในชุมชนขาดรายได้  

โฆสิต มั่นใจว่าจะได้รับการเลือกตั้ง แม้ในครั้งนี้ จะมีผู้ที่สมัครจำนวนมาก ประกอบกับคน กทม.พัฒนาไปไกล คนตื่นตัวกับการเมือง ซื้อเสียงได้ยาก  จึงเปิดกว้างกับคนที่อาสาและมีนโยยายที่ดี ผู้ว่าฯ กทม. ต้องอิสระมากๆ ถ้าแผงพรรคใดพรรคหนึ่งจะทำงานยาก