ต่างประเทศ
กองทัพอังกฤษส่งทหารเข้าเสริมบริการ รพ.ทั่วลอนดอน หลังโอไมครอนระบาดทำ จนท.สาธารณสุขขาดแคลน
เจ้าหน้าที่จากกองทัพสหราชอาณาจักร 200 นาย โดยเป็นแพทย์ทหาร 40 นาย ถูกส่งตัวเข้ามาเสริมกำลังเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของสหราชอาณาจักรทั่วกรุงลอนดอน โดยแพทย์ทหารทั้ง 40 นาย จะเข้ารักษาผู้ป่วยโควิด-19 ส่วนเจ้าหน้าที่อีก 160 นาย ซึ่งไม่ได้รับการฝึกด้านการแพทย์มาจะคอยทำหน้าที่ดูแลผู้ป่วย ดูแลคลังอุปกรณ์การแพทย์ และอาจจะเข้า “ตรวจขั้นพื้นฐาน” ให้ประชาชน
การส่งเจ้าหน้าที่ทหารเข้าช่วยกู้สถานการณ์ในโรงพยาบาลทั่วลอนดอน ได้รับการยืนยันจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของสหราชอาณาจักร เพื่อช่วยเหลือระบบบริการสุขภาพแห่งชาติ (NHS) ของสหราชอาณาจักร จนกว่าจะถึงสิ้นเดือนนี้ หลังเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของสหราชอาณาจักรหลายคนติดเชื้อโควิด-19 ทำให้ไม่สามารถประจำการรักษาผู้ป่วยได้
ก่อนหน้านี้ บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรระบุว่า อังกฤษอาจ “หลุดพ้น” สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ระลอกนี้ โดยไม่มีการประกาศมาตรการควบคุมใดๆ แต่ตนเข้าใจว่าระบบบริการสุขภาพแห่งชาติอาจรู้สึกว่ากำลังเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ “ท่วมท้นชั่วคราว” จากเชื้อโอไมครอน
“ผู้นำที่น่าเชื่อถือจะต้องต้อนรับการให้การสนับสนุนของเพื่อนร่วมงานจากกองทัพ ขณะที่เวลาอันท้าทายที่เกินคาดกำลังดำเนินต่อไปกับระบบบริการสุขภาพแห่งชาติในลอนดอน ความจริงที่เราต้องการจะชี้ให้เห็นจากการที่มีเจ้าหน้าที่การแพทย์ของกองทัพ กำลังเน้นให้เห็นถึงขนาดงานที่แท้จริงของความท้าทายด้านการใช้แรงงานหนัก ที่ระบบบริการสุขภาพแห่งชาติกำลังเผชิญอยู่” คริส ฮอปสัน ผู้อำนวยการกลุ่มโรงพยาบาลของระบบบริการสุขภาพแห่งชาติระบุ
เมื่อวานนี้ (6 ม.ค.) สหราชอาณาจักรมีรายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 179,756 ราย ในขณะที่การติดเชื้อใหม่เป็นการติดเชื้อโอไมครอนที่กำลังพุ่งสูงมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมีผู้ป่วยต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล 17,988 ราย เสียชีวิตในระยะ 4 สัปดาห์ที่ผ่านมารวม 231 ราย
ระบบบริการสุขภาพแห่งชาติคาดว่า ในสัปดาห์หน้าสหราชอาณาจักรอาจมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบกับระลอกการระบาดสูงสุดครั้งก่อน ในขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของประเทศมีลดน้อยลงเป็นระยะๆ จากการติดเชื้อและป่วยด้วยโควิด-19 การนำเจ้าหน้าที่ทหารจากกองทัพเข้ามาเสริมบริหารดังกล่าว จึงจะพอประทังวิกฤตสาธารณสุขของสหราชอาณาจักรไปได้อีกสักระยะ
ที่มา:
https://www.ft.com/content/25b33b31-f2ec-489d-9de5-33bfd58a8ea5
