นายณกรณ์ ตรรกวิรพัฒน์ รองผู้ว่าการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เปิดเผยว่า กยท.จะ ประชุมกำหนดมาตรการดำเนินการเพื่อให้พร้อมรับซื้อน้ำยางสดในวันจันทร์ (15 ก.ค.) นี้ และจะเร่งประกาศจุดรับซื้อให้สถาบันเกษตรกรทราบ คาดว่า เมื่อดึงยางพาราไม่ให้เข้าสู่ตลาดได้ แล้วรอจำหน่ายแก่หน่วยงานที่จะซื้อไปทำถนนดินซีเมนต์ปรับปรุงคุณภาพด้วยยางพาราตามนโยบายรัฐบาล จะทำให้ราคายางพาราปรับสูงขึ้นแน่นอน
ขณะที่นายชัยพจน์ เรืองอรุณวัฒนา นายกสมาคมน้ำยางข้นไทย กล่าวว่า ยินดีให้ความร่วมมือในการพยุงราคายางให้ปรับตัวสูงขึ้น ตามที่นายกฤษฎา บุญราช อดีตรมว.เกษตรและสหกรณ์ เรียกประชุมหารือแนวทางดึงยางพาราออกจากตลาด ซึ่งรอการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) แจ้งปริมาณมา โดยกยท. จะรับซื้อน้ำยางสดจากสถาบันเกษตรกรมาให้บริษัทสมาชิกสมาคมปั่นเป็นน้ำยางข้น
โดยไม่คิดมูลค่า แล้วฝากเก็บไว้ที่ไซโลของบริษัทก่อนเพื่อช่วยเกษตรกร ทั้งนี้ไซโลทั่วประเทศรับน้ำยางข้นได้ 3 แสนตัน แต่ขณะนี้เก็บน้ำยางข้นไว้ร้อยละ 20-30 จึงสามารถเก็บได้อีกประมาณ 2 แสนตัน
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ประเทศผู้ส่งออกยางคือ จีนและเวียดนามขายยางในตลาดล่วงหน้าและตลาดโลกถูกกว่าไทยประมาณ 9 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้คู่ค้าหันไปซื้อยางจาก 2 ประเทศนี้แทน จนเป็นเหตุให้ผู้ส่งออกแบกรับต้นทุนไม่ไหว
ทั้งนี้ ตามข้อมูลในเว็บไซต์สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรฯ พบว่า ราคาน้ำยางสดในช่วงเดือน ก.ค. (1-12 ก.ค.) ลดลงอย่างต่อเนื่องจาก ระดับ 38-48 บาทต่อกิโลกรัมเมื่อต้นเดือน ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 33-42 บาทต่อกิโลกรัม (ณ วันที่ 12 ก.ค.) หรือลดลงร้อยละ 12.50-13.15 และลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับราคา ณ สิ้นเดือน มิ.ย. ที่อยู่ในระดับ 39-49 บาทต่อกิโลกรัม หรือลดลงร้อยละ 14.29-15.38
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :