ไม่พบผลการค้นหา
'ส.ว.เสรี' เผยเตรียมให้ กมธ. จับตาการตั้งรัฐบาล มอง 'ก้าวไกล' ตั้งคณะทำงาน หวังปลุกพลังมวลชนมาปกป้อง ชี้ 'ชลน่าน' โชว์กอดคอ 'พิธา' แสดงความมั่นใจ แต่รู้ดี สุดท้ายหวยออกที่ 'เพื่อไทย'

วันที่ 31 พ.ค. เสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา เปิดเผยถึงการประชุมกรรมาธิการฯ เมื่อวาน (30 พ.ค.) โดยระบุว่า ที่ประชุมได้พิจารณาและติดตามสถานการณ์การเมือง การจัดตั้งรัฐบาลใหม่ รวมถึงการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร และเลือกนายกรัฐมนตรี  

ทั้งนี้ ในกรณีที่ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล มีมติตั้งคณะกรรมการประสานงานในช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาล และมี พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นประธาน พร้อมตั้ง 7 คณะทำงานแก้ปัญหาประชาชน มองว่า เป็นธรรมดาของการเตรียมความพร้อม  

อย่างไรก็ตาม ในประเด็นที่พรรคก้าวไกลแสดงให้เห็นข้อเสนอ การแก้ปัญหาประเทศ ให้ประชาชน องค์กรต่างๆ ตนมองว่า คือความพยายามสร้างมวลชนกดดันองค์กรต่างๆ ทั้งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่อยู่ระหว่างการรับรอง ส.ส. และพิจารณาคำร้องขาดคุณสมบัติของ พิธา รวมถึงศาลรัฐธรรมนูญ ที่มีหน้าวินิจฉัยประเด็นคุณสมบัตินักการเมืองหรือ วุฒิสภา ที่มีบทบาทต่อการเลือกนายกรัฐมนตรี

“กรณีที่จัดตั้ง 7 คณะทำงาน เพื่อนำสถานการณ์ทิศทางไปสู่บริหารประเทศ ผมมองว่าข้อเท็จจริงควรต้องผ่านการจัดตั้งรัฐบาลให้เรียบร้อย แต่เมื่อเวลาไม่ลงตัว จึงต้องทำเช่นนี้ เพื่อสร้างศรัทธาจากมวลชน รวมถึงเรียกมวลชนให้ออกมาปกป้องตนเอง ซึ่งเป็นกระบวนการที่เขาจัดทำขึ้น อาจจะได้มวลชน เพราะขณะนี้ยังมีเวลาเหลืออีกพอสมควรก่อนที่ กกต. จะรับรองผลเลือกตั้ง” เสรี กล่าว

เมื่อถามว่าพรรคก้าวไกลพยายามสร้างมวลชนเพื่อสู้กับนิติสงครามที่หัวหน้าพรรคเผชิญใช่หรือไม่ เสรี กล่าวว่า ตนไม่ขอใช้คำรุนแรงแบบนั้น แต่ตอนนี้เห็นว่าเขาพยายามสร้างมวลชนเป็นแรงสนับสนุนและผลักดัน รวมถึงเป็นแรงกดดัน กกต.​ที่ต้องรับรอง ส.ส. ตรวจสอบข้อมูล ก่อนจะประกาศรับรองตามกระบวนการเลือกตั้ง

เมื่อถามย้ำว่า พรรคก้าวไกลใช้มวลชนเพื่อกดดันพรรคเพื่อไทยไม่ให้เป็นคู่แข่งชิงตำแหน่งด้วยหรือไม่ เสรี เชื่อว่า วิธีนี้กดดันพรรคเพื่อไทยไม่ได้ เพราะพรรคนี้เขามีวิทยายุทธลึกล้ำ และวางลำดับก้าวทางการเมืองไว้ว่าจะเดินอย่างไร และสร้างการแสดงออกว่าเชื่อใจในกลุ่มจัดตั้งรัฐบาล แต่ในอนาคตนั้น ตนเชื่อว่า เขาเดาออกว่าจะเกิดอะไรขึ้น และเขารู้อยู่แล้ว

เมื่อถามว่าเมื่อวานนี้ (30 พ.ค.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประกาศจะร่วมตั้งรัฐบาลพรรคก้าวไกล มองว่า คือคำการันตีที่ พิธา จะได้เป็นนายกฯ หรือไม่

“การันตีไม่ได้ เพราะเป็นคนละเรื่องกัน สัญญาคือลมปาก สิ่งที่เพื่อไทยแสดงความเป็นสุภาพบุรุษ ว่าจะสนับสนุนพรรคที่ได้คะแนนมาก แต่เขาก็รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น สุดท้ายหวยก็ออกที่พรรคเพื่อไทย” เสรี กล่าว

ถามย้ำว่าพรรคเพื่อไทยจะได้เสนอแคนดิเดตนายกฯ จากเพื่อไทยแทน พิธา ใช่หรือไม่ เสรี กล่าวว่า “เดากันไป”

เมื่อถามว่ามองว่าประเด็นคุณสมบัติ หรือการแก้มาตรา 112 ที่จะทำให้ พิธา ไม่ได้รับการเสนอชื่อต่อที่ประชุมรัฐสภา เสรี กล่าวว่า ประเด็นการแก้ไขมาตรา 112 ที่พรรคก้าวไกลไม่ยอมถอย และมีเจตนาที่จะเสนอแก้ไข แม้ไม่ระบุไว้ใน MOU ของพรรคร่วมรัฐบาล แต่มวลชนและเจ้าของพรรคก้าวไกลต้องการ ซึ่งตนไม่เข้าใจทำไม พิธา ต้องยืนหยัดที่จะแก้ไข ทั้งที่ไม่ใช่ปัญหาของบ้านเมือง และตนเชื่อว่าประเด็นนี้จะนำไปสู่ความขัดแย้งของบ้านเมืองได้ในอนาคต