สก็อต มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีประเทศออสเตรเลีย ตัดสินใจยืดความช่วยเหลือสู่ตลาดแรงงานในประเทศทั้งฝั่งประชาชนผู้ว่างงานและบริษัทต่างๆ ด้วยการเพิ่มเงินสนับสนุนอีกราว 20,000 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 4.4 แสนล้านบาท ในโครงการที่จะสิ้นสุดเดือน ก.ย.ที่จะถึงนี้

ทั้งนี้ เงินอุดหนุนจากรัฐบาลหลังเดือน ก.ย.ที่จะไปสิ้นสุดในเดือน มี.ค.2564 จะมีมูลค่าลดลง ภายใต้โครงการ JobKeeper ซึ่งเป็นการช่วยเหลือการจ่ายเงินเดือนพนักงานให้กับบริษัทที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

จากเดิมที่รัฐบาลช่วยสนับสนุนรายจ่ายเงินเดือนพนักงานต่อสองสัปดาห์ที่อัตรา 1,500 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 33,000 บาท ภายหลังวันที่ 28 ก.ย.ตัวเลขดังกล่าวจะลดลงมาเหลือ 1,200 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (26,000 บาท) สำหรับผู้ที่ทำงานเกิน 20 ชั่วโมง/สัปดาห์ และลงมาเหลือ 750 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (16,000 บาท) สำหรับผู้ที่มีชั่วโมงการทำงานน้อยกว่านั้น ความช่วยเหลือดังกล่าวจะปรับลดอีกครั้งในต้นปี 2564 ลงมาอยู่ที่ ระดับ 1,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (22,000 บาท) และ 650 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (14,000 บาท) ตามลำดับ

มอร์ริสัน แจงเพิ่มเติมว่า การลดเงินช่วยเหลือแรงงานจะปรับใช้กับโครงการ JobSeeker ซึ่งเป็นสวัสดิการช่วยเหลือผู้ว่างงานของออสเตรเลีย โดยปรับจากระดับการจ่ายเงินช่วยเหลือแรงงานต่อสองสัปดาห์ที่ 550 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (12,000 บาท) เป็น 250 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (5,500 บาท)

นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียชี้แจงว่า สาเหตุที่ต้องลดเงินช่วยเหลือลงเพราะเม็ดเงินในโครงการดังกล่าวเป็นการเป้นการนำภาษีของประชาชนมาใช้ และไม่สามารถคงอยู่ได้ไปตลอด ซึ่งชาวออสเตรเลียก็ทราบดี

"มันอยู่ไปตลอดไม่ได้ มันไม่ได้ถูกออกแบบมาให้อยู่ถาวร" มอร์ริสัน กล่าว

ปัจจุบัน ตัวเลขผู้ว่างงานในออสเตรเลียเพิ่มขึ้นมาถึงระดับร้อยละ 7.4 ในเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นสัดส่วนที่สูงที่สุดในรอบ 22 ปี ขณะที่รายงานจากภาครัฐชี้ว่า โครงการช่วยเหลือธุรกิจให้คงการจ้างงานไว้นั้น ช่วยผู้ประกอบการไปแล้ว 960,000 บริษัท และคิดเป็นตัวเลขแรงงาน 3.5 ล้านคน

อ้างอิง; Bloomberg, Yahoo Finance, Reuters, 9news