แกนนำคนสำคัญอย่าง เพนกวิน พริษฐ์ ชิวารักษ์ แกนนำคณะราษฎร ย้ำถึงภารกิจการชุมนุมครั้งล่าสุดว่า การออกมาเรียกร้อง เพราะผลประโยชน์ของทุกคน เราจึงออกมาทวงคืนสมบัติชาติคืน
เช่นเดียวกับ อานนท์ นำภา ประกาศชัดว่าการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ไม่ได้ต้องการล้มล้างสถาบันแต่อย่างใด พร้อมทั้งเสนอเสนอให้มีการผลักดัน พ.ร.บ.จัดการทรัพย์สินฉบับใหม่ ด้วยการโอนคืนงบประมาณที่สูญเสียไปผ่านรัฐสภา โดยให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเป็นผู้ดูแลทรัพย์สิน สามารถส่งต่องบประมาณส่วนนี้ให้เกิดผลประโยชน์ต่อส่วนรวม
ทั้งนี้ มวลชนคณะราษฎรก่อนยุติชุมนุมยังคงปิดถึงสถานที่การนัดชุมนุมใหญ่ครั้งต่อไปในเวลา 16.00 น. วันที่ 27 พ.ย.นี้ เพราะเกรงในเรื่องการถูกสกัดกั้นการชุมนุม
ประเด็นการเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์ภายใต้ข้อเรียกร้อง 3 ข้อ โดยเฉพาะการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ในระยะหลังแกนนำได้ปรับยุทธวิธีการเคลื่อนไหวมวลชนด้วยการยกระดับเข้มข้นขึ้นกว่าเดิม พร้อมยังยืนยันว่าจะไม่ลดระดับเพดานลง
แม้จะมีรายชื่อ 12 แกนนำถูกคาดหมายว่าจะถูกตั้งข้อหาในความผิดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 112 ก็ตาม
ส่องกำไร ธนาคารไทยพาณิชย์
สำหรับข้อมูลของ 2 บริษัทที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ถือหุ้นใหญ่มาเป็นอันดับ 1 ทางเว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้รายงานไว้ว่า มีผลประกอบการที่สร้างกำไรพอสมควร
โดยธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) : SCB
กำไรสุทธิ 47,612.23 ล้านบาท
กำไรสุทธิ 43,151.90 ล้านบาท
กำไรสุทธิ 40,067.56 ล้านบาท
กำไรสุทธิ 40,436.35 ล้านบาท
กำไรสุทธิ 22,252.16 ล้านบาท
ขณะที่ เว็บไซต์ธนาคารไทยพาณิชย์ แจ้งถึงผลกำไรสุทธิไตรมาส 3 ปี 2563 จำนวน 4,641 ล้านบาท กำไรสุทธิ 9 เดือนแรกของปี 2563 จำนวน 22,252 ล้านบาท
ธนาคารไทยพาณิชย์และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ (งบการเงินรวมก่อนสอบทาน) ในไตรมาส 3 ของปี 2563 จำนวน 4,641 ล้านบาท ลดลง 69% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากการตั้งเงินสำรองปกติที่สูงขึ้นในไตรมาสนี้ และการเทียบกับฐานที่สูงในช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีรายการกำไรพิเศษครั้งเดียวจากการขายหุ้นในบริษัทไทยพาณิชย์ประกันชีวิต หากไม่รวมรายการพิเศษดังกล่าว กำไรสุทธิลดลง 56% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ กำไรจากการดำเนินงานยังอยู่ในระดับใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับเก้าเดือนแรกของปี 2563 ธนาคารมีกำไรสุทธิจำนวน 22,252 ล้านบาท ลดลง 36% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ในไตรมาส 3 ของปี 2563 รายได้ดอกเบี้ยสุทธิมีจำนวน 23,724 ล้านบาท ลดลง 9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากการลดลงของรายได้ดอกเบี้ยหลังจากที่ธนาคารได้ขายหุ้นของบริษัทไทยพาณิชย์ประกันชีวิตในปีที่ผ่านมาและการหดตัวของส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ ซึ่งเป็นผลส่วนใหญ่จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายหลายครั้งในช่วงครึ่งแรกของปี ในขณะที่สินเชื่อโดยรวมขยายตัว 1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 3% จากสิ้นปี 2562
โชว์ผลงานช่วยลูกค้ากว่า 1.1 ล้านรายในวิกฤตโควิด-19
ด้าน อาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า “แม้ว่าเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศได้ผ่านจุดต่ำสุดแล้วและข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นสัญญาณการเริ่มฟื้นตัว แต่ทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังคงมีความไม่แน่นอนและมีความแตกต่างในแต่ละภาคส่วน ตั้งแต่การเริ่มระบาดของโควิด-19 ธนาคารได้ให้การช่วยเหลือลูกค้าแล้วกว่า 1.1 ล้านราย คิดเป็นยอดสินเชื่อภายใต้โครงการให้ความช่วยเหลือทางการเงิน รวมประมาณ 840,000 ล้านบาท โดยในไตรมาส 3 ลูกค้าส่วนใหญ่ของธนาคารสามารถกลับมาชำระหนี้ได้ตามปกติภายหลังสิ้นสุดระยะเวลาโครงการ"
"สำหรับลูกค้าที่ยังได้รับผลกระทบอยู่ ธนาคารยังคงให้การช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยให้ลูกค้าผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอนนี้"
เมื่อรายชื่อกรรมการตำแหน่งในธนาคารไทยพาณิชย์นั้น มี วิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการ
ทั้งนี้ วิชิต มีประวัติการทำงานที่ยาวนานในภาคการเงินการธนาคาร เริ่มต้นการทำงานด้านการธนาคารที่ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ในปี พ.ศ. 2520 ต่อมาได้รับโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมในระหว่างปี พ.ศ. 2537-2538 (รัฐบาลชวน หลีกภัย) และได้กลับเข้าสู่การทำงานด้านการธนาคารอีกครั้งในตำแหน่งประธานกรรมการธนาคารรัตนสิน จำกัด (มหาชน) ในปี พ.ศ. 2541 และในปี พ.ศ. 2542
วิชิต ได้เข้าร่วมงานกับธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ในตำแหน่งกรรมการธนาคารและประธานกรรมการบริหาร ปัจจุบัน ดร. วิชิต ดำรงตำแหน่ง นายกกรรมการและประธานกรรมการกิจกรรมเพื่อสังคมของธนาคาร และดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์
อาทิตย์ นันทวิทยา ประธานกรรมการบริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
กรรมการ ปรากฎชื่อ พล.อ.อ.สถิตย์พงษ์ สุขวิมล เลขาธิการพระราชวัง และ ผอ.ทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ พ.ต.อ. ธรรมนิธิ วนิชย์ถนอม ประภาศ คงเอียด จรีพร จารุกรสกุล และประสัณห์ เชื้อพานิช
1. พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว จำนวนหุ้น 793,832,359 หุ้น (23.38%)
2. กองทุนรวม วายุภักษ์หนึ่ง โดย บลจ.เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) จำนวนหุ้น 392,649,100 หุ้น (11.56 %)
3.กองทุนรวม วายุภักษ์หนึ่ง โดย บลจ.กรุงไทย จำกัด (มหาชน) จำนวนหุ้น 392,649,100 หุ้น (11.56%)
4.บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด จำนวนหุ้น 346,262,309 หุ้น (10.20%)
5.สำนักงานประกันสังคม จำนวนหุ้น 109,198,100 หุ้น (3.22%)
สำหรับ SCC : บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) ทาง ตลท.ระบุถึงผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 5 อันดับแรก
1.พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว จำนวนหุ้น 403,647,840 หุ้น (33.64%)
2.บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด จำนวนหุ้น 115,932,282 หุ้น (9.66%)
3.สำนักงานประกันสังคม จำนวนหุ้น 52,932,150 หุ้น (4.41%)
4.SOUTH EAST ASIA UK (TYPE C) NOMINEES LIMITED จำนวนหุ้น 34,649,404 หุ้น (2.89%)
5.STATE STREET EUROPE LIMITED จำนวนหุ้น 29,557,692 หุ้น (2.46%)
เปิดกำไร SCG
ขณะที่ผลประกอบการของ SCG ก็พบว่ามีกำไรมาโดยตลอด
กำไรสุทธิ 56,084.19 ล้านบาท
กำไรสุทธิ 55,041.25 ล้านบาท
กำไรสุทธิ 44,748.34 ล้านบาท
กำไรสุทธิ 32,014.28 ล้านบาท
กำไรสุทธิ 26,096.41 ล้านบาท
สำหรับรายชื่อกรรมการ (บอร์ด) SCG ประกอบด้วย พล.อ.อ.สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ประธานกรรมการ ชุมพล ณ ลำเลียง รองประธานกรรมการ รุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่
กรรมการ ประกอบด้วย เกษม วัฒนชัย พ.ต.อ.ธรรมนิธิ วนิชย์ถนอม กานต์ ตระกูลฮุน ชลณัฐ ญาณารณพ
สำหรับ พล.อ.อ.สถิตย์พงษ์ สุขวิมล มีชื่อตาม ตลท.ได้ระบุไว้ทั้ง 2 บริษัท โดยนั่งในประธานกรรมการ SCG และนั่งในตำแหน่งกรรมการ SCB
ทั้งนี้ พล.อ.อ.สถิตย์พงษ์ เมื่อปี พ.ศ. 2555-2559 ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นรองเลขาธิการพระราชวัง ราชเลขานุการในพระองค์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และรองเลขาธิการพระราชวัง สำนักพระราชวังในช่วงปี พ.ศ. 2560-2561
ปัจจุบัน นอกเหนือจากการเป็นกรรมการ และกรรมการกิจกรรมเพื่อสังคมของธนาคารไทยพาณิชย์ พล.อ.อ.สถิตย์พงษ์ ดำรงตำแหน่งราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เลขาธิการพระราชวัง สำนักพระราชวัง ประธานกรรมการและผู้อำนวยการทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ผู้อำนวยการทรัพย์สินส่วนพระองค์และผู้จัดการทรัพย์สินส่วนพระองค์ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระองค์ ประธานข้าราชบริพารในพระองค์ ประธานกรรมการและกรรมการบรรษัทภิบาลและสรรหา บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) และประธานกรรมการ บริษัท ทุนลดาวัลย์ จำกัด และบริษัทในเครือที่ได้รับมอบหมาย
อ้างอิง
https://www.scb.co.th/th/about-us.html#tab-2
https://scc.listedcompany.com/newsroom/111120201302100711T.pdf
ข่าวที่เกี่ยวข้อง