กฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เรียกผู้บริหารธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ ทุกแห่งเข้าหารือ เมื่อ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมาเป็นการเร่งด่วน เพื่อสั่งการให้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ ทั้งประชาชนรายย่อยและผู้ประกอบการ ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในปี 2564 และให้เสนอแผนกลับมาให้กระทรวงการคลังพิจารณาภายใน 1-2 สัปดาห์
เบื้องต้นทุกธนาคารเห็นตรงกันว่าจะมีการพักชำระหนี้ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบไปจนสิ้นปี 2564 จากปัจจุบันที่แต่ละธนาคารช่วงเวลาพักหนี้ไม่เท่ากัน และมีเงื่อนไขที่แตกต่างกัน ก็จะทำเป็นมาตรการแพ็คเกจเดียว
นอกจากนี้ ยังมีธนาคารของรัฐแห่งหนึ่งได้เสนอแผนช่วยเหลือลูกหนี้ เป็นกรณีพิเศษ จากเดิม ที่พักเงินต้น และจ่ายดอกเบี้ยตามปกติ หรือบางส่วน เป็นการพักชำระเงินต้น และลดดอกเบี้ยเหลือ 0% หรือ คิดแค่ 0.01% ต่อปีเท่านั้น คาดว่าจะมีผลเร็วๆ นี้ ไปจนถึงสิ้นปี โดยจะเป็นกลุ่มลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด
กฤษฎา กล่าวว่า สำหรับการลดเพดานดอกเบี้ย ตามนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กระทรวงการคลังแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนที่กระทรวงกาคลัง ดำเนินการ ผ่าน พิโกไฟแนนซ์ และ นาโนไฟแนนซ์ มีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยต่ำพอสมควร
ขณะที่ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ ก็ดอกเบี้ยต่ำอยู่แล้ว บางมาตรการก็ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยซอฟท์โลนด้วยซ้ำ ส่วนของธนาคารพาณิชย์ คลังจะหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อพิจารณาว่าสามารถทำได้หรือไม่ และทำได้มากน้อยแค่ไหน ในกลุ่มลูกค้าใดบ้าง