เมิ่ง หว่านโจว ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน (CFO) ของบริษัทหัวเว่ย และลูกสาวของผู้ก่อตั้งบริษัทหัวเว่ยยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของประเทศจีนได้รับการปล่อยตัวจากการถูกคุมขังเป็นระยะเวลาเกือบ 3 ปีในบ้านพักที่เมืองแวนคูเวอร์ของประเทศแคนาดา และได้เดินทางกลับนครเซินเจิ้นของจีนเรียบร้อยแล้วด้วยเที่ยวบินเหมาลำของ Air China ช่วงเย็นของวันที่ 24 ก.ย.
ความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญของคดีที่ยืดเยื้อยาวนานกว่าสามปี มีขึ้นหลังจากที่ในวันที่ 24 ก.ย.อัยการเขตบรุคลินของนครนิวยอร์กในสหรัฐฯ มีคำสั่งยกเลิกคำขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนที่เคยเรียกร้องให้แคนาดาส่งตัวเมิ่งมาดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกงในสหรัฐฯ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ก่อนการได้รับอิสรภาพ เมิ่งปรากฎตัวผ่านทางวิดีโอคอนเฟอร์เรนส์ที่ศาลเขตบรุคลินของมลรัฐนิวยอร์ก พร้อมสารภาพ ‘ไม่ยอมรับผิด’ คดีฉ้อโกง แต่ได้ยอมรับว่าได้ทำการชี้นำสถาบันทางการเงินอย่างธนาคาร HSBC ในทางที่ผิด ให้ดำเนินธุรกรรมทางธุรกิจของบริษัทหัวเว่ยในประเทศอิหร่าน อันนำไปสู่พฤติการณ์ที่สหรัฐฯ มองว่าเป็นการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ซึ่งทางรัฐบาลสหรัฐฯ ได้ถอนคำขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนในที่สุด และยืนยันจะถอนข้อหาทั้งหมดภายในวันที่ 1 ธ.ค. 2565
อิสรภาพของเมิ่งในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังทั้งสองฝ่ายสามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ โดยเธอต้องยอมทำตามข้อตกลงที่มีขึ้นกับอัยการของสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงการที่เธอจะต้องไม่กล่าวหรือให้ข้อมูลที่ขัดต่อข้อเท็จจริงที่มีขึ้นในศาลของสหรัฐฯ เกี่ยวกับรูปคดีทั้งหมดโดยเด็ดขาด
ไม่นานหลังการปล่อยตัวเมิ่งหว่านโจว นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ของแคนาดาได้แถลงข่าวกับประชาชนว่ารัฐบาลจีนยินยอมที่จะปล่อยตัว ไมเคิล คอฟริก และไมเคิล สปาวอร์ อดีตเจ้าหน้าที่ทูตชาวแคนาดาสองคนที่ถูกรัฐบาลจีนจับกุมคุมขังเพียงไม่กี่วันหลัง เมิ่ง หว่านโจว ถูกรวบตัวที่สนามบินในแคนาดาเมื่อปี 2561 โดย “สองไมเคิล” ชื่อที่พวกเขาเป็นที่รู้จักในแคนาดา ถูกควบคุมตัวในข้อหาการเป็น ‘สายลับ’ โดยถูกคุมขังมากกว่า 1,000 วันในจีน
การจับกลุ่มสองพลเมืองแคนาดาเป็นการสร้างบาดแผลด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและการค้าอย่างมาก สร้างความสูญเสียทางการค้าระหว่างจีนและแคนาดาเป็นเม็ดเงินหลายหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และนำไปสู่การยกเลิกข้อตกลงทางการค้าแบบทวิภาคี นับเป็นจุดที่ตกต่ำที่สุดของความสัมพันธ์จีนและแคนาดาในรอบหลายทศวรรษ
ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ ออกมาแสดงความยินดีอย่างยิ่งกับการตัดสินใจปล่อยตัวชาวแคนาดาทั้งสองคนของรัฐบาลจีน
การที่ “สองไมเคิล” ได้รับการปล่อยตัวและเดินทางกลับประเทศบ้านเกิดถือเป็นข่าวดีอย่างยิ่งกับหลายฝ่าย หนึ่งในนั้นคือนายกรัฐมนตรี จัสติน ทรูโด ของแคนาดา เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาทรูโดถูกคู่แข่งจากพรรคฝ่ายค้านวิจารณ์อย่างต่อเนื่องว่าเป็นผู้ที่ทำลายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของแคนาดาและจีน แต่ขณะนี้สถานการณ์กำลังเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น โดยเฉพาะหลังจากการที่ทรูโดเพิ่งจะชนะเลือกตั้งในแคนาดาเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา อีกทั้งยังเป็นสัญญาณของการคลายความตึงเครียดระหว่างความสัมพันธ์ของจีนและแคนาดาอย่างมีนัยสำคัญ
ศาลแคนาดาตั้งข้อหาว่าเมิ่งหว่านโจวมีพฤติกรรมฉ้อโกงด้วยการตั้งบริษัทสกายคอม ซึ่งเป็นบริษัทลูกของหัวเว่ย ขึ้นมาบังหน้าเพื่อทำธุรกิจกับอิหร่านในช่วงปี 2552 ถึงปี 2557 เข้าข่ายละเมิดมติคว่ำบาตรอิหร่านของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ทำให้เมิ่งถูกจับกุมเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 2561
อย่างไรก็ตาม เมิ่งตัดสินใจฟ้องรัฐบาลแคนาดากลับในข้อหา "ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง" โดยรัฐบาลจีนออกมาโต้ตอบด้วยว่าการจับกุมและการส่งตัวเธอในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนเป็น "ผลพวงทางการเมือง" ในปี 2562
หลังเกิดเหตุการณ์ขึ้นตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2561 ความสัมพันธ์ระหว่างแคนาดาและจีนก็แย่ลงเรื่อยๆ รัฐบาลจีนได้ออกมาเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวเมิ่งหว่านโจวหลายครั้ง แต่ก็ไม่เป็นผล จีนมองว่าการกระทำครั้งนี้คือ "ข้อตกลงส่งผู้ร้ายข้ามแดนของสองประเทศที่ไม่เป็นธรรม" ซึ่งหมายถึงสหรัฐฯ และแคนาดา
อย่างไรก็ตาม แคนาดาย้ำว่า การกระทำทั้งหมดเป็นไปตามบรรทัดฐานของกฏหมาย