ไม่พบผลการค้นหา
'ชวลิต' เปิดบ้านฉลองวันเกิดครบ 90 ปี เผยยังแรงดี เตะถังน้ำมันได้ ย้ำตอนนี้ห่วงประชาชนมากกว่าลูกเมียตัวเอง เหตุเศรษฐกิจแย่ หนี้ท่วม ปัดหนุน 'ประยุทธ์' มองกระแสนายกฯ สำรอง ถ้าไม่คิดถึงประชาชน "สำรองให้ตายก็ไม่รอด"

วันที่ 15 พ.ค. 2565 เมื่อเวลา 09.00 น. พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดบ้านย่านรามอินทรา จัดงานวันเกิดครบรอบ 90 ปี โดยมีพระสงฆ์ 9 รูป ทำพิธีสวดเจริญพระพุทธมนต์ และมีแขกเดินทางมาร่วมงานและมอบคำอวยพรจำนวนมาก

แขกคนสำคัญที่มาร่วมงาน อาทิ กร ทัพพะรังสี อดีตรองนายกรัฐมนตรี กอบศักดิ์ ภูตระกูล อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พลตรี ม.ร.ว.วัยวัฒน์ จักรพันธุ์ ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์มูลนิธิพิทักษ์ไทย สุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทวงการคลัง และอดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พิทยา พุกกะมาน อดีตเอกอัครราชทูตประจำหลายประเทศ

ชวลิต_13.jpg

พล.อ.ชวลิต ได้เชิญผู้สื่อข่าวสำนักต่างๆ เข้าพบ พร้อมเผยว่าในวัยครบรอบ 90 ปี สุขภาพยังถือว่าแข็งแรงดี และกล่าวติดตลกว่า เมื่อก่อนเตะปี๊บ เดี๋ยวนี้ต้องเตะถังน้ำมัน

จากนั้น พล.อ.ชวลิต กล่าวถึงสถานการณ์บ้านเมืองทุกวันนี้ซึ่งมีปัญหา เพราะนักการเมืองไม่เคยระลึกถึงสิ่งที่ควรคิดถึง นักการเมืองไทยคิดแต่เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ การแบ่งฝักแบ่งฝ่าย และเรื่องการเงิน ขณะที่ในระบอบการปกครองอื่น ไม่ว่าจะเผด็จการ ประชาธิปไตย ราชาธิปไตย หรือสังคมนิยม นักการเมืองคิดถึงแต่เรื่องเดียวคือ ประชาชน ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นระบอบการเมืองแบบไหน นักการเมืองที่ดีต้องคิดถึงประชาชน

“ประชาชนคือหัวใจของการเมือง นักการเมืองที่คิดถึงประชาชนก็มีบ้างเหมือนกัน แต่อาจจะมีสิ่งอื่นเข้ามาแทรกซ้อน บางคนก็คิดแต่จะเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ บางคนบอกให้ใช้ ปี 2520 ปี 2540 ปี 2560 วุ่นวายกันอยู่อย่างนี้ บางคนก็คิดถึงแต่เรื่องทำอย่างไรถึงจะมีเงินทองเยอะๆ บางคนก็คิดแต่เรื่องตั้งพรรคการเมือง รวมพรรคการเมือง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ผมบอกหลายทีแล้วว่า การเมืองต้องคิดถึงแต่ประชาชนเป็นหลัก ซึ่งนักการเมืองไทยยังไม่เคยคิดจริงจังกับเรื่องนี้”

ชวลิต.jpg

เมื่อถามว่ายังสนับสนุน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีอยู่หรือไม่ พล.อ.ชวลิต ระบุว่าไม่ได้สนับสนุนใครหรือรังเกียจใคร แต่ให้ความสำคัญกับความคิดของแต่ละคน ย้ำว่านักการเมืองต้องคิดถึงแต่ประชาชน 

ผู้สื่อข่าวถามว่าสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบันค่อนข้างรุนแรง มีกระแสข่าวเกี่ยวกับนายกฯ สำรอง พล.อ.ชวลิต มองว่าเป็นเรื่องธรรมดา ถ้าดูจะไปไม่รอดก็ต้องหาหนทางรอด ต้องขอกำลังสำรองกันไป แต่ถ้าการเมืองไม่ได้คิดถึงประชาชน สำรองให้ตายยังไงก็ไม่รอด 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า พล.อ. ประวิตร ถือเป็นตัวเลือกนายกฯ สำรองที่เหมาะสมหรือไม่ พล.อ.ชวลิต ตอบว่า ตนไม่ได้มองว่าใครเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม แต่มองว่าในอดีตใครทำเพื่อประชาชนมากที่สุด คนนั้นคือคนที่ประชาชนต้องการ ส่วนรัฐบาลจะอยู่ครบเทอมหรือไม่ มองว่าไม่สำคัญ เป็นเรื่องเล็ก แต่ถ้ารัฐบาลจะคงอยู่ตลอดไปได้ ก็ต้องคิดถึงประชาชนเป็นหลักเท่านั้น

เมื่อถามว่า ในฐานะที่เคยเป็นประธานพรรคเพื่อไทย เมื่อปี 2552 มองทิศทางของพรรคเพื่อไทยอย่างไร พล.อ.ชวลิต ปฏิเสธทันทีว่า ตนไม่เคยเป็นประธานพรรคเพื่อไทย ส่วนพรรคเพื่อไทยจะสามารถแลนด์สไลด์ได้หรือไม่ ไม่ใช่เรื่องสำคัญ สำคัญที่ใครคิดถึงประชาชนมากกว่ากัน และอย่าคิดอย่างเดียว ต้องทำด้วย

ชวลิต.jpg

สำหรับเรื่องการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ที่เข้าสู่โค้งสุดท้ายนั้น พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ก็ต้องต่อสู้กันไป ดูเอาว่าประชาชนจะเลือกใคร ใครคิดถึงประชาชนหรือคิดถึงแต่ตัวเอง แต่ตนมองว่าส่วนใหญ่ น่าจะคิดถึงแต่ตัวเองกันมากกว่า

สำหรับประเด็นยุทธศาสตร์อินโดแปซิฟิกจะสำเร็จหรือไม่ พล.อ.ชวลิต ตอบว่าไม่สนใจเรื่องดังกล่าว ใครจะรบหรือไม่รบไม่ใช่เรื่องของเรา เรื่องของเราคือการรักษาประเทศชาติ ส่วนบทบาทของ พล.อ.ประยุทธ์ เหมาะสมแล้วหรือไม่นั้น ตนไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย สิ่งสำคัญอยู่ที่ให้ความสำคัญกับประชาชนคนไทยมากแค่ไหน เมื่อถามว่ามีข้อแนะนำให้ พล.อ.ประยุทธ์หรือไม่ พล.อ.ชวลิต ตอบว่า ตนจะไม่แนะนำใคร

“ผมคิดอย่างเดียวคือคิดถึงแต่ประชาชน เป็นห่วงประชาชนที่สุด มากกว่าเป็นห่วงลูกเมีย หรือเป็นห่วงตัวเองด้วยซ้ำไป” พล.อ.ชวลิต กล่าว

สำหรับสถานการณ์ด้านประชาธิปไตยในประเทศไทยขณะนี้ ถือว่าน่าเป็นห่วงหรือไม่ พล.อ.ชวลิต ตอบว่า “ไม่เป็นห่วงได้อย่างไร ประเทศไทยเวลานี้ย่ำแย่เต็มทีแล้ว หนี้สินก็เยอะ ประชาชนก็ยากจน ไม่มีอะไรจะกิน หนี้สินรัฐบาลก็เป็นล้านล้าน ไม่เป็นห่วงได้ไงจ๊ะ”

ชวลิต.jpg

สำหรับกรณีที่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) แสดงออกว่าจะไม่มีการทำปฏิวัติรัฐประหารนั้น ทำให้เกิดความอุ่นใจขึ้นหรือไม่ 

พล.อ.ชวลิต ตอบว่า “ไม่เคยอุ่นใจเรื่องอะไรทั้งสิ้น จะอุ่นใจก็ต่อเมื่อเขาทำทุกอย่างเพื่อประชาชน จะไปสนใจทำไมว่าใครจะปฏิวัติ สนใจประชาชนเอาไว้ก็พอ หากการรัฐประหารทำเพื่อประชาชน ก็น่าสนับสนุน แต่ถ้าไม่ทำอย่างนั้นก็ตามใจเขา เขาอยู่ได้ก็ไม่นานเดี๋ยวก็หัวหดไปเอง”

นอกจากนี้ พล.อ.ชวลิต ยังทิ้งท้ายว่า มีหลายพรรคการเมืองมาขอให้ตนเป็นที่ปรึกษา มากถึง 7 พรรค ล้วนแต่เป็นคนที่รักใคร่ใกล้ชิดกัน จึงปฏิเสธไม่ได้ เมื่อถามว่าเป็นพรรคร่วมรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน พล.อ.ชวลิต ตอบว่า ไม่รู้ว่าพรรคไหนเป็นพรรคร่วมรัฐบาลหรือพรรคฝ่ายค้าน เมื่อถามว่ามีพรรคไหนบ้าง พล.อ.ชวลิต กล่าวติดตลกว่า "พักรบ ก็มี"

ชวลิต.jpg