ไม่พบผลการค้นหา
'รังสิมันต์ โรม' โต้ 'ประยุทธ์-ประวิตร' ออกโรงป้อง 'อภิรัชต์' จี้ถาม “ไม่เป็นกลางทางการเมือง” - “ปลุกผีคอมมิวนิสต์” ปูทางสู่อำนาจหรือไม่

นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ออกโรงปกป้อง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก จากกรณีที่บรรยายในหัวข้อ 'แผ่นดินของเราในมุมมองด้านความมั่นคง' อีกทั้งยังพูดถึงกรณีที่ พล.ท.ปราการ ปทะวานิช ผู้บังคับบัญชาหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน เพิ่มหลักสูตร-v'นักศึกษาวิชาทหาร ด้านโซเชียลมีเดีย หรือ รด. New gen ว่า การที่ พล.อ.ประยุทธ์และ พล.อ.ประวิตร ออกมาปกป้อง ต้องยอมรับก่อนว่าการกระทำของ พล.อ.อภิรัชต์ นั้นผิด 

หากถามว่าผิดอย่างไร คือไม่เป็นกลางทางการเมือง ซึ่งการไม่เป็นกลางทางการเมือง แล้วเป็นบุคคลที่มาจากกองทัพที่มีอาวุธครบมือ จากประสบการณ์ในอดีตที่เราเห็นกันทุกครั้ง หาก ผบ.ทบ. ออกมาพูดประมาณนี้ มักจะจบลงด้วยการที่ทหารเข้ามาสู่อำนาจทางการเมือง ตนจึงตั้งคำถามว่า การบรรยายของ ผบ.ทบ.กำลังหมายความว่าท่านต้องการเข้ามาสู่อำนาจทางการเมืองหรือไม่ โดยใช้วิธีการปลุกผีคอมมิวนิสต์ ซึ่งในเวลานี้เรื่องคอมมิวนิสต์กลายเป็นเรื่องตลกไปแล้ว เป็นเรื่องที่ทุกคนก็รู้ว่า คอมมิวนิสต์ในประเทศไทยจบไปนานแล้ว 

วันนี้สิ่งที่พรรคอนาคตใหม่พยายามที่จะทำก็คือสร้างการเมืองใหม่ แต่ทว่าการเมืองใหม่แบบพรรคอนาคตใหม่ อาจทำให้กลุ่มคนบางกลุ่มเสียผลประโยชน์ จึงต้องการให้พรรคอนาคตใหม่กลายเป็นผีคอมมิวนิสต์ เพื่อที่จะได้ใช้เป็นหนทางในการเข้าสู่อำนาจหรือไม่ ดังนั้นจึงอย่าสร้างการเมืองด้วยความหวาดกลัว ตนอยากเห็นกองทัพเป็นกลางทางการเมือง

"ภาษีของประชาชนที่วันนี้คุณได้รับเป็นจำนวนมาก ขอให้ใช้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด แล้วยึดผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง อย่าได้เข้ามามีส่วนได้เสียทางการเมืองอีกเลย ที่ผ่านมาพลเอกประยุทธ์ก็ทำแบบนี้ พลเอกประวิตรก็ทำแบบนี้ ผมอยากถามว่า สังคมได้ประโยชน์จริงหรือไม่ ผมเชื่อว่าสังคมไทยไม่ได้ประโยชน์จากบทบาททางการเมืองของกองทัพที่มีจุดยืนไม่เป็นประชาธิปไตย"

นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า หลักการประชาธิปไตย คนทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นได้ แต่ต้องมองว่า แสดงความคิดเห็นในฐานะอะไร การที่ พล.อ.อภิรัชต์ ออกมาบรรยายนั้น อยู่ในฐานะประชาชนธรรมดา หรือในฐานะ ส.ว. และอีกด้านหนึ่งคือ ผบ.ทบ. ที่มีอำนาจประวัติศาสตร์ที่ใกล้ที่สุดคือ เมื่อปี 2557 เกิดรัฐประหาร เป็นเหตุทำให้เกิดประชาชนไม่มีสิทธิเสรีภาพในการพูด การแสดงออกทางความคิด ประชาชนจำนวนมากถูกดำเนินคดีเพราะเห็นต่างจากรัฐ ตนไม่ต้องการให้ประเทศไทยกลับไปอยู่ในสภาพแบบนั้น หากประชาชนทุกคนไม่อยากกลับไปอยู่ในสภาพแบบนั้น ทหารต้องมีความเป็นกลางแล้วหยุดแสดงความคิดเห็นทางการเมืองและใส่ร้ายป้ายสี 

"ในฐานะที่คุณเป็น ผบ.ทบ. เป็นหน่วยงานของรัฐ คุณยังสร้างข้อเท็จจริงที่ถูกต้องไม่ได้เลย แล้วเราจะหวังอะไรกับองค์การอื่นๆ ในเรื่องของการป้องกัน Fake News หรือ ข้อมูลข่าวสารที่เป็นความจริงได้" รังสิมันต์ กล่าว

นอกจากนี้ จากการที่ ผบ.นรด. ออกมาบอกว่าต้องเพิ่มหลักสูตร Social Media ตนเคยได้ยินข่าวลืออยู่หนึ่งเรื่อง ว่าที่ผ่านมา มีความพยายามในการให้ นักเรียน รด. มาสร้างปฏิบัติการทางข้อมูลข่าวสารต่อประชาชน เพื่อที่จะทำให้ประชาชนเชื่อข้อเท็จจริงบางอย่าง และตัดสินใจบางอย่างไปในทิศทางที่กองทัพต้องการ ตนเป็นห่วงว่า การที่ ผบ.นรด. ออกมาพูดแบบนี้จะสอดคล้องกับข่าวลือหรือไม่ 

ตนไม่อยากเห็นเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่วันนี้ควรถูกพัฒนาให้เป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติ ไปรับใช้อุดมการณ์ความเชื่อที่ไม่สอดคล้องกับหลักประชาธิปไตย ตนอยากเห็นคนรุ่นใหม่เข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างประชาธิปไตย ไม่ใช่ไปสร้างปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร ซึ่งหลายครั้งคือ Fake News หรือข่าวปลอม ที่ไม่ใช่ผลประโยชน์ของประเทศชาติ ไม่ใช่ผลประโยชน์ของประชาชน แต่เป็นผลประโยชน์ของคนไม่กี่คน