สวนดุสิตโพล เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนจำนวน 1,220 คน จากทั่วประเทศ ต่อเหตุการณ์ระเบิดหลายจุดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ถือเป็นการกระทำที่อุกอาจและท้าทายต่อกฎหมายบ้านเมืองทำให้หลายฝ่ายมองว่าเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นน่าจะมีความเกี่ยวข้องกับสถานการณ์การเมือง
จากผลสำรวจพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 40.60 รู้สึกไม่ปลอดภัย กลัว วิตกกังวล เกรงว่าจะได้รับอันตราย รองลงมา ร้อยละ 38.03 เชื่อว่ามีผู้ไม่หวังดี อยากเห็นบ้านเมืองวุ่นวาย เป็นการกระทำที่อุกอาจ ร้อยละ 23.02 เชื่อว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง ถูกเชื่อมโยงเรื่องการนำมาตรา 44 ออกมาใช้ ร้อยละ 18.60 อยากรู้ข้อเท็จจริงถึงสาเหตุและผู้ที่อยู่เบื้องหลัง ควรชี้แจงอย่างตรงไปตรงมา และร้อยละ 13.77 ระบุ รัฐบาลต้องเร่งจับกุมผู้กระทำผิดโดยเร็ว และมีมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด
สำหรับสาเหตุของการวางระเบิด ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 52.49 ระบุ ต้องการสร้างสถานการณ์ให้บ้านเมืองวุ่นวาย ปั่นป่วน รองลงมา ร้อยละ 36.77 ระบุ มาจากความขัดแย้ง เสียประโยชน์ทางการเมือง ร้อยละ 21.04 ระบุ เป็นการขู่เตือนรัฐบาล ต้องการดิสเครดิตรัฐบาล ร้อยละ 16.16 ระบุ น่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มผู้ก่อการร้ายในภาคใต้ และร้อยละ 11.61 ระบุ ยังไม่รู้สาเหตุที่แท้จริง คาดการณ์ไม่ได้
ผลกระทบจากเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้น ส่วนใหญ่ ร้อยละ 47.06 ระบุ เศรษฐกิจตกต่ำ ค้าขายไม่ได้ นักท่องเที่ยวไม่กล้าเข้ามาเที่ยว ร้อยละ 34.57 ระบุ สร้างความหวาดกลัว วิตกกังวลให้กับประชาชน ร้อยละ 23.74 ระบุ ภาพลักษณ์ของไทยแย่ลง ต่างชาติไม่มั่นใจ ร้อยละ 21.16 ระบุ ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพและความมั่นคงของรัฐบาล ร้อยละ 10.32 ระบุ ทำให้สถานการณ์ทางการเมืองร้อนแรงมากขึ้น
สำหรับวิธีป้องกันหรือแก้ไข ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 45.64 ระบุ ประชาชนต้องติดตามข่าวสารอย่างมีสติ ช่วยเป็นหูเป็นตา สิ่งที่ไม่ชอบมาพากล ร้อยละ 25.40 ระบุ เร่งหาตัวคนร้ายหรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ระเบิดมาดำเนินคดีโดยเร็ว ร้อยละ 21.47 ระบุ เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจทั่วทุกพื้นที่ ติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มมากขึ้น ร้อยละ 19.02 ระบุ หน่วยข่าวกรองต้องสืบหาข้อเท็จจริง และมีการข่าวที่แม่นยำ ร้อยละ 15.83 ระบุ มีการตั้งรางวัลให้แก่ผู้ที่แจ้งเบาะแสหรือให้ข้อมูลของผู้ที่กระทำผิด
ทั้งนี้ ประชาชนมากถึงร้อยละ 86.13 คิดว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เกี่ยวข้องกับการเมือง เพราะ ต้องการทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย สร้างสถานการณ์ มาจากความขัดแย้งทางการเมือง ท้าทายอำนาจกฎหมาย ขณะที่ร้อยละ 13.87 คิดว่าไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง เพราะ อาจจะมีสาเหตุมาจากเรื่องส่วนตัว เรื่องธุรกิจ ผลประโยชน์ ไม่ทราบข้อมูลและสาเหตุที่แท้จริง
เหตุการณ์ระเบิดครั้งนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 76.39 คิดว่าส่งผลกระทบต่อรัฐบาล ทำให้เชื่อมั่นน้อยลง เพราะ ประชาชนรู้สึกไม่ปลอดภัย แสดงให้เห็นถึงความบกพร่องในการทำงาน การป้องกันหละหลวม กระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ ส่วนร้อยละ 23.61 คิดว่าไม่ส่งผลกระทบต่อรัฐบาล เชื่อมั่นเหมือนเดิม เพราะ เชื่อว่ารัฐบาลจะสามารถแก้ปัญหาได้ มีการสั่งการเร่งติดตามดำเนินคดีกับผู้ต้องสงสัย น่าจะควบคุมสถานการณ์ได้
อย่างไรก็ตาม ประชาชนมากถึงร้อยละ 83.93 คิดว่าจะมีเหตุการณ์ระเบิดเกิดขึ้นอีก เพราะ อาจมีผู้ไม่หวังดีหรือมือที่สามเข้ามาสร้างสถานการณ์ให้วุ่นวาย เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ไม่สามารถควบคุมดูแลได้ทั้งหมด ขณะที่ร้อยละ 16.07 คิดว่าเหตุการณ์ระเบิดไม่น่าจะเกิดขึ้นอีก เพราะ น่าจะเป็นเพียงการสร้างกระแสให้คนตื่นตกใจ ต้องการสร้างความวุ่นวายเพียงชั่วคราว เจ้าหน้าที่เพิ่มการตรวจตรามากขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :