วันที่ 2 พ.ค. 2566 นันทิยา วงศ์วานิชย์ ผู้สมัคร ส.ส.แม่ฮ่องสอน เขต 1 พรรคภูมิไจไทย เบอร์ 3 ระบุถึงเหตุผลที่ลงสมัคร ส.ส. เขต 1 จ.แม่ฮ่องสอน พรรคภูมิใจไทย ว่า ครอบครัวของตนนั้นอาสากับประชาสังคมทำงานพัฒนาพื้นที่มายาวนานตั้งแต่ยุคนายอนันต์ วงศ์วานิชย์ บิดาของตนได้รับความไว้วางใจให้ทำหน้าที่นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอนแปดสมัย โดยตนได้ไปช่วยงานนายอนันต์ที่ร่วมมือกับทุกภาคส่วนพัฒนาเมืองแม่ฮ่องสอน แต่การพัฒนาดังกล่าวคล้ายว่า ยังไม่เต็มที่และขาดตอนจนประชาชนเสียโอกาสไปหลายปี ตนจึงตัดสินใจร่วมมือกับภาคประชาสังคมว่า ขอโอกาสให้ตนไปทำหน้าที่ส.ส.แม่ฮ่องสอน เขตหนึ่งในการเลือกตั้งวันที่14พ.ค.นี้เพราะเป็นโอกาสเดียวที่จะเปลี่ยน
นันทิยา กล่าวต่อว่า จ.แม่ฮ่องสอน นั้นมีศักยภาพหลายด้านที่ควรส่งเสริม เช่น การเกษตรแนวใหม่ การท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและธรรมชาติ ความหลากหลายทางชาติพันธุ์ที่ทุกเชื้อชาติอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ เพราะ จ.แม่ฮ่องสอนนั้นมี 13 ชาติพันธุ์ในพื้นที่ แต่ปัญหาเรื้อรังที่ยังค้างคาและไม่ได้รับการพัฒนาเท่าที่ควร เช่นระบบการคมนาคม ระบบสื่อสาร ระบบสาธารณสุข ระบบการศึกษาในพื้นที่ห่างไกล ระบบการวางแผนการตลาดเพื่อการเกษตรที่จะสร้างรายได้ให้ประชาชน
“ดิฉันตัดสินใจร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย เพราะได้เห็นความตั้งใจของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุขเพราะ 4 ปีที่ผ่านมา นายอนุทินลงพื้นที่ 3 ครั้งเพื่อแก้ไขปัญหาโควิด-19 และยังร่วมวางแผนระบบส่งต่อผู้ป่วยทางอากาศเพราะแต่ละอำเภอนั้นห่างไกลและการคมนาคมไม่สะดวก ปัญหาเหล่านี้นายอนุทินรับทราบและนำไปวางแผนแก้ไข เสียงสะท้อนจากประชาชนในพื้นที่ว่าพรรคตั้งใจดูแลชาวแม่ฮ่องสอน และมีนโยบายที่ตรงประเด็น ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนได้ ตรงนี้ตนจึงมั่นใจว่าพรรคจะได้รับโอกาสนี้จากประชาชน”
นันทิยา กล่าวว่า การที่ตนร่วมมือกับภาคประชาสังคมจนตกผลึกบนแนวคิด “ส่งเสริมให้ถูกจุด ต่อยอดให้ถูกที่ แก้ปัญหาให้ถูกทาง” เพื่อเป็นนโยบายเฉพาะตัวของเขต 1 จ.แม่ฮ่องสอน ที่ตนมั่นใจว่าจะเป็นโอกาสเดียวที่จะเปลี่ยนแปลงในสี่ปีข้างหน้า ประกอบกับนโยบายพรรค เช่น นโยบายพลังงานสะอาด ลดรายจ่ายประชาชน ฟรีหลังคาโซล่าเซลล์ ลดค่าไฟฟ้า หลังคาเรือนละ 450 บาท ,มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ผ่อน เดือนละ 100 บาท 60 งวด ,นโยบาย เงินกู้ฉุกเฉิน 50,000 บาท ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ ไม่ต้องค้ำประกัน ผ่อนชำระวันละ 150 บาท 365 วัน เพื่อประกอบอาชีพ และหยุดวงจรหนี้นอกระบบ
นอกจากนี้มีนโยบายติดตั้งเครื่องกรองนํ้าทุกหมู่บ้าน,เพิ่มค่าตอบแทน อสม. เป็นเดือนละ 2,000 บาท เจ็บป่วยมีประกัน ,นโยบายสาธารณสุข เครื่องฉายรังสีรักษามะเร็ง ฟรี ทุกจังหวัด ศูนย์ฟอกไตฟรีทุกอำเภอ,นโยบาย “เกษตรร่ำรวย”,นโยบายพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย รายได้ดี 4 ปี 6 ล้านล้านบาท เพิ่มจํานวนนักท่องเที่ยวสู่ 80 ล้านคน เพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยว สู่ 6 ล้านล้านบาท ภายในปี 2570 ,สร้างงานดี 10 ล้านตําแหน่ง เพิ่มอัตราการจ้างงาน สร้างแรงจูงใจ พัฒนาศักยภาพแรงงาน ,กองทุนท่องเที่ยว ชุมชนดี แหล่งท่องเที่ยวดี และผู้ประกอบการดี ด้วยกองทุน ท่องเที่ยว เป็นต้น
“การที่อาสาจับมือประชาสังคมจ.แม่ฮ่องสอน เขต 1 ในครั้งนี้และได้รับความไว้วางใจจากพรรคให้เป็นผู้สมัครส.ส.เพื่อนำนโยบายพรรคมายกระดับและพัฒนา จ.แม่ฮ่องสอน ให้พ้นการติดอันดับจังหวัดที่มีสัดส่วนคนจนมากที่สุดของประเทศไทยในสี่ปีข้างหน้าให้ได้นั้น เป็นพันธกิจที่ตนต้องดำเนินการ เพราะครั้งนี้จะเป็นโอกาสเดียวที่จะเปลี่ยน จ.แม่ฮ่องสอนให้ดีขึ้น”
นันทิยา กล่าวต่อว่า โดยเฉพาะสิทธิที่ดินทำกินของประชาชนที่ต้องเร่งประสานฝ่ายต่างๆเพื่อให้ประชาชนได้รับโอกาสนี้ เพื่อจะได้มีที่ดินเป็นของตัวเองในการดำรงชีวิต และทำการเกษตรหมุนเวียน โดยใช้ระบบการตลาดนำการเพาะปลูก เพื่อรู้ความต้องการของตลาด รวมทั้งต้องส่งเสริมเกษตรไร้สาร ตนมีหมุดหมายว่าสี่ปีข้างหน้าสินค้าเกษตรคุณภาพจากจ.แม่ฮ่องสอนต้องส่งตรงเข้าสู่ครัวไทยและครัวโลกให้ได้ ตรงนี้จะลดการเผาป่า ที่ก่อฝุ่นควัน PM2.5 และประชาชนไม่ต้องรุกป่าเพื่อทำเกษตรไร่เลื่อนลอยอีกในวันข้างหน้า” นันทิยา กล่าว