รัสเซียยังคงเดินหน้าการรุกรานพื้นที่ทางตะวันออกของยูเครน ในขณะที่เจ้าหน้าที่จากทางการยูเครนได้ออกมาเรียกร้องให้ประชาชนเร่งอพยพหนีออกจากพื้นที่โดเนตสก์ ที่จะกลายมาเป็นด่านหน้าของสงครามทางตะวันออกในระยะต่อไป ทั้งนี้ รัสเซียสามารถยึดภูมิภาคดอนบาสได้แล้วกว่า 75% และเหลือเพียงแค่พื้นที่ในภูมิภาคโดเนตสก์อีกแค่ไม่ถึงครึ่งหนึ่งเท่านั้น ที่ยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพยูเครน
UNHCR ระบุเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (6 ก.ค.) ว่า มีประชาชนทั่วทั้งยูเครนกลายเป็นผู้พลัดถิ่นแล้วกว่า 8.793 ล้านคน นับตั้งแต่สงครามปะทุขึ้นเมื่อ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา ในขณะที่ ปาฟโล คีรีเลนโก ผู้ว่าการโดเนตสก์ ได้ออกมาเรียกร้องให้ประชาชนในภูมิภาคของตนจำนวน 350,000 คน เร่งอพยพออกจากพื้นที่ในทันที หลังจากเริ่มมีรายงานพบผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีของรัสเซียแล้ว
มีเพียงพื้นที่ของโดเนตสก์ในส่วนน้อย ที่ยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของยูเครน ในขณะที่พื้นที่กว่าครึ่งของโดเนตสก์ และพื้นที่ทั้งหมดของลูฮานสก์ได้ถูกกองทัพรัสเซียเข้ายึดครองทั้งหมดแล้ว ทั้งนี้ จากรายงานของเมื่อวานนี้พบว่า มีประชาชนถูกสังหาร 7 คน และบาดเจ็บอีก 25 คน ตลอดระยะเวลา 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา หลังจากรัสเซียถล่มยิงพื้นที่โดเนตสกก์อย่างหนัก
“ชะตากรรมของทั้งประเทศจะถูกตัดสินในภูมิภาคโดเนตสก์” คีรีเลนโกกล่าว “เมื่อมีประชาชนอยู่น้อยลง เราจะสามารถมุ่งความสนใจไปอยู่กับแค่ศัตรูของเรา และดำเนินการภารกิจตามเป้าหมายหลักของเรา” ทั้งนี้ เป้าหมายตามข้ออ้างของปูติน ในการส่งกองทัพเข้ามายังภูมิภาคดอนบาส คือ “การปลดแอก” โดเนตสก์และลูฮานสก์
ปัจจุบันนี้ ยังมีประชาชนยูเครนติดอยู่ในเมืองลีซีชานสก์ ของภูมิภาคลูฮานสก์ประมาณ 15,000 คน ท่ามกลางสถานการณ์การรบที่ยังคงเดินหน้าต่อไป ทั้งนี้ รัสเซียกำลังเตรียมการเพื่อเคลื่อนกองทัพของตนเองเข้าไปยังเมืองสโลเวียนสก์ของโดเนตสก์ต่อแล้ว
เช่นเดียวกันกับผู้ว่าการโดเนตสก์ ที่ออกมาเรียกร้องขอให้ประชาชนในภูมิภาคอพยพ วาดิม ลยักฮ์ นายกเทศมนตรีเมืองสโลเวียนสก์ ได้ออกมาขอร้องให้ประชาชนของเมืองเร่งเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่ ทั้งนี้ สโลเวียนสก์เคยมีประชากรก่อนช่วงสงครามการรุกรานจากรัสเซียที่ 107,000 คน ก่อนที่จะลดลงเหลือ 23,000 คนในปัจจุบัน
ที่มา: