ไม่พบผลการค้นหา
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางโพแจ้งความดำเนินคดีกับ "มงคลกิตติ์" ส.ส.พรรคไทยศรีวิไลย์ หลังนำสารตั้งต้นระเบิดเข้าไปในอาคารรัฐสภา เนื่องจากเข้าข่ายคดีด้านความมั่นคง แต่สามารถใช้เอกสิทธิ์ ส.ส.คุ้มครองได้ เนื่องจากอยู่ในสมัยการประชุม

สำนักข่าวไทยรายงาน นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจของสถานีตำรวจนครบาลบางโพ ได้แจ้งมายังสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรว่า ตำรวจได้แจ้งดำเนินคดีเอาผิดกับนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.พรรคไทยศรีวิไลย์ กรณีนำสารตั้งต้นประกอบระเบิดเข้ามาในอาคารรัฐสภาแล้ว เนื่องจากการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายเป็นคดีด้านความมั่นคง หลังจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถมาเชิญนายมงคลกิตติ์ไปให้ปากคำตามขั้นตอนของกฎหมายได้ แต่นายมงคลกิตติ์ยังคงสามารถใช้เอกสิทธิ์ ส.ส.คุ้มครองได้เช่นกัน เนื่องจากอยู่ในสมัยการประชุม

เลขาธิการสภาฯ ยอมรับว่า การกระทำของนายมงคลกิตติ์ เป็นการหมิ่นประมาทสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เพราะกล่าวหาว่ารัฐสภาไม่มีความรอบคอบในการดูแลความปลอดภัย ซึ่งไม่เป็นความจริง แต่คดีนี้ทางสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรไม่ได้แจ้งความดำเนินคดีกับนายมงคลกิตติ์ เนื่องจากทางตำรวจมองว่าเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของความมั่นคง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถแจ้งความดำเนินคดีเองได้

ด้าน นายมงคลกิตติ์ ยืนยันว่า สารดังกล่าวเป็นเพียงสารไนโตรเจน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระเบิด ไม่ใช่การนำระเบิดเข้ามาในพื้นที่รัฐสภา แต่ยอมรับว่าอาจจะใช้คำพูดที่ไม่ถูกต้องในการแถลงข่าว เพราะเห็นว่าสื่อมวลชนน่าจะชอบคำพูดที่เป็นประเด็น ขอยืนยันว่าสารดังกล่าวไม่สามารถระเบิดเองได้เพียงส่วนประกอบเดียว โดยมองว่าการที่เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ออกมาแถลงเพื่อดำเนินคดีเรื่องนี้ เป็นเพราะเลขาธิการสภาฯ ไม่มีความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ หากมีเวลา ตนอยากจะสอนให้

นายมงคลกิตติ์ กล่าวด้วยว่า เมื่อเลขาธิการสภาฯ ดำเนินการเรื่องนี้ ตนก็พร้อมที่จะดำเนินการกลับกับเลขาธิการสภาฯ ด้วย เพราะเห็นว่ามีเรื่องที่ไม่ชอบหลายเรื่อง และเห็นว่าเลขาธิการสภาฯ ควรนำเวลาไปดำเนินการเรื่องขยายเวลาสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่มากกว่า ขอยืนยันว่าการกระทำของตนไม่ผิดกฎหมาย เพราะมีเจ้าหน้านี้ตำรวจ EOD มาด้วยตัวเอง และพร้อมที่จะให้ EOD มาให้ข้อมูลด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง