พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย อภิปรายกล่าวหานายกรัฐมนตรี กระทำการจัดรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 5 ที่กำหนด รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ การกระทำใด ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ถือว่าการกระทำนั้นเป็นอันใช้บังคับมิได้ จากกรณี การถวายสัตย์ปฏิญาณ เข้ารับหน้าที่ของคณะรัฐมนตรีที่ไม่ครบถ้วน
ทั้งนี้เมื่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ อภิปรายเข้าสู่เนื้อหา ก็เริ่มมีการประท้วงเกิดขึ้น โดย นายชินวรณ์ บุญเกียรติ ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ชี้ว่าเรื่องนี้ วิปทั้งฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาล ได้ตกลงกันแล้วว่าจะไม่มีการพูดถึงการถวายสัตย์ ปฏิญาณ ด้วย 4 เหตุผล คือ
1. เป็นเรื่องเกิดขึ้นก่อนคณะรัฐมนตรีจะเข้าบริหารราชการแผ่นดิน
2. และเมื่อมีการบริหารราชการแผ่นดินแล้ว สภาได้เปิดให้มีการอภิปรายซักถามแบบไม่ลงมติไปแล้ว
3. ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง เพราะเป็นการกระทำทางการเมืองเฉพาะที่ทำกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ไปแล้วจึงไม่ควรมีการพูดอีก จากนั้น
จากนั้น นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธาน ซึ่งทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมได้วินิจฉัย หากพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์พูดถึงเรื่องนี้ ก็หลีกเลี่ยงไม่พ้นที่จะพูดถึงพระมหากษัตริย์ ดังนั้นหากมีการอภิปรายเรื่องนี้อีกจะไม่ให้อภิปราย แต่จะให้อภิปรายได้เฉพาะประเด็นอื่น ทำให้ ส.ส.ฝ่ายค้านลุกขึ้นประท้วงจำนวนมาก
เช่นเดียวกับพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ขอให้ประธานฟังเหตุผลให้ครบถ้วนก่อนที่จะวินิจฉัย พร้อมตำหนิ นายศุภชัย โพธิ์สุ ว่าประธานเป็นประธานหรือเปล่า ทำให้ ส.ส. ฝ่ายรัฐบาลประท้วง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ที่ก้าวล่วงผู้ทำหน้าที่ประธาน
ด้านนางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ได้ลุกขึ้นประท้วง พร้อมบอกว่า อภิปรายนอกประเด็น ไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ
มีรายงานจากผู้สื่อข่าว ที่ติดตามทำข่าวในห้องปะชุม ว่าระหว่างที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เริ่มลุกขึ้นพูดอภิปรายได้ไม่ถึง 5 นาที นายกรัฐมนตรี ก็ส่งซิกให้องครักษ์ เตรียมลุกขึ้นประท้วง จึงทำให้ขณะนี้การอภิปรายยังไม่คืบหน้าถึงไหน