ฟู้ด แฟคเตอร์ ได้ลงทุนกว่า 1,500 ล้านบาท ในการเข้าร่วมลงทุนกับบริษัท เคที เรสทัวรองท์ (KT) หรือร้านซานตา เฟ่ สเต็ก (Santa Fe) เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์หลักของกลุ่มบุญรอดฯ ในการผลักดันกลุ่มธุรกิจอาหารให้เป็น 1 ใน 6 เสาหลักที่สร้างรายได้ โดยตั้งเป้าที่จะมีรายได้จากกลุ่มธุรกิจอาหาร 4,000 ล้านบาท ใน 3 ปี ข้างหน้า
นับเป็นอีกหนึ่งหัวหอกในธุรกิจอาหารที่น่าจับตามอง หลังจากกลุ่มบุญรอดบริวเวอรี่ ผู้นำธุรกิจเครื่องดื่มของเมืองไทย ปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งใหญ่ โดยมี 6 เสาหลัก ในองค์กรประกอบด้วย 1.ธุรกิจเบียร์ โซดา และน้ำดื่ม 2.ธุรกิจบรรจุภัณฑ์บางกอกกล๊าส 3.ธุรกิจระดับภูมิภาค (รีจินัล) ภายใต้ สิงห์ เอเชีย โฮลดิ้ง 4.ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยสิงห์เอสเตท 5.ธุรกิจซัพพลายเชน ภายใต้บุญรอดซัพพลายเชน และ 6.ธุรกิจอาหาร โดย ฟู้ด แฟคเตอร์
‘ครบวงจร’ คือแนวคิดสำหรับธุรกิจอาหารของกลุ่มบุญรอดฯ ที่ต้องการผนึกความแข็งแกร่งระหว่างกลุ่มธุรกิจและสร้างการเจริญเติบโตร่วมกัน โดยปัจจุบันมีการแบ่งกลุ่มธุรกิจออกเป็น 3 กลุ่มประกอบด้วย 1.กลุ่มการผลิตและผลิตภัณฑ์ 2.กลุ่มเครือข่ายธุรกิจอาหาร และ 3.กลุ่มร้านอาหาร
นายปิติ ภิรมย์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด (Food Factors) เปิดเผยว่าการเข้าซื้อกิจการบริษัท เคที เรสทัวรองท์ เป็นก้าวสำคัญที่จะทำให้ฟู้ด แฟคเตอร์ บรรลุเป้าหมายทางยอดขายให้ได้ในอนาคต โดยยกว่ารายได้เฉลี่ย 1,200 ล้านบาทต่อปี ของเคที เรสทัวรองท์ จะเป็นหัวใจสำคัญที่มาเสริมศักยภาพ และเติมเต็มธุรกิจประเภทร้านอาหาร
“เราทำธุรกิจเบียร์ น้ำดื่ม และโซดามาเป็นเวลาหลายปี มีโครงข่ายที่มั่นคงแข็งแรง แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะเติบโตแบบนี้ตลอดไป เพราะฉะนั้นในการเข้ามาลุยธุรกิจแบบใหม่ เราก็ต้องมีการบริหารจัดการต้นทุนที่ดี บุญรอดทำธุรกิจอาหารมานับ 10 ปี แล้ว นับตั้งแต่ เอส 33 หรือ ฟาร์ม ดีไซน์ แต่สิ่งที่ยังไม่ได้เป็นรูปธรรมคือ ยังไม่มีกิจการที่มีเป้าหมายเดียวกันอย่างชัดเจน”
โดยปัจจุบันธุรกิจร้านอาหารของฟู้ด แฟคเตอร์ ประกอบด้วยร้านฟาร์มดีไซน์ ร้านอาหารญี่ปุ่น Kitaohji และเอส 33 โดยบริษัท เอสคอมพานี จำกัด ดูแลกลุ่มธุรกิจร้านอาหาร และล่าสุดกับร้านสเต็ก ซานตา เฟ่ ที่ปัจจุบันมีสาขามากกว่า 117 สาขา
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฟู้ด แฟคเตอร์บอกว่า จะมีการเพิ่มจุดขายในการจัดจำหน่ายสินค้าในเครือบุญรอดฯ พร้อมคิดผลิตภัณฑ์ใหม่ร่วมกับกลุ่มบริษัท เฮสโก โซลูชั่น จำกัด และบริษัทเฮสโก ฟู้ด จำกัด และยังมี Food innovation Center ศูนย์นวัตกรรมในการวิจัยและพัฒนาสินค้าอาหาร และเครื่องดื่มด้วยเทคโนโลยีทันสมัย สำหรับพัฒนาเมนูและผลิตภัณฑ์ใหม่ให้กับร้านซานตาเฟ่ สเต็กและร้านในเครืออย่างเหม็งนัวนัว
ตลาดระดับภูมิภาค
ไม่เพียงแต่ลุยธุรกิจอาหารในระดับประเทศ นายปิติ ภิรมย์ภักดี เผยถึงแผนในอนาคตสำหรับการสร้างซัพพลายเชนธุรกิจอาหารให้ครบวงจร และศึกษาความเป็นไปได้ในการทำครัวกลาง เพื่อเป็นศูนย์กลางการผลิต และจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้า หลังจากธุรกิจมีมูลค่ามากพอ สำหรับตลาดอาเซียนมองถึงความร่วมมือกับกลุ่ม Bevchain Logistics เพื่อกระจายสินค้า และสร้างแบรนด์สินค้าใหม่เพื่อจับกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อมากขึ้นในตลาดภูมิภาค
“เราต้องหาตัวสินค้าเพื่อพัฒนา และกระจายสินค้า ต่อจากนี้ไปเราจะมองเครือข่ายที่กว้างขึ้น สำหรับครั้งนี้โอกาสในธุรกิจร้านอาหารสเต็ก เป็นกลุ่มอาหารที่ได้รับความนิยมจากคนไทย และคู่แข่งรายใหญ่ๆ ในตลาดมีเพียง 2–3 ราย รวมถึงมีโอกาสขยายตลาดไปยังประเทศอื่น หลังจากก่อนหน้านี้ นำร่องขยายไปแล้วที่กัมพูชา”
นอกจากนี้ยังเผยว่า ฟู้ด แฟคเตอร์ ยังคงมองหาโอกาสในการลงทุนอย่างต่อเนื่องภายใต้งบ 5,000 ล้านบาท โดยพิจารณาธุรกิจที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของบุญรอดฯ เพื่อเพิ่มพอร์ตโฟลิโอธุรกิจอาหารให้ครอบคลุมมากขึ้นทั้งในและต่างประเทศ นายปิติ ยังแย้มว่าเงินลงทุนอาจเพิ่มได้มากกว่า 5,000 ล้านบาท หากเป็นธุรกิจที่น่าสนใจ และผ่านมติจากคณะกรรมการบริหาร