วันที่ 10 ม.ค. ที่อาคารรัฐสภา ภูมิธรรม เวชยชัย ประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า การประชุมนัดแรกวันนี้ สิ่งสำคัญคือการทำความเข้าใจ เพราะขณะนี้ถือว่าเป็นการทำงานร่วมกัน ไม่มีขั้ว ไม่มีสองฝ่าย เพราะผ่านวาระแรกมาแล้ว เป็นหน้าที่การทำงานของทุกคน ที่จะร่วมกันผลักดันงบประมาณออกไปสู่สาธารณะ ดูแลพี่น้องประชาชนให้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจร่วมกัน
รวมทั้งจะมีการกำหนดไทม์ไลน์ ในการทำงาน ว่าจะมีการประชุม วันจันทร์ ตั้งแต่ 13:00 น - 20:00 น. วันอังคารถึงวันพฤหัสบดี 9.00น.- 20:00 น. ส่วนวันศุกร์ตั้งแต่ 9:00 - 16.00 น. โดยยืนยันจะทำงานอย่างเต็มที่ภายใต้กรอบเวลา 105 วัน
ภูมิธรรม ยังระบุว่า กรรมาธิการฯ เห็นพ้องต้องกัน ว่าจะปรับเปลี่ยนวิธีการทำงาน ด้วยการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ เรียงลำดับรายมาตรา ทั้งนี้อะไรที่เป็นข้อตกลงร่วมกันได้หรือมติร่วมกันได้ก็จะเป็นเรื่องดี ที่จะทำให้งบประมาณออกมาได้ชัดเจนและดำเนินการได้เร็วที่สุด และถ้าเป็นไปได้ไม่อยากให้มีการยื่นญัตติ หรือโหวตเพื่อหาข้อสรุป เพื่อให้งบประมาณออกเร็ว
"ส่วนที่จะบอกว่าวิกฤตมากหรือวิกฤตกลาง ก็แล้วแต่ แต่ก็ถือว่าเป็นวิกฤต ดังนั้นจึงจะต้องร่วมมือกันเพื่อให้ งบประมาณออกมาได้เร็วที่สุด" ภูมิธรรม กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่ ไม่อนุญาตให้มีการถ่ายทอดสดการประชุมกรรมาธิการตามที่พรรคก้าวไกลร้องขอ ภูมิธรรม ชี้แจงว่า ได้เปิดให้มีการพูดคุยกันในที่ประชุม แต่ตนเห็นว่ามีสื่อบางที่ไปนำเสนอวิพากษ์ วิจารณ์กรรมาธิการ ว่ากลัวจะให้ประชาชนไปมีส่วนร่วม จึงต้องระมัดระวัง โดยขอย้ำว่ามีความจำเป็นจริงๆ ที่ต้องระมัดระวัง
ขณะที่งบประมาณยังไม่ได้ข้อสรุปและการพูดคุยกันบางเรื่องอาจมีปัญหา เพราะสามารถทำให้ผู้มีส่วนได้เสีย หรือมีส่วนเกี่ยวพันกับคนข้างนอกอาจมีปัญหาที่ต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่เพียงผู้พูดกล่าวถึงคนเดียวอาจจะเกี่ยวพันไปถึงเจ้าหน้าที่ด้วย จึงต้องให้อยู่ในอำนาจของประธาน หรือถือแนวปฏิบัติเหมือนเดิม ยังไม่มีระเบียบอะไรที่แก้ไข
ทั้งนี้ ข้อเสนอเช่นนี้เข้าใจว่าเป็นเจตนาที่ต้องการให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม แต่ต้องดูหลายเรื่องไม่ใช่ดูเพียงประเด็นเดียว อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีการปิดกั้น ทางกรรมาธิการฯ ได้มีการถ่ายทอดสดภายในอาคารรัฐสภา ซึ่งสื่อมวลชนก็สามารถติดตามดูได้ แต่ก็มีข้อจำกัดที่สื่อจะไม่สามารถถ่ายทอดได้ทั้งหมด จึงจะเลือกถ่ายทอดแต่ละสิ่งออกไปเพื่อป้องกันปัญหา พร้อมย้ำว่าไม่ใช่เรื่องกลัวหรือไม่กลัวให้ประชาชนรับทราบแต่เป็นการป้องกัน ไม่ให้เกิดปัญหา หรือคดีความ พยายามทำให้ทุกอย่างไม่ให้เกิดส่วนได้ส่วนเสียในระหว่างที่งบประมาณยังไม่ได้สรุปชัดเจน
ภูมิธรรม ยังกล่าวถึงกรณีที่ สว. ล่าชื่อขอเปิดอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 153 ว่ารัฐบาลพร้อมที่จะชี้แจงอยู่แล้ว เพราะเป็นการอภิปรายเสนอความเห็น ของ สว. แต่เข้าใจว่าตอนนี้ยังรวมชื่อไม่ถึงเกณฑ์ ที่จะสามารถที่จะยื่นได้ ซึ่งก็ไม่เป็นไร หากรวมชื่อและยื่นได้ก็พร้อมที่จะรับฟังและชี้แจง เพื่อการบริหารราชการแผ่นดินเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น ไม่มีส่วนไหนที่รัฐบาลต้องไปกังวลใจ
ส่วนกรณีที่ สว. บางส่วนต้องการให้รัฐบาลกำหนดนิยามคำว่าวิกฤตเศรษฐกิจให้ชัดเจนเพื่อป้องกันปัญหา เกี่ยวกับการ ออก พ.ร.บ.เงินกู้ 5แสนล้านบาท ภูมิธรรม กล่าวว่า วิกฤตหรือไม่วิกฤตเป็นเรื่องที่ต้องช่วยกันตอบ ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นข้อถกเถียงระหว่างพรรคการเมือง
"พรรคการเมืองที่จะทำก็บอกว่าวิกฤต พรรคที่จะไม่ทำก็บอกว่าไม่มีวิกฤต ผมเห็นว่าต้องเอาความเป็นจริงมาพูด ซึ่งหากอยากรู้ว่าวิกฤตหรือไม่ ให้ลงไปที่ตลาด และไปสอบถามจากชาวบ้าน ถ้าหากชาวบ้านบอกว่าไม่วิกฤตก็ให้มาบอกรัฐบาล" ภูมิธรรม กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีภูมิรัฐศาสตร์ของโลกหรือ Geo politics ที่มีปัญหาสงครามจะกระทบการส่งออกของไทยหรือไม่นั้น ภูมิธรรม กล่าวว่า กำลังเฝ้าดูในตะวันออกกลาง ซึ่งยังไม่ได้กระทบ แต่หากมีปัญหาก็จะกระทบทั่วโลก ประเทศไทยไม่ต้องกังวลเพราะรัฐบาลได้สั่งการให้ดูแล ให้แต่ละฝ่ายเตรียมการไว้แล้ว