เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 18 ก.พ. 2566 ที่สวนมิ่งเมืองเฉลิมพระเกียรติ อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทย ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี วันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.)บอกดวงของ น.ส.แพทอง จะมีดวงดีกลางปี 2567 หลัง ส.ว.หมดวาระ ว่า “ส.ว.ดูดวง เขาดูดวง ขอบคุณค่ะ ไม่รู้จะตอบอะไรเลย ข้ามไป ข้ามไป เหมือนไม่ใช่ แต่เหมือนข้อเท็จจริง”
ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ระบุว่า วาระ ส.ว.ที่จะยกมือสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ ทำให้คนทั้งประเทศเหมือนดวงตกมาตลอด 4 ปีแล้วนะ แล้วเรื่องนี้ถ้าเป็นเรื่องโชคชะตา ในการเลือกตั้งทั้งประเทศ ประชาชนจะกำหนดชะตากรรมตัวเองโดยลงคะแนน โดยพรรคเพื่อไทยจะอาสาเข้ามาทำงานการเมือง เพื่อชนะให้เด็ดขาดแบบแลนด์สไลด์ เอาชนะ ส.ว.ที่พยายามจะสร้างเกมปั่นป่วน เพื่อสกัดกั้นเป้าหมายของพรรคเพื่อไทยและประชาชน
ถามว่า มีการคาดการณ์ว่าไทม์ไลน์เลือกตั้งจะเกิดขึ้นในเดือน พ.ค. 2566 อาจคาบเกี่ยวเรื่องการคลอดด้วย แพทองธาร กล่าวว่า ได้วางแผนกับทางพรรคเพื่อไทยของการเดินทางและสุขภาพด้วย ตนก็หาเวลาพักตลอดเพื่อพักให้เต็มที่ อีกทั้ง ดูเรื่องการขึ้น เครื่องบิน ถ้าแพทย์ให้ขึ้นเครื่องบินได้โดยมีแพทย์รับรองก็จะไป เมื่อช่วงใกล้คลอด ตนจะไปหาเสียงในกรุงเทพฯ และปริมณฑลมากกว่า และถ้าใกล้คลอดก็ยังมีผู้บริหารพรรคเพื่อไทยไปหาเสียง และตนก็สามารถพูดกับผู้สมัคร ส.ส.ในพื้นที่ด้วยการเฟซไทม์ ซึ่งเทคโนโลยีก็ช่วยเราได้เยอะ ทั้งนี้ตนยอมรับว่าตื่นเต้นกับการตั้งครรภ์ครบ 7 เดือนในช่วงเดือน มี.ค.นี้ ตนเชื่อว่าผู้หญิงทุกคนตื่นเต้นกับการตั้งครรภ์ แม้จะเป็นลูกคนที่2 ก็ตาม
ขณะที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุเสริมว่า ถ้าแพทองธารคลอดในวันที่ 7 พ.ค.นี้ และเป็นวันเลือกตั้ง แพทองธาร ก็จะไปลงคะแนนเลือกตั้งในช่วง 08.00 น. ที่เปิดให้ลงคะแนนก่อน โดยขณะนี้ในแต่ละจังหวัด พรรคเพื่อไทยจะมีทีมปราศรัย ซึ่งแบ่งเป็น 2 ทีมใหญ่อยู่แล้ว ส่วน แพทองธาร ในช่วงใกล้เลือกตั้งจะใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์
ถามถึงแคนดิเดตนายกฯ อีก 2 คนจะมาช่วยลงพื้นที่หาเสียงเมื่อไร แพทองธาร กล่าวว่า เขาอาจมาช่วยกันอยู่แล้วก็ได้ ตอนนี้ทุกคนก็ช่วยพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว แต่ละคนที่พูดก็เก่งๆ ทั้งนั้น แม้ตนจะไม่สามารถไปปราศรัยได้ก็จะเฟซไทม์เข้าไปหา และตนก็ไม่คิดว่าการเปิดแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทยจะทำให้เสียโอกาส
เมื่อถามถึงกรณี อิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม อาจไม่มาพรรคเพื่อไทย ตาม สนธยา คุณปลื้ม แกนนำกลุ่มชลบุรีที่เพิ่งย้ายเข้ามาพรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน กล่าวว่า สนธยาในฐานะพี่ใหญ่ของครอบครัวคุณปลื้ม ซึ่ง สนธยาเคยประกาศจะมาพรรคเพื่อไทยเป็นครอบครัว ตนไม่ขอก้าวล่วง ส่วนคำว่าครอบครัวจะเป็นประเด็นปัญหาอะไรหรือไม่ ก็ให้ดูแต่ละส่วนแต่ละคนไป ส่วนนายอิทธิพลจะประกาศอย่างไรทางพรรคจะไม่ไปเกี่ยวข้อง ซึ่งนายสนธยาได้ยืนยันแล้วว่าครอบครัวได้ตัดสินใจร่วมกันแล้ว ยืนยันในส่วน จ.ชลบุรี จะได้ทั้ง 10 เขต โดยสัปดาหน้าจะเปิดผู้สมัคร ส.ส.ให้ครบทุกเขต
เมื่อถามว่าการแบ่งเขตเลือกตั้งที่ยังไม่ชัดเจน มีผลต่อการหาเสียงเลือกตั้งหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า มีผล เพราะพื้นที่แต่ละบุคคลมีความสามารถที่แตกต่างกัน เรารอว่าเขตเลือกตั้งชัดเจนเมื่อไหร่ก็จะมีการปรับเปลี่ยน เช่น เราประกาศผู้สมัครไป 8 คน ถ้าแบ่งเขตออกมาแล้วไม่ตรงเราก็จะมีการปรับ
เมื่อถามว่า จ.ยโสธร จ.อำนาจเจริญ มีคนแข่งสู่สีกัน และบนเวทีมีการพูดถึงเจ๊ใหญ่ เพื่อไทยรอบนี้สู้สุดฤทธิ์หรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตนไม่ได้พูดเอง แต่ชาวบ้านเขาพูดกัน ใครจะเป็นเจ๊ใหญ่อย่างไรหรือไม่ ก็พูดให้เป็นภาษาเดียวกับชาวบ้าน แต่บรรยากาศการแข่งขันเราเต็มที่ทุกเขต ทุกจังหวัดอยู่แล้ว เราประกาศเป้าหมายแลนด์สไลด์ เราก็คาดหวังการสนับสนุนจากทุกที่ ไม่ว่ามีคู่ต่อสู้เป็นพรรคใหญ่โต เต็มไปด้วยทรัพยากรหรืออำนาจแค่ไหน เราศรัทธา อย่างเดียวคืออำนาจของประชาชน
จากนั้น แพทองธาร กล่าวว่า เขตจะสูสีหรือไม่สูสีเราลงแรงลงใจเท่ากันหมด เป้าหมายคือแลนด์สไลด์ เราไปทุกที่ให้มากที่สุด บอกนโยบายที่เปลี่ยนแปลงชีวิตให้ได้จริงๆ จะเป็นสิ่งที่ประชาชนตัดสินใจ เข้าใจว่าอาจมีคนนั้นคนนี้มากมายเป็นคู่แข่ง แต่นโยบายเท่านั้นที่ประชาชนรับรู้ว่าเพื่อไทยทำได้
เมื่อถามว่า มองอย่างไรถึงกับสัญญาณยุบสภาฯ แพทองธาร ระบุว่า เราไม่สนใจว่าจะยุบสภาเมื่อไหร่ เพราะเราจะเดินหน้าแบบนี้ต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามถึงประกาศนโยบายเรื่องปรับเงินเดือนข้าราชการ 25,000 บาทต่อเดือนบนเวทีปราศรัยน.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เราจะปรับฐานเงินเดือนปริญญาตรี 2.5 หมื่น นั่นคือขึ้น 70% ดังนั้น พอฐานขึ้นเป็น 2.5 หมื่น ก็จะปรับเงินเดือนของข้าราชการด้วย ดังนั้น เราลองเข้าไปบริหารประเทศก่อน และรอเวลาในการทำ นโยบายต่างๆ เราจะประกาศปี 2570 เราต้องค่อยๆ ทำให้ทุกอย่างเกิดขึ้น ไม่อยากให้ประชาชนคิดว่าเข้าไปปุ๊บวันแรกทุกอย่างจะเปลี่ยนแปลงภายใน 1 วัน แต่ทุกอย่างต้องต่อเนื่องกันทั้งระบบ รวมถึงการวางโครงสร้างต่างๆ ด้วย
เมื่อถามว่า เนื้อหาปราศรัยอำนาจเจริญ พุ่งเป้าไปที่กัญชาเสรี แปลว่าพรรคภูมิใจไทยเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวหรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า แปลว่ายาเสพติดเป็นอันตรายที่น่ากลัวของประชาชน กัญชาที่อยู่ในมือลูกหลานเป็นอันตรายต่ออนาคตของชาติ ไม่ว่าปราศรัยที่ไหนเรายกปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาใหญ่เรื่องหนึ่งที่จะต้องแก้ไขเร่งด่วนทันที
แพทองธาร ระบุว่า ในปี 2548 ต้องไม่ลืมว่า พรรคไทยรักไทยทำสำรวจพบว่านโยบายการแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นนโยบายที่ประชาชนชื่นชอบมากที่สุดและยังคงเชื่อมั่นถึงปัจจุบัน ไม่ได้มองว่าพรรคไหนเป็นการเฉพาะ แต่ยาเสพติดเป็นอันตรายต่อทุกคน ไม่ว่าพรรคไหนสนับสนุนก็เห็นต่างจากพรรคเพื่อไทย