ไม่พบผลการค้นหา
‘จิราพร‘ เร่งปราบบุหรี่ไฟฟ้าเชิงรุก เผย ปิดกั้นผู้ค้าออนไลน์แล้ว กว่า 9 พันเพจ ดีเดย์ 30 วัน ต้องเห็นผล พร้อมชงคณะทำงานบูรณาการระยะยาว

นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมหารือแนวทางป้องกันการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าร่วมกับ 20 หน่วยงาน เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2568 ซึ่งเป็นการติดตามความคืบหน้าและสรุปแผนการดำเนินงานตามมาตรการ 3 แนวทางที่ได้จากการประชุมครั้งแรก

นางสาวจิราพร เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้กำหนดแผนปฏิบัติการควบคุมการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าในระยะเร่งด่วน ระยะสั้น และระยะยาว ประกอบด้วย 3 ยุทธศาสตร์ คือ

ยุทธศาสตร์ที่ 1 ด้านการปราบปรามโดยการบังคับใช้กฎหมาย

ยุทธศาสตร์ที่ 2 ด้านการป้องกันปัญหาการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้า

ยุทธศาสตร์ที่ 3 การปรับปรุงแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับ “บุหรี่ไฟฟ้า” พร้อมมีการเสนอตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้า โดยมีคณะอนุกรรมการ 3 คณะ ตามยุทธศาสตร์ของแผนปฏิบัติการที่กำหนดไว้

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้ติดตามความคืบหน้าการดำเนินการปราบปรามการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งที่ผ่านมาทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้มีการปิดกั้นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า กว่า 9,000 แพลตฟอร์ม พร้อมได้มีการหารือกับผู้ประกอบการเพื่อขอความร่วมมือในการปิดกั้น Keyword การค้นหาที่เกี่ยวข้องกับบุหรี่ไฟฟ้า และขอให้ผู้ประกอบการเร่งทำบัญชีรายชื่อผู้ใช้บริการแพลตฟอร์ม หากพบมีการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ต้องปิดกั้นทันที สำหรับผู้ประกอบธุรกิจให้บริการขนส่ง ต้องติดป้ายประชาสัมพันธ์ ห้ามมิให้มีการจัดส่งบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง โดยใช้ข้อความตามที่ สคบ. กำหนด ณ สถานที่ให้บริการทุกแห่ง พร้อมเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบสินค้า กรณีมีเหตุอันควรสงสัย ให้ตรวจสอบโดยวิธีการผ่านเครื่องสแกน และต้องมีการจัดเก็บข้อมูลของผู้ส่งสินค้าไว้เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 30 วัน เพื่อเป็นข้อมูลให้ สคบ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถตรวจสอบได้ในกรณีที่มีการร้องขอ

ขอให้ทางกระทรวงมหาดไทย กระทวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมศุลกากร และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สรุปผลการปราบปราม โดยให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นผู้รวบรวมข้อมูลรายสัปดาห์ และจัดแถลงผลให้ประชาชนรับทราบ

หากผู้ใดพบเห็นการลักลอบผลิต ขายบุหรี่ไฟฟ้า หรือน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ หรือแจ้ง สคบ. ได้ที่สายด่วน 1166

เว็บไซต์ www.ocpb.go.th

แอปพลิเคชัน OCPB Connect

ศูนย์ดำรงธรรมในทุกจังหวัด

สายด่วน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โทร. 1599 

ศูนย์ช่วยเหลือและจัดการปัญหาออนไลน์ สายด่วน 1212 (24 ชั่วโมง)

อีเมล์ [email protected]

ทั้งนี้ ข้อมูลจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รายงานว่า ระหว่างวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 - 4 มีนาคม 2568 มีการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าจำนวน 666 คดี โดยมีผู้ต้องหารวม 690 คน ตรวจยึดของกลางได้ทั้งสิ้น 454,958 ชิ้น คิดเป็นมูลค่าประมาณ 41,911,815 บาท