ไม่พบผลการค้นหา
ครม. อนุมัติภาษีรถยนต์ลดฝุ่นพิษ ลดภาษีรถไฟฟ้าเหลือ ร้อยละ 0 สำหรับรถที่ผลิตในปี 2563-65 จากเดิม ร้อยละ 2 คาดจะสูญเสียรายได้ 1,500 ล้านบาท

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติปรับปรุงภาษียานพาหนะ เพื่อแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5-PM10) ตามที่รัฐบาลให้เป็นวาระแห่งชาติ ตามที่กรมสรรพสามิตเสนอ คาดสูญเสียรายได้จากงบส่วนนี้ประมาณ 1,500 ล้านบาท

มาตรการดังกล่าวประกอบด้วย 

1. ปรับลดภาษีสรรพสามิต สำหรับรถยนต์แบบพลังงานไฟฟ้า (Electric Powered Vehicle) ที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน โดยให้ลดภาษีรถยนต์ไฟฟ้า จากปัจจุบันเก็บร้อยละ 2 ให้ลดลงเหลือร้อยละ 0 ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2563 - 31 ธ.ค.2565 รวมระยะเวลาทั้งสิ้น 3 ปี ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2566 - 31 ธ.ค.2568 ให้ใช้อัตราภาษี ร้อยละ 2 ตามเดิม ส่วนรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตหลังปี 2568 ให้ใช้อัตราภาษีที่ร้อยละ 8 ตามเดิม คาดสูญเสียรายได้ 300 ล้านบาท

2. มาตรการลดภาษีรถยนต์กระบะ และรถยนต์กระบะ 4 ประตู (Double Cab) ปรับลดอัตราภาษีรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล เพื่อยกระดับมาตรฐานการปล่อยมลพิษจากท่อไอเสียของรถยนต์ ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลจากมาตรฐานยูโร 4 (PM ไม่เกิน 0.025) ในปัจจุบันเป็นมาตรฐานยูโร 5 (PM ไม่เกิน 0.005) ให้เร็วยิ่งขึ้น โดยมาตรการนี้คาดสูญเสียรายได้กว่า 100 ล้านบาท

รายละเอียดการลดภาษีในส่วนรถกระบะ มีดังนี้ 

  • รถกระบะแบบไม่มีแคบ ที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไม่เกิน 200 กรัมต่อกม. หากปล่อยพีเอ็มไม่เกินร้อยละ 0.005 จะลดภาษีจากร้อยละ 2.5 เหลือร้อยละ 2 
  • รถยนต์กระบะแบบไม่มีแคบ ที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เกิน 200 กรัมต่อกม. ลดภาษีจากร้อยละ 4 เหลือร้อยละ 3 
  • รถยนต์กระบะสเปซแคบ ที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไม่เกิน 200 กรัมต่อกม. ลดภาษีจากร้อยละ 4 เหลือร้อยละ 3 
  • รถยนต์กระบะสเปซแคบ ที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เกิน 200 กรัมต่อกม. ลดภาษีจากร้อยละ 6 เหลือร้อยละ 5 
  • รถยนต์กระบะ 4 ประตูที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไม่เกิน 200 กรัมต่อกม. ลดภาษีจากร้อยละ 10 เหลือร้อยละ 9 
  • รถยนต์กระบะ 4 ประตู ที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เกิน 200 กรัมต่อกม. ลดภาษีจากร้อยละ 13 เหลือร้อยละ 12 
  • รถยนต์กระบะ 4 ประตูแบบผสมที่ใช้พลังงานเชื้อเพลิงและไฟฟ้า ที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไม่เกิน 175 กรัมต่อกม. ลดภาษีจากร้อยละ 8 เหลือร้อยละ 6


ลดภาษีสรรพสามิตรถกระบะใช้ B20-รถยนต์ไฟฟ้า แก้ปัญหา PM 2.5

ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายกำหนดให้มีการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 – PM 10 เป็นวาระแห่งชาติ และมอบหมายให้ทุกหน่วยงานจัดลำดับความเร่งด่วนและการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง 

กรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง จึงเห็นควรนำปัจจัยเรื่องการปล่อยมลพิษฝุ่น PM มาเป็นหลักการในการกำหนดอัตราภาษีควบคู่ไปกับหลักการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ที่มีอยู่เดิม โดยกรมสรรพสามิตจัดเก็บภาษีรถยนต์ตามอัตราการปล่อย CO2 ตั้งแต่ปี 2559 เนื่องจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลของรถยนต์ก่อให้เกิด CO2 ในชั้นบรรยากาศ อันเป็นสาเหตุหลักให้เกิดสภาวะโลกร้อน 

อย่างไรก็ตาม มาตรการดังกล่าวยังไม่ครอบคลุมถึงปัญหามลพิษจากท่อไอเสียที่ก่อให้เกิดปัญหาฝุ่นควันและมลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล ได้แก่ รถยนต์กระบะ และรถยนต์กระบะ 4 ประตู (Double Cab) ทั้งนี้ ในปัจจุบันรถยนต์ที่ผลิตและจำหน่ายในประเทศต้องมีการทดสอบค่ามลพิษอ้างอิงมาตรฐานยูโร 4 ซึ่งกำหนดให้รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลปล่อยฝุ่น PM ได้ไม่เกิน 0.025 กรัมต่อกิโลเมตร 

ดังนั้น การใช้มาตรการภาษีเพื่อยกระดับมาตรฐานการปล่อยมลพิษจากท่อไอเสียของรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลจากมาตรฐาน ยูโร 4 (PM ไม่เกิน 0.025) ในปัจจุบันเป็นมาตรฐาน ยูโร 5 (PM ไม่เกิน 0.005) ให้เร็วยิ่งขึ้น เพื่อลดอัตราการปล่อยฝุ่นจากท่อไอเสียของรถยนต์ใหม่ ย่อมจะส่งผลประโยชน์ต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนที่คุ้มค่ากับการลงทุนในภาคอุตสาหกรรม ประกอบกับเพื่อสนับสนุนการลงทุนผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับบัตรส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) จึงเห็นควรลดอัตราภาษีรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มเติมจากอัตราปัจจุบัน เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้าเป็นอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ (Next Generation Automotive) และ  ไม่ก่อให้เกิดมลพิษจากท่อไอเสีย 

โดยขอสรุปสาระสำคัญ ดังนี้

1. ปรับลดอัตราภาษีรถยนต์กระบะและรถยนต์กระบะ 4 ประตู (Double Cab) หากมีค่าฝุ่น PM ไม่เกิน 0.005 กรัมต่อกิโลเมตร หรือรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลที่ใช้เชื้อเพลิงประเภทไบโอดีเซลไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 เป็นส่วนผสมกับน้ำมันเชื้อเพลิงได้ (บี 20) เนื่องจากการเพิ่มสัดส่วนปริมาณการใช้ไบโอดีเซลในน้ำมันเชื้อเพลิงหรือพลังงานทดแทน ในน้ำมันดีเซลส่งผลให้ปริมาณการปล่อยฝุ่น PM ลดลง อันจะเป็นการลดการนำเข้าน้ำมันดิบจากต่างประเทศ เพิ่มความมั่นคงด้านพลังงาน และส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนจากพืชซึ่งเป็นผลผลิตภายในประเทศ

2. ปรับลดอัตราภาษีรถยนต์แบบพลังงานไฟฟ้า (Electric Powered Vehicle) ภายใต้หลักเกณฑ์และเงื่อนไขของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) จากปัจจุบันอัตราภาษีร้อยละ 2 ให้ลดลงเหลืออัตราร้อยละ 0 ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2563 - 31 ธ.ค. 2565 (รวมระยะเวลาทั้งสิ้น 3 ปี) ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2566 - 31 ธ.ค. 2568 ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละ 2 ตามเดิม  

ผลที่คาดว่าจะได้รับ

1. ส่งผลให้ผู้ประกอบอุตสาหกรรมรถยนต์พัฒนามาตรฐานการปล่อยมลพิษของรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซลให้มีประสิทธิภาพในการลดฝุ่น PM ตามมาตรฐานยูโร 5 ได้เร็วยิ่งขึ้น 

2. มาตรการดังกล่าวคาดว่าจะส่งผลให้มีการลดฝุ่น PM ของรถยนต์กระบะและรถยนต์กระบะ 4 ประตู (Double Cab) ที่ชำระภาษีสรรพสามิตในแต่ละปีลดลงประมาณ 76 ล้านกรัมต่อปี 

3. ลดผลกระทบด้านสุขภาพของประชาชนและค่าใช้จ่ายภาครัฐเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล