ไม่พบผลการค้นหา
'ประยุทธ์' ไม่ขอมองกรณี 'หยก' เคลื่อนไหว บอกเป็นเรื่องที่หน่วยงานต้องแก้ไขเป็นกรณีไป ขออย่าสร้างความปั่นป่วน - บอกไม่ต้องกำชับอะไรปมฉาววงการสีกากี ชี้มีระเบียบชัดเจนอยู่แล้ว - ปัดตอบจะเกิดความวุ่นวายหากโหวตนายกไม่ได้

วันที่ 19 มิ.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ปฎิเสธตอบคำถามถึงกรณีข่าวฉาววงการตำรวจ ทั้งเรื่องตบทรัพย์แก๊งค์พนันออนไลน์ 140 ล้านบาท รวมถึงการแต่งตั้งโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรม โดยตอบสั้นๆ ว่า “ก็สั่งไปแล้ว ก็ทำตามหน้าที่ ตามระเบียบ ตามกฎหมาย ก็ว่ากันไป เขามีระเบียบของเขาอยู่แล้ว ไม่ใช่นายกฯ ต้องไปสั่งทุกวัน"

ส่วนที่มีการกล่าวอ้างว่ารู้จักผู้ใหญ่ ต้องมีการกำชับอะไรหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ถอนหายใจ แล้วกล่าวว่า “ไม่มีอ่ะ “ 

ส่วนมองอย่างไรกรณี “หยก” เยาวชนอายุ 15 ปี ที่มีปัญหาไม่ได้รับสถานะนักเรียน พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า “ไม่มอง เป็นเรื่องของหน่วยงานที่เขาต้องแก้ไขไป ส่วนจะทำให้เป็นแบบอย่างให้กับเยาวชนหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับพวกเรา ก็ต้องแก้ไขกันเป็นกรณีไป ขออย่าไปสร้างความปั่นป่วน” 

เมื่อถามว่า หวั่นจะเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ก็อย่าให้เป็นสิ” นอกจากนี้เมื่อถามว่า ขณะนี้ยังมีกำลังใจดีอยู่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า ก็ยังดีอยู่ 

ส่วนห่วงอะไรหรือไม่ จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า “ก็ขึ้นอยู่กับสื่อว่าจะช่วยกันไหมล่ะ การเมืองจะเรียบร้อยหรือไม่มันอยู่ที่สื่อ เนี่ย แล้วเป็นยังไง มันเป็นแบบนี้ ชอบกันนักหรือ ชอบแบบนี้อีกหรือเปล่าล่ะ”

ส่วนที่มีการมองว่าหากโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีแล้วไม่ได้จะเกิดความวุ่นวายขึ้นนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวย้ำ 2 รอบว่า “ไม่รู้ๆ ไม่รู้ไม่ทราบ” โดยก่อนเดินทางกลับได้มีประชาชนส่วนหนึ่งสวมเสื้อสีเหลือง พร้อมนำดอกไม้มารอต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ บริเวณด้านหน้าสถานีรถไฟฟ้าลาดพร้าว ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ได้หยุดรับดอกไม้ และถ่ายภาพกับประชาชนก่อนเดินทางกลับ


'ประยุทธ์' ลั่นไม่มาก็ไม่มา หลังชาติอาเซียนหลายประเทศ เทประชุมถกแก้ปัญหาเมียนมา

พล.อ.ประยุทธ์ ยังให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานทดสอบการเดินรถเสมือนจริงรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงต้นการสัมภาษณ์ นายกรัฐมนตรี พูดผิดจากสายสีเหลืองเป็นสีชมพู ก่อนที่จะแก้ว่า ที่พูดผิดเพราะมองไปเห็นคนใส่เสื้อสีชมพู  

ส่วนกรณีที่ ดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เชิญ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสมาชิกอาเซียน มาหารืออย่างไม่เป็นทางการ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในเมียนมา และมีการตั้งคำถามว่าหลายประเทศไม่มาเข้าร่วม นายกฯ ระบุว่า ไม่มา ก็ไม่มา เพราะเป็นการแก้ปัญหาของอาเซียน เราจำเป็นต้องพูดคุย

พวกเราทุกคนก็ไปมองในแง่โน้นนี้ มองซ้ายมองขวากันอย่างเดียว คิดว่าเราต้องอยู่ในจุดที่เหมาะสม ที่ผ่านมา เราก็ดำเนินการตามนโยบายขเงเราโดยปฏิบัติตามกฎอาเซียนอย่างครบถ้วน ในเรื่องของเขา ซึ่งปกติแล้วอาเซียนต้องเป็นหนึ่งเดียว จะ 10+3 +6 หรือบวกอะไรก็แล้วแต่ เมื่อมีการตัดสินใจด้วยมติเอกฉันท์ทุกครั้งจากนี้เราต้องทำให้อาเซียนของเราปลอดภัย

เรื่องของเมียนมาไม่อยากให้มองเรื่องด้าน แต่ถ้ามองอีกด้านหนึ่งเราจะเดือดร้อนมากกว่าคนอื่น หรือไม่ เพราะมีชายแดนติดกับเมียนมา 3,000 กว่ากิโลเมตร มีการค้าชายแดน ทั้งก๊าซและน้ำมัน พร้อมย้อนถามว่า แล้วแบบนี้ต้องคุยกันหรือไม่ นี่คือวิธีการแก้ไขปัญหาไม่ได้เข้าข้างใคร เป็นเรื่องของการแก้ไขปัญหาอาเซียนร่วมกัน

เพราะฉะนั้นทุกคนจะต้องไม่เดือดร้อนอยู่แล้ว เพราะอย่างไรก็หนีกันไม่ได้อยู่แล้ว ประเทศอยู่ติดกัน เราต้องคำนึงถึงว่าประเทศไทยจะได้หรือเสียอะไร ประชาชนแล้วใครจะเดือดร้อนนั่นคือประชาชน ดังนั้นจึงเป็นเวทีที่พบปะพูดคุยกันเฉยๆไม่ได้เข้าข้างใคร เรื่องอื่นก็เป็นเรื่องกิจการภายในของเพื่อนบ้านเขาก็ว่ากันไป

เมื่อถามกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นรัฐบาลรักษาการ จะไปตกลงกับเขาได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรีย้อนถามสื่อว่า ผมไปตกลงอะไรกับเขาเล่า ไม่มีอะไรต้องไปตกลงกันทั้งสิ้น เพราะเป็นการไปหาทางออกว่าจะทำอย่างไรในฐานะสมาชิกอาเซียน พร้อมระบุว่า ก็ได้รัฐบาลใหม่มาแก้ ก็ได้


'ประยุทธ์' นั่งรถไฟฟ้าฯ สีเหลือง เผยเตรียมถก ครม.พิจารณาใช้ตั๋วร่วม

นอกจากนี้พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์หลังทดลองนั่งรถไฟฟ้าฯ สายสีเหลือง ว่า วันนี้มาร่วมทดสอบการเดินรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ซึ่งได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง และวันนี้สามารถที่จะเปิดให้บริการแล้ว ซึ่งจากการที่ตนได้ทดลองนั่ง ก็รู้สึกสบายดี และถือเป็นทางเลือกให้กับประชาชนในเส้นทางสายนี้ ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณทุกส่วนงานที่เกี่ยวข้อง กระทรวงคมนาคม การรถไฟขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และกระทรวงมหาดไทย รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องในการก่อสร้างทั้งหมด เพราะเกี่ยวกับหลายส่วน ทั้งสาธารณูปโภคพื้นฐานต่างๆที่ประชาชนให้เวนคืนมาทำ  

อย่างไรก็ตาม ถือเป็นการร่วมมือตามกฏหมาย และยินดีที่สามารถเปิดให้บริการได้เต็มรูปแบบในเวลานี้ ขอให้ทุกคนปลอดภัยในการใช้บริการรถไฟฟ้า และวันหน้าเราได้วางแผนเรื่องการเชื่อมต่อเส้นทางรถไฟฟ้าในลักษณะใยแมงมุม รวมถึงการพิจารณาใช้ตั๋วร่วมตลอดการเดินทาง เพื่อลดค่าใช้จ่ายของประชาชน ให้ลดลงได้บ้าง

ส่วนค่าตั๋วเริ่มที่ 15 บาท แพงสุด 45 บาท ซึ่งเราจะต้องมีการพูดคุยต่อในเรื่องค่าแรกเข้าต่างๆอีกยังอยู่ในขั้นตอนของการดำเนินการ สำหรับอาคารจอดรถกว้างขวาง แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าเพียงพอหรือไม่ ตรงนี้อาจจะพอแต่บางครั้ง ประชาชนผู้ใช้บริการใช้ระยะทางสั้น อาจจะมาจอดรถก็ไม่รู้จะทำอย่างไร วันหน้าก็ให้รัฐบาลหน้ามาทำต่อก็แล้วกันในหลายเรื่อง 

เมื่อถามว่า จะต้องนำเรื่องการใช้ตั๋วร่วมเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ต้องนำเข้าพิจารณาในที่ประชุม ครม. โดยกระทรวงคมนาคมได้รายงานมาแล้ว เมื่อถามต่อว่า เริ่มเก็บค่าโดยสารในวันที่ 3 ก.ค.นี้เลยใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ต้องนำเข้าในที่ประชุม ครม.หมดทุกเรื่อง เพื่อให้ ครม. เห็นชอบอนุมัติและรับทราบ มันหลายเรื่องก็ต้องเข้า ครม. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังนายกฯให้สัมภาษณ์เสร็จสิ้น ประชาชนสวมเสื้อสีเหลืองมาดักรอ ให้กำลังใจโดยได้ตะโกนส่งเสียงว่า “นายกฯสู้ๆ ,ลุงตู่อยู่ต่อ และให้กำลังใจนายกฯ”

สำหรับรถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลือง เต็มโครงการระบบรางเชื่อมเส้นทางลาดพร้าว ศรีนครินทร์ สำโรง เป็นหนึ่งในโครงข่ายระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนสายหลักและสายรองในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล​ M-MAP โดยการวิ่งเป็นทางยกระดับตลอดเส้นทาง 30.4 กิโลเมตร รวม 23 สถานี ตั้งแต่บริเวณแยกรัชดา​-ลาดพร้าว

ตามแนวเส้นทางวิ่งตามถนนลาดพร้าว ไป​จนถึงแยกบางกะปิ จากนั้นเบี่ยงแนวไปทางทิศใต้ตามถนนศรีนครินทร์ จนถึงแยกเทพาเลี้ยวเข้าสู่ถนนเทพารักษ์ และสิ้นสุดที่บริเวณแยกสำโรง สามารถรองรับผู้โดยสาร 17,000 คนต่อชั่วโมง ทำความเร็วสูงสุดได้ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง งบประมาณก่อสร้าง​ 48,125 ล้านบาท​