ไม่พบผลการค้นหา
'ปลอดประสพ' เตือนภัยพายุ 'โนรู' สร้างมวลน้ำมากสุดในประวัติศาสตร์ กระทบ 35 ล้านชีวิต ชี้ไทยโชคร้ายไม่มีนายกฯ ตัวจริง สอนมวย 'ประวิตร' อย่าตอบคำถามสั้นๆ ไม่ชัดเจน ย้ำต้องเด็ดขาด สั่งกองทัพทุ่มกำลังทหารช่วยทุกตำบล

วันที่ 27 ก.ย 2565 ปลอดประสพ สุรัสวดี ประธานด้านนโยบายปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐานด้านการจัดการน้ำ พรรคเพื่อไทย และอดีตรองนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวเตือนภัยพายุ 'โนรู' โดยระบุว่า ในฐานะตนเป็นผู้จัดการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (ศภช.) จึงขอแนะนำรัฐบาลด้วยความหวังดีและห่วงใยต่อประชาชน ในการเผชิญหน้ากับพายุใหญ่เช่นนี้ ต้องมีความรู้หลักๆ 9 ข้อ ประกอบด้วย

1) พายุลูกนี้เมื่อขึ้นฝั่งจะเปลี่ยนเป็นพายุโซนร้อน ความเร็วลมจะน้อยลง แต่ก็ถือเป็นพายุโซนร้อนลูกใหญ่ที่สุดลูกหนึ่งเท่าที่ไทยเคยประสบ

2) ขนาดของพายุจะกินเนื้อที่ทั้งภาคเหนือ-อีสาน-กลาง คิดคร่าวๆ ว่าครึ่งหนึ่งของประเทศราว 2 แสน 5 หมื่น ตารางเมตร หรือมากกว่า

3) จะส่งผลกระทบต่อคนไม่ต่ำกว่า 35 ล้านคน

4) พายุอยู่ในไทยประมาณ 3-5 วัน สร้างปริมาณฝน 100-300 มิลลิเมตรหรือมากกว่าในบางพื้นที่

5) เมื่อนำปริมาณฝนมาคำนวณ จะได้น้ำท่าถึง 1 แสนลูกบาศก์เมตร

6) แม้ขณะนี้เขื่อนขนาดใหญ่ของไทยในภาคเหนือจะรองรับน้ำได้ราว 2 หมื่นลูกบาศก์เมตร แต่มวลน้ำที่เหลือจะไหลบ่าลงมาภาคกลาง ซึ่งขณะนี้ภาคกลางกำลังอิ่มตัว และจะสร้างพื้นที่น้ำท่วมที่กว้างใหญ่ไพศาล

7) จะเป็นพายุที่ให้น้ำมากที่สุดลูกหนึ่งในประวัติศาสตร์ นำความชื้นจากคาบสมุทรอินเดียมาผสมกับความชื้นจากทะเลจีนตอนใต้ โดยมีร่องมรสุมทำหน้าที่เป็นกำจัดความชื้นที่ถูกป้อนเข้ามาจาก 2 มหาสมุทร

8) ฝนในอีก 3 วันข้างหน้า เมื่อมาถึงกรุงเทพฯ จะเป็นเวลาที่น้ำทะเลขึ้นสูง การระบายน้ำจะยากขึ้น

9) คาดได้ว่าแต่ยังมีประจุเข้ามาอีก 1-3 ลูก แต่จะเข้ามาในบริเวณภาคกลางจนถึงภาคใต้ตอนบนลงไป

ปลอดประสพ ยังให้คำแนะนำที่อยากให้รัฐบาลปฏิบัติ ในช่วงการเผชิญเหตุ ระยะ Emergency Response รัฐบาลต้องทุ่มสรรพกำลัง ตั้งหน่วยเผชิญเหตุประจำตำบลในทุกตำบล ไม่ใช่แค่มีทหารประจำเฉพาะทำเนียบรัฐบาล ต้องใช้กำลังทหารกระจายไปตามตำบล

"ผมพูดเล่นนะ แต่ก็มีความจริงอยู่ ทหารที่ส่งไป อย่าเอาอาวุธไปนะ เพราะพวกผมไม่ค่อยไว้ใจพวกท่าน จะหน่วยไหนก็ตามแต่ต้องใช้ทหาร ดังนั้นที่ท่านนายกฯ พูดเสมอว่ามีทหารไว้ทำไม ถึงเวลาแล้วที่ต้องใช้ทหาร"

เครื่องมือในการเผชิญเหตุต้องพร้อมขนย้ายลงไปในพื้นที่ ส่วนพื้นที่ราบแนะนำให้ใช้ทหาร และพื้นที่เชิงเขาต้องให้กรมอุทยานและกรมป่าไม้รับผิดชอบดูแลโดยทันที สำหรับตำรวจให้อำนวยความสะดวกอยู่ในเมืองอย่างเดียว หลังผ่านช่วงเผชิญเหตุ จะเข้าสู่ช่วงค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยต้องใช้เครื่องมือจำนวนมาก และต้องประเมินว่าสถานการณ์จะยืดเยื้อเพียงใด ส่วนมากจะ 1-2 วัน 

จากนั้นจะเข้าสู่ระยะฟื้นฟู ซึ่งต้องให้ส่วนท้องถิ่นมารับผิดชอบ พร้อมด้วยกระทรวงสาธารณสุขเข้ามาดูแล เพราะน้ำนิ่งที่ระบายไม่ได้จะเป็นบ่อเกิดของโรคจำพวกอหิวาต์ รวมถึงให้การสนับสนุนด้านการอุปโภคบริโภค ใช้โรงเรียนและวัดให้เป็นประโยชน์ที่สุด เพราะจุคนได้มาก ต้องเปลี่ยนทหารชุดเดิมเป็นทหารช่าง มาซ่อมแซมสาธารณประโยชน์ และให้กรมทางหลวง กรมชลประทาน มาช่วยซ่อมแซม

ปลอดประสพ ยังย้ำว่า วอร์รูมของรัฐบาล รัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีช่วยที่มีอำนาจเต็ม ต้องมาสั่งการด้วยตนเอง ผู้รับผิดชอบต้องมีความรู้จริง และพร้อมแถลงข่าว รวมถึงต้องประกาศหยุดราชการครึ่งประเทศทันที ตั้งแต่ตอนนี้ หรือคืนนี้เป็นต้นไป เช่นเวียดนามที่สั่งหยุดแล้วในพื้นที่ซึ่งพายุเข้า เมื่อปิดแล้วโรงเรียนและวัดจะมีพื้นที่หลบภัย ในเมื่อรัฐบาลสั่งหยุดให้คนใช้เงินได้ ก็ย่อมสั่งหยุดเพื่อความปลอดภัยของประชาชนได้ 


คนจะตายกันอยู่แล้ว

ทั้งนี้ วอร์รูมในทำเนียบรัฐบาลต้องนำเสนอข่าวอย่างต่อเนื่อง ต้องหาบุคลากรที่มีความสามารถในการย่อยข้อมูลเพื่อนำเสนอมารายงานความคืบหน้าผ่านสื่อในทุกชั่วโมง เช่นที่ตนเคยทำมาแล้วในฐานะผู้จัดการศูนย์เตือนภัยฯ ครั้งประสบภัยสึนามิ

"สั่งห้ามรัฐมนตรี และปลัดกระทรวงที่ไม่เกี่ยวข้องมายุ่งเด็ดขาด ไม่ต้องไปเยี่ยมราษฎรตอนนี้ แต่ถ้ารัฐมนตรีคนนั้นตั้งใจไปลงพื้นที่ ทำได้ แต่ท่านที่ประเภทลืมตัว ลอยแล้วไม่ยอมจม ต้องให้คนมาติดป้าย มารับ บ้าบอคอแตก โธ่ คนจะตายกันอยู่แล้ว" ปลอดประสพ กล่าว

ปลอดประสพ ยังมองว่า ขณะนี้เราโชคร้ายเพราะไม่มีนายกฯ ตัวจริง มีเพียงรักษาการนายกฯ จึงเกิดความกังวลว่าจะสั่งการได้เด็ดขาดแค่ไหน ดังนั้นรักษาการนายกฯ ต้องยืนยันถึงความเด็ดขาด ว่าสั่งการได้แม้กระทั่งกองทัพ รัฐบาลจำเป็นต้องแก้ปัญหาในทางการเมืองเรื่องนี้ โดยเฉพาะ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งมักจะตอบคำถามอย่างสั้นๆ ว่า "ไม่ท่วมเหมือนปี 2554 แน่นอน" และ "ผมสั่งการไปแล้ว" ซึ่งตนเห็นว่ายังไม่ชัดเจน

"ท่านพูดสั้นๆ พายุไม่รู้เรื่องนะ กรุณาเถิดท่าน พูดยาวๆ พูดชัดๆ พูดให้แม่นยำ พูดให้คนเข้าใจ ละเอียดให้มาก เหมือนที่ผมกำลังทำอยู่ขณะนี้ อย่าคิดว่าผมเป็นคู่แข่ง หรือมาตำหนิติเตียนท่าน" ปลอดประสพ กล่าว