เศรษฐา ระบุว่าแพลตฟอร์ม X เมื่อช่วงวันพฤหัสบดี (2 พ.ย.) ถึงรายงานของ Thai Enquirer ว่า การระบุว่าพรรคเพื่อไทยและตัวนายกรัฐมนตรีไทยเป็นลูกไล่ของกองทัพนั้น เป็นการเขียนข่าวที่ “ทำให้เกิดการเข้าใจผิด และผมต้องการจะระบุเอาไว้ให้ชัดเจน” ว่า “การยุบ กอ.รมน. ไม่เคยเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะเป็นก่อน ระหว่าง หรือหลังการเลือกตั้ง ข้อเท็จจริงนี้ได้รับการเน้นย้ำด้วยการแถลงนโยบายที่ผมได้กระทำต่อรัฐสภา”
“อย่างไรก็ดี พรรคเพื่อไทย และรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย ตั้งใจที่จะปรับปรุงกองทัพให้ทันสมัย และบูรณาการเข้ากับกระบวนการประชาธิปไตย” นายกรัฐมนตรีระบุ “เรารับทราบว่าภารกิจด้านความมั่นคงแห่งชาติในอดีตของ กอ.รมน. ซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยสงครามเย็นนั้น ไม่มีความสัมพันธ์เกี่ยวโยงอีกต่อไปในปัจจุบัน ภายใต้การบริหารงานของผม ผมมีหน้าที่ดูแลให้บทบาทของ กอ.รมน. สอดคล้องกับค่านิยมประชาธิปไตย ส่งเสริมสิทธิและรักษาเสรีภาพของพลเมืองของเรา”
เศรษฐาอีกระบุว่า พรรคเพื่อไทยและรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย “เราเชื่อในการเปลี่ยนแปลงแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 2 ทศวรรษแห่งความขัดแย้งทางอุดมการณ์ทางการเมืองที่ประเทศไทยต้องเผชิญ เราไม่ได้เลือกเส้นทางของการเผชิญหน้าและการทำลายล้าง แต่เป็นเส้นทางของการประสานความคิดและการทำงานเพื่อประโยชน์ของประชาชน ความต่อเนื่องของการปกครองผ่านการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย ถือเป็นแก่นแท้ของประชาธิปไตยที่ยั่งยืนและสันติสุข”
“สุดท้ายนี้ ผมเป็นนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย ซึ่งมาจากการเลือกตั้งของประชาชน และได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา โปรดอย่าบ่อนทำลายเสียงประชาชน ถ้าผมเป็นเพียงหุ่นเชิด ผมก็คือหุ่นของประชาชน” นายกรัฐมนตรีระบุย้ำ
คำกล่าวของนายกรัฐมนตรีบนแพลตฟอร์ม X ในครั้งนี้มีขึ้น เพื่อตอบกลับท่อนหนึ่งของรายงานของสำนักข่าว Thai Enquirer ที่ตั้งคำถามว่า “เศรษฐา ทวีสิน กลายเป็นเพียงหุ่นเชิด อีกหนึ่งลูกไล่ของกองทัพหรือไม่” พร้อมกันกับการตั้งข้อสังเกตของ Thai Enquirer ว่า “ในขณะที่เขา (เศรษฐา) ประกาศว่ากองทัพจะสละที่ดินจำนวน 9,276 ไร่ เพื่อใช้ในโครงการสาธารณะและบริหารจัดการน้ำ การกระทำนี้ถือเป็นความพยายามที่จะหันเหความสนใจไปจากประเด็นหลัก นั่นคือ ปัญหาการดำรงอยู่ของ กอ.รมน. และบทบาทของกอ.รมน.ในการทำลายหลักการประชาธิปไตย”
“การตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีที่จะไม่สนับสนุนร่างพระราชบัญญัติยกเลิก กอ.รมน. นั้น เป็นมากกว่าจุดยืนเชิงนโยบายเดียว” Thai Enquirer ตั้งคำถามก่อนการตอบกลับของนายกรัฐมนตรี “มันเป็นการเปิดเผยตัวละคร มันเผยให้เห็นถึงความเต็มใจที่จะหลีกเลี่ยงความจำเป็นทางศีลธรรมของการปกครอง เพื่อประโยชน์ของการมีอายุทางการเมืองที่ยืนยาวหรือไม่ เพื่อชีวิตที่ง่ายขึ้นภายใต้การควบคุมหรือไม่”
ที่มา: