พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมใหญ่สมัชชารัฐสภาอาเซียน(AIPA) ครั้งที่40 พร้อมกล่าวต้อนรับคณะผู้แทนรัฐสภากลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนตอนหนึ่งว่า ตลอดระยะเวลากว่า40 ปีAIPA เป็นองค์กรคู่ขนานที่เติบโตเคียงข้างกับอาเซียนมาอย่างยาวนานและช่วยเติมเต็มการทำงานของฝ่ายบริหารผ่านกระบวนการทางนิติบัญญัติและมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการเสริมสร้างความเข้มแข็งทั้งนี้ฝ่ายบริหารของอาเซียนจำเป็นต้องพึ่งพาAIPA ในการส่งต่อนโยบายให้ถึงประชาชนด้วยความร่วมมือและการสนับสนุนจากภาคนิติบัญญัตินโยบายต่างๆจึงเกิดขึ้นได้และประสบความสำเร็จ
ปัจจุบันอาเซียนต้องเผชิญความท้าทายอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นประเด็นการค้ามนุษย์อาชญากรรมหรือสิ่งแวดล้อมตนรู้สึกยินดีที่ได้ทราบว่าAIPA ได้ร่วมมือกันผลักดันภูมิภาคอาเซียนให้เป็นประชาคมที่ยั่งยืนโดยเฉพาะความพยายามที่จะสร้างอาเซียนให้ปลอดยาเสพติดอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ขอชื่นชมผลการประชุมคณะมนตรีที่ปรึกษาของสมัชชารัฐสภาอาเซียนว่าด้วยยาเสพติดอันตราย(AIPACODD) ครั้งที่2 เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมาโดยเห็นพ้องต่อแนวทางพัฒนาทางเลือกและตกลงร่วมกันที่จะบูรณาการการพัฒนาชุมชนในทุกด้านให้มีภูมิต้านทานและมีความยินดีอย่างยิ่งที่คณะมนตรีที่ปรึกษาของสมัชชารัฐสภาอาเซียนว่าด้วยยาเสพติดอันตรายได้ไปศึกษาดูงานณสถานีเกษตรหลวง-อินทนนท์ซึ่งเป็นโครงการที่มีผลเชิงประจักษ์ในการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืนโดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า อีกปัญหาที่สำคัญคือสิ่งแวดล้อมและโลกร้อนที่อาเซียนให้ความสำคัญมาโดยตลอดต้องร่วมมือกันประเทศไทยในฐานะประธานอาเซียนมุ่งมั่นแก้ไขทุกปัญหาการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนได้มีปฏิญญากรุงเทพฯว่าด้วยการต่อต้านขยะทะเลในภูมิภาคอาเซียนถือเป็นก้าวสำคัญในการริเริ่มแก้ปัญหาดังกล่าวหวังว่าAIPA จะนำปฏิญญากรุงเทพฯไปใช้เป็นกรอบในการทำงานต่อไปย้ำว่าจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังให้ประชาชนเป็นศูนย์กลางจำเป็นต้องผลักกฎหมายให้เป็นสากลลดภาระของประชาชนโลกกำลังเปลี่ยนแปลงทั้งจากเทคโนโลยีและดิจิทัลนำไปสู่การแก้ไขอย่างเป็นระบบและยั่งยืนที่สำคัญต้องแก้ทั้งกฎหมายและจิตสำนึกไปด้วยกันขณะนี้ทำงานกับอาเซียนร่วมกันในหลายมิติอาเซียนมีศักยภาพที่จะเดินไปข้างหน้าด้วยกันอย่างเข้มแข็งและอดทนภายใต้ความร่วมมือมิตรประเทศต่างๆ
"ขอให้ทุกคนให้ความสำคัญกับAIPA และให้การสนับสนุนในการทำงานเพื่อสอดคล้องกับการทำงานของรัฐบาลและรัฐสภายืนยันว่าไทยพร้อมสนับสนุนการทำงานของเลขาธิการอาเซียนสมัชชารัฐสภาอาเซียนส่งเสริมความร่วมมือเพื่อขับเคลื่อนประชาคมอาเซียนเมื่อร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมและสร้างความก้าวหน้าในทุกมิติในนามของนายกรัฐมนตรีและประธานอาเซียนสิ่งใดที่สามารถเห็นชอบร่วมกันก็ดำเนินการแต่หากเรื่องใดที่มีปัญหาก็ขอให้นำไปสู่การพูดคุยเพื่อให้มีผลสัมฤทธิ์ร่วมกันออกมา"นายกรัฐมนตรี กล่าว