ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภาพิจารณาการแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภา โดยนายไชยา พรหมา ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ปี 2557 ช่วงที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมเข้ามายึดอำนาจและบริหารประเทศ ในปี 2558 ขาดดุลงบประมาณ 2.5 แสนล้านบาททำให้ต้องกู้เงินมา ปี 2559 กู้มา 3.9 แสนล้านบาท ปี 2560-2561 กู้มา 5.5 แสนล้านบาท ปี 2562 กู้มา 4.5 แสนล้านบาท ตลอดเวลา 5 ปีของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ สร้างหนี้ให้ประเทศติดต่อกันสูงสุดในประวัติศาสตร์ กู้เงินมาสูงถึง 2.2 ล้านล้านบาท สะท้อนให้เห็นว่าคนเขาไม่มีความเชื่อมั่นว่าสถานการณ์การเมืองภายใต้การบริหารของพล.อ.ประยุทธ์จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้

"เราไม่ต้องอ้างว่าตอนนี้อยู่ภาวะสถานการณ์สงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ถ้าดูประเทศอาเซียนเรามีการประมาณการว่าการขยายตัวเศรษฐกิจของเราอยู่ที่ 3.1 เปอร์เซ็นต์ แต่เพื่อนบ้านจีดีพีโตสูงขึ้นกว่าไทย เขาไม่ได้อ้างสถนการณ์สงครามการค้าระหว่างประเทศ ผมอยากเห็นรัฐบาลนี้ได้คิดถึงการแก้ไขปัญหา ตลอดเวลา 5 ปีคนไม่มีจะกินไม่มีกำลังซื้อ" นายไชยา ระบุ

นายไชยา ระบุว่า ตนอยากเห็นรัฐบริหารจัดการทันสมัยโดยวันนี้ผู้ซื้อผู้ขายไม่จำเป็นต้องเจอหน้ากัน วันนี้เราจะพัฒนาให้เกษตรกรเป็นผู้ค้าได้หรือไม่ 

'ประยุทธ์' แจงแก้ภัยแล้ง น้ำไม่พอ ฝนตกใต้เขื่อน ยันจีน-ลาวปล่อยน้ำมาแล้ว

ต่อเวลา 16.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ชี้แจงที่ถูกพาดพิงต่อรัฐสภาว่า "ผมพูดเร็วไปนิด พูดไปช้าง กลืนน้ำลายบ้าง เพราะผมเป็นมนุษย์นะ ท่านพูดเก่งก็เรื่องของท่าน ผมพูดแล้วทำไปด้วยนะครับ เรื่องบริหารจัดการภัยแล้งเราทำตลอด การบริหารจัดการน้ำทุกจังหวัด ทุกกิจกรรมน้ำ น้ำเพื่ออุปโภคบริโภค ประปา น้ำเพื่อการเกษตร น้ำเพื่อการอุตสาหกรรม น้ำเพื่อระบบนิเวศน์ มีเอกสารชัดเจนทั้งหมดถ้าสนใจมาขอศึกษาดูได้ ยกระดับทุกอย่าง ปัญหาเราทุกวันนี้น้ำไม่เพียงพอ ฝนไม่ตก ตกใต้เขื่อน เก็บน้ำได้น้อย นอกจากนั้นมีปัญหา เมื่อฝนไม่ตกก็ไม่มีปัญหาแน่นอน แต่รัฐบาลจะต้องแก้ไข โดยพัฒนาแหล่งน้ำ เอาน้ำในแม่น้ำโขงขึ้นมาใช้ได้อย่างไร เพราะเป็นแม่น้ำระหว่างประเทศมา ไม่ง่ายที่จะทำทุกอย่าง 

สำหรับระดับน้ำในแม่น้ำโขงก็เพิ่มขึ้น โดยตนได้ติดต่อประเทศจีนและลาวก็ปล่อยน้ำในเขื่อนออกมา ทำให้ระดับน้ำเริ่มสูงขึ้น แต่ยังไม่เพียงพอ เพราะจีนตอบมาว่าในประเทศจีนก็แล้งน้ำเช่นเดียวกัน นี่คือปัญหาโลกของเรา ถ้าติติงไม่สร้างสรรค์เลยไม่ได้ บางพื้นที่สูงส่งน้ำไม่ได้ วันนี้ส่งน้ำจนเกินขนาดแล้ว ปัญหาต่อไปจะทำให้น้ำอุปโภคและบริโภคไม่มี

ซัดกลับรัฐบาลก่อนกู้มา 2 ล้านล้านแต่ไม่เกิดถนน - รถไฟ

พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงว่า วันนี้มีปฏิบัติการฝนหลวงบินไปแล้วกว่า 5,000 ชั่วโมง 3,000 กว่าเที่ยว ใช้สารเคมีกว่า 5,000 ตัน ตรงไหนที่มีเมฆก็ทำ ตรงไหนไม่มีเมฆอย่าทำฝนหลวงให้สิ้นเปลือง แต่เราจะปล่อยน้ำที่มีอยู่ ถ้ามีน้ำอีกก็จะปล่อยอีก เรื่องต่อไปเดี๋ยวเสียงดังไปหรือเปล่าไม่รู้นะ ไม่ได้พูดนานแล้ว ผมก็สุภาพเรียบร้อย นี่ผมยิ้มอยู่นะ 

"ท่านบอกว่าท่านต้องการงบประมาณ งบประมาณมาจากไหน ตอบผมสักทีสิ งบประมาณมาจากภาษี มาจากเงินกู้ แล้วรายได้ที่เราเก็บมา 2 ล้านล้านบาท เราจำเป็นต้องตั้งงบประมาณขาดดุลไว้เพราะเผื่อตัวเลขนั้นไว้เพื่อจะกู้ก็ได้ไม่กู้ก็ได้ ถ้ากู้ก็เพื่อการลงทุน ที่ผ่านมากี่รัฐบาลแล้วตัวเลข 2 ล้านล้านบาทก็ไม่รู้ แต่ทำไมไม่เกิดถนน หนทาง รถไฟ ทำไมไม่เกิดอีอีซี มันหายไปไหนตอบคำถามผมให้ได้ ที่สร้างหนี้ เป็นหนี้ให้เกิดรายได้หรือเปล่าแต่ก่อนมีการลงทุนโดยภาครัฐอย่างเดียว แต่ตอนนี้มีเอกชนมาร่วมลงทุนด้วย" พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ 

พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า เรากำลังถูกมองว่าการเจริญเติบโตได้ช้าในการลงทุน เพราะสงวนอาชีพสำหรับคนไทยโดยเฉพาะ และควรจะเปิดกว้างให้ต่างประเทศถือหุ้นได้มากกว่าคนไทย ตนยังไม่ยอม ส่วนที่เรามีนโยบายว่าจะมีชีวิตรายได้เพียงพอไม่ได้สอนให้คนยากจน มีคนพูดใครไม่รู้จำตัวเองให้ได้ ต้องมีเหตุมีผล มีภูมิคุ้มกัน หนี้ครัวเรือนเกิดจากการใช้จ่ายฟุ่มเฟือย

เหน็บให้ ส.ส. หัดใช้บัตรคนจนไปรูดซื้อกล้วยแขก

พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงเรื่องบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือบัตรคนจนว่า "ที่เขามีเครื่องอ่านบัตร (บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ)ท่านไปไม่ทันเหรือเปล่า วันหลังให้บัตรเขาไปสักใบ ถ้าร้านกล้วยแขกซื้อเครื่องอ่านบัตรก็ซื้อกล้วยแขกได้เหมือนกันวันนี้ วันนี้อี-วอลเล็ทใส่ไปได้ กรุณาตามสิ่งที่เราทำมา 5 ปีด้วย" 

นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ตอนนี้ มีคดีคงค้างกว่า 1,000 คดี โดยไม่ระบุว่าหมายถึงใคร แต่ให้บุคคลที่เกี่ยวข้องเตรียมตัวไว้ พร้อมย้ำว่า เอกสารวันนี้เอามาท่วมตัวจนหาไม่เจอแล้ว

แจงแก้ไฟใต้ ย้ำทหารปัดยิงประชาชนก่อน

ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงการแก้ไขปัญหาใช้ชายแดนภาคใต้ ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องที่อันตราย ต้องยอมรับว่าปัญหานี้มีมายาวนาน ไม่เหมือนกับต่างประเทศ หลักการใช้กันไม่ได้จะใช้หลักสิทธิมนุษยชนมากเกินไปก็ไม่ได้ เพราะจะทำให้เกิดปัญหา เพราะคำว่าสิทธิมนุษยชนกับการละเมิดกฏหมายอาญา การฆ่าคนตายมันเป็นคนละเรื่องเดียวกัน เมื่อไหร่ที่ต้องมีการจับกุมก็ต้องดูแลเจ้าหน้าที่ ถ้าทำผิดก็ต้องไล่ออกหรือจับเข้าคุก เราทำงานกันแบบนี้ ซึ่งวันนี้ก็มีการพัฒนามากขึ้น แต่ก็ต้องแก้ไขปัญหาไปเรื่อยๆให้ได้ วันนี้ปัญหาไม่ได้เกิดที่รัฐบาลและไม่ใช่อยู่ดีๆเจ้าหน้าที่จะไปยิงใครก่อน ทหารเขาไม่ยิงประชาชน เพราะเราเป็นคนไทยด้วยกันจะยิงกันทำไม เราถูกสอนมาแบบนี้ เวลาที่เจ้าหน้าที่ถูกซุ่มยิง ใครร้องเรียนให้เจ้าหน้าที่บ้างเขาลาดตระเวนไปกับครูกับเด็กนักเรียน และพระแต่ถูกยิงแบบนี้แล้วเงียบ แต่พอถึงเวลาคนทำผิดก็มาบอกว่าถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน เรื่องนี้เราต้องดูให้ดี เรามีกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ขนาดนี้ก็มีการเจรจาพูดคุยสันติสุข แต่ไม่ได้หมายความว่าเรายกระดับขึ้นมาพูดคุย เราไม่ให้กฎหมายไทยไปเจรจากับใคร มันไม่ได้เลย เรียกแค่ว่าเป็นการพูดคุยสันติสุขที่ต่างประเทศนำมาสู่การไม่มีผู้ก่อเหตุใดๆหรือมีการยึดพื้นที่ใด แม้แต่ตารางนิ้วเดียว เจ้าหน้าที่รัฐสามารถลงได้ทุกพื้นที่ 

“ต่างประเทศ เขาเข้าใจกับการแก้ไขปัญหา มีแต่ในประเทศไทยนี่แหละที่ไม่พอใจ ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจจะให้ดูแลผู้ร้ายกันตลอดไป แล้วเจ้าหน้าที่ผิด ผมก็ยอมรับ แต่ขอให้หาหลักฐานมา อย่าพูดลอยๆ และที่จับมาแล้ว มากล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่รัฐซ้อม มันไม่จริง ดูหนังมากไปกันหรือเปล่า” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงนโยบายทางด้านความมั่นคง ว่า ตนให้เกียรติกับทุกคน แต่บางครั้งอาจดูเสียงดังบ้าง เพราะมันกดดันพวกท่านบอกให้ตนรักษากิริยา แต่บางครั้งตนมองไปพวกท่านก็ไม่มีกิริยาให้ตน ทั้งนี้การซื้อยุทโธปกรณ์ ซื้อในสิ่งที่เราใช้ได้และมีประสิทธิภาพ ทำไมตนจะไม่อยากได้ของถูกหรือของดีที่สุด แต่เราก็มีงบประมาณจำกัด ในส่วนเรื่องของการทุจริตหลักฐานมาก็ไปหาหลักฐานมา ไปฟ้องมาคดี เพื่อดำเนินคดี เขามีกรรมการตั้งหลายคณะอย่างที่ซื้อมาไม่ได้ซื้อที่ร้านโชห่วยข้างถนน เรือดำน้ำ 6 ปี จะได้หนึ่งลำใหม่ ที่ซื้อไม่ใช่ซื้อวันนี้แล้วได้พรุ่งนี้ เราต้องส่งทหารไปอยู่กับเขาถึง 3 ปีไปส่งไปอยู่กับเขาถึง 3 ปีตั้งแต่เริ่มต้นผลิตให้ปัญหาระบบเรือ หลักการซื้อต้องบวกการซ่อมบำรุง นั้นคือแพ็คเก็จ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์พูดถึงตรงนี้ก็ได้ชี้นิ้วไปยังผู้ประท้วง ซึ่งเป็นอดีตนายทหารและพูดว่าพวกท่านก็รู้ดี เพราะเป็นลูกน้องตนมาก่อน เป็นทหารเหมือนกัน ขอให้เข้าใจ ซึ่งนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาได้กล่าวเตือนว่าอย่าชี้นิ้ว พล.อ.ประยุทธ์จึงได้กล่าวขอโทษ พร้อมกับหัวเราะและบอกว่ารูปแบบในสภาฯอาจเปลี่ยนไปบ้างต้องขออภัย