17 เม.ย. 2566 เวลา 17.00 น. โสภณ สุรฤทธิ์ธำรง นักกิจกรรมกลุ่มโมกหลวงริมน้ำ และเพื่อนนักกิจกรรมกว่า 10 คน ร่วมกันทำกิจกรรมที่สถานีรถไฟฟ้าหมอชิต เนื่องในวันครบรอบ 9 นายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ ชาวบ้านชาติพันธุ์กะเหรี่ยงคนหนึ่งในบ้านโป่งลึก-บางกลอย อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ถูกอุ้มหาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในวันนี้ กลุ่มนักกิจกรรมได้สวมชุดนักโทษออกศาล ปิดปากด้วยหน้ากากอนามัยสีดำ และชูป้ายข้อความต่างๆ บนรถไฟฟ้า อาทิ “บิลลี่ยังไม่ได้รับความเป็นธรรม” “ยุติการผลิตซ้ำความรุนแรงจากกระบวนการ (อ)ยุติธรรม” “พ.ร.บ.ป้องกันซ้อมทรมานและอุ้มหาย มีผลบังคับใช้แล้ว แต่ตำรวจขอเลื่อนเวลาอ้างว่าไม่พร้อม” “9 ปี ที่ถูกอุ้มหาย 9 ปี ที่บังไม่ได้รับความยุติธรรม คงามยุติธรรมที่ล่าช้าคือความอยุติธรรม” ฯลฯ
ด้านโสภณ สุรฤทธิ์ธำรง หรือ เก็ท แกนนำฯ กล่าวว่า สำหรับกิจกรรมในวันนี้ ตนและเพื่อนได้ทำการรณรงค์ถึฃกรณี 9 ปีการอุ้มหายบิลลี่ กับมรดกของกระบวนการ(อ)ยุติธรรม โดยนำเสนอถึงกระบวนการยุติธรรมที่บิดเบี้ยวและสร้างความเสียหายให้ประชาชน
“เหตุการณ์ดังกล่าว 9 ปีแล้ว คนที่ถูกฟ้องตอนแรกโดนปลดออกจากราชการสุดท้ายก็กลับเข้ามาได้ใหม่ นี่คือภาพสะท้อนความอยุติธรรม ปัจจุบันยังไม่ทราบว่าคดีจะคืบหน้าไปถึงไหน มีประชาชนหลายคนในปัจจุบันที่พยายามจะเรียกร้องเรื่องสิทธิที่ดินทำกิน สิทธิมนุษยเสียชน แต่ถูกกระบวนการกฎหมายกลั่นแกล้ง วันนี้เราจึงมาสื่อสารว่าถ้าหากเสรีภาพแสดงออกเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน เราต้องการถือโอกาสที่จะนำเสนอประเด็นนี้ให้สังคมได้รับทราบและรณรงค์ให้ยุติการผลิตซ้ำความรุนแรงทางกฎหมายไม่ให้มีการปิดปากประชาชน”เก็ท กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับความคืบหน้าในคดีฆาตกรรมบิลลี่ พอละจี นั้น อัยการสูงสุดมีคำสั่งให้ฟ้องชัยวัฒน์และพรรคพวกทั้ง 4 คน ในข้อหาร่วมกันฆ่า และผู้ต้องหาตกเป็นจำเลย ซึ่งศาลได้รับฟ้องนำไปสู่การสืบพยานทั้ง 2 ฝ่าย โดยสืบพยานครั้งแรกในวันที่ 24 เม.ย. 2566